ใช้รถมักง่ายต้องระวัง หลากข้อบังคับทางกฎหมายจราจรกำลังเริ่มแล้ว
- โดย : Autodeft
- 30 มิ.ย. 57 00:00
- 8,715 อ่าน
ตามติดชีวิตาสังคมถนนกฏที่มากขึ้นเืพ่อสร้างระเบียบการจราจร คุรรู้แล้วรึยังว่าในรอบปีกรมการขนส่งทางบก-ยก.จร. ทำอะไรไปบ้าง มักง่าย ชอบฝ่าฝืนกฏต้องระวังให้ดี
ตั้งแต่มีโครงการรถยนต์คันแรกออกมา เมื่อสองปีที่แล้ว การจราจรบ้านเรานั้นดูจะกลายจากการจราจร เป็นจลาจล ในบัดดล ด้วยจำนวนผู้ใช้รถยนต์บนถนนที่เพิ่มมากขึ้น ไปจนถึงการขับขี่ของทั้งบรรดามือใหม่ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือมือเก๋า ที่แสร้งว่าตัวเองมากประสบการณ์ จนทำให้ถนนทุกวันนี้เปี่ยมด้วยความอันตรายมากกว่าการอำนวยความสะดวกในปัจจุบัน
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้ในระยะหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มมีมาตรการคุมเค้มมากขึ้นในหลายด้านเพื่อสร้างวินัยการจราจรให้มากขึ้น โดยหวังว่ามันจะตอบโจทย์ให้ผู้ใช้มีจิตสำนึกมากขึ้น แต่การสร้างจิตสำนึกเหล่านี้ อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์อย่างที่คิด
ในช่วงปีที่ผ่านมาทาง กองบังคับการตำรวจจราจรชูเรื่องการคุมเข้มวินัยการจราจรมากขึ้น และเป็นประเด็นหลักๆที่ทำมาตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการพยายามบังคับใช้กฎหมายในแง่ต่างๆมากขึ้น แม้บ้างอาจจะเป็นแนวทางแต่ทั้งหมด ก็เรียกว่าน่าจะทำให้บรรยากาศ การใช้รถใช้ถนนดีขึ้น
เริ่มตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กฎแรกที่ทางบกจร. เริ่มจริงจังต่อถนนเมืองไทยมากขึ้น ก็คือการจับ 13 ข้อหาวินัยการจราจรที่เน้นในการกระทำผิดมักง่ายในด้านต่างๆ ซึ่ง ส่วนใหญ่การกระทำความผิดเหล่านี้จะถูกจับตาโดยกล้องวงจรปิดที่เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่
13 ข้อหาที่เริ่มทำมาแล้วตั้งแต่เมื่อต้นปี ส่วนใหญ่ก็เป็นความผิดที่เรามักคุ้นกันดี และแทบทั้งหมด เกิดจากความมักง่ายในการขับขี่ จนอาจจะเป็นการทำให้เป็นต้นตอของอุบัติเหตุได้ในที่ ข้อหาสำคัญๆ ที่ได้บังคับในงวดนั้น และเข้มในการคุมวินัย ได้แก่ 1.จอดรถในที่ห้ามจอด 2.จอดรถซ้อนคัน 3.จอดรถบนทางเท้า 4.ขับรถบนทางเท้า 5.แซงรถในที่สาธารณะ 6.ขับรถย้อนศร 7.ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง 8.เมาแล้วขับ 9.ไม่คาดเข็มขัด 10.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ 11.แซงรถในที่คับขัน 12.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และท้ายสุดขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด และไม่น่าแปบกใจเท่าไร ที่จะมีคนจำนวนไม่น้อยได้รับใบสั่งมากมาย จากข้อหาเหล่านี้
หลังจากบังคับใช้กฎจราจรอย่าเข้มข้นมาได้หกเดือน ซึ่งทำให้บรรยากาศการจราจรดีขึ้นตามลำดับ ทางกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรงในการควบคุมการอนุญาตขับขี่รถยนต์ ก็เริ่มปรับความเข้มข้น อีกครั้งในการสร้างบรรยากาศการขับขี่ ด้วยการเล็งเป้าที่กลุ่มผุ้ใช้รถยนต์กลุ่มใหม่ที่ควรจะเข้าใจกฎจราจรเป็นอย่างดี ก่อนที่จะลงสู่สนามขับขี่จริง
ด้วยการปรับการสอบข้อเขียนให้เข้มข้นมากขึ้น จากเดิมที่ 75 % นั้น ก็ถือว่าผ่านแล้ว แต่ในกฎหมายบรรดามือใหม่ต้องผ่านการสอบข้อเขียนถึงร้อยละ 90 จึงจะผ่าน แถมข้อสอบทั้งหลายนั้นก็มีมากขึ้น จากเดิม 300 ข้อที่เราคุ้นเคยกันดีก็กลายเป็น 1,000 ข้อ มิหนำซ้ำยังเตรียมจะปรับภาคการอบรมให้เป็นสากลมากขึ้น ด้วยการให้ผุ้ที่ต้องการขอใบอนญาติขับขี่ต้องเข้าอบรม 12 ชั่วโมงตามมาตรฐานของสหประชาชาติ
ทางด้านมือเก่าเองก็เตรียมอ่วมเช่นกัน เพราะไม่นานมานี้ ทางด้านกรมการขนส่งเองเล็งในการเอากฎที่เคยบังคับกลับมาอีกครั้งในพักใช้ใบอนุญาตการขับขี่ เมื่อมีการกระทำความผิดซ้ำซ้อน โดยกรมขนส่งมันใจว่ากระบวนการดำเนินการทั้งหมด จะสามารถเริ่มได้ใน 2 เดือนต่อจากนี้ นับเป็นความน่าสนใจอีกครั้งของการใช้รถใช้ถนนเมืองไทย
ตามรายละเอียดที่ออกมา ในเบื้องต้นจากการหาแนวทางในการพักใช้ใบอนุญาตการขับขี่นั้น จะเริ่มต้นด้วยการการพักใช้ใบขับขี่ 30 วัน เมื่อมีการกระทำผิดข้อหาเดียวกันซ้ำสอง แต่หากพักยังมีครั้งที่ 3 นั้น อาจจะพักใช้ใบขับขี่ต่อในระยะเวลา 60-90 วัน แล้วแต่กรณีและข้อหาที่กระทำความผิด และในรอบปีหากมีการกระทำผิดซ้ำบ่อยมากกว่า อาจจะใช้บทลงโทษในการถอนใบอนุญาตการขับขี่ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่เราต้องติดตาม
การขับขี่ทุกวันนี้ถูกคุมเข้มมากขึ้น นับว่าเป็นผลดีต่อการจราจรในบ้านเราที่ต้องเข้มงวดมากขึ้น แต่นอกจากการบังคับใช้กฎแล้ว ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ผู้ผลิต ไปจนถึง กรมการขนส่ง ยังต้องมองถึงระยะยาวในการปลูกฝังจิตสำนึกการขับขี่ที่ดีให้แก่ผู้ใช้รถยนต์บนถนนด้วย
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com