Triumph ประกาศความสำเร็จในการทดสอบขั้นสุดท้ายของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า TE-1 แล้ว
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 14 ก.ค. 65 00:00
- 3,902 อ่าน
Triumph ประกาศถึงโครงการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Triumph TE-1 ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมเผยผลทดสอบรถต้นแบบในขั้นสุดท้ายที่ได้ผลลัพธ์เกินกว่าที่คาดหมายไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอันน่าทึ่งของความร่วมมือในครั้งนี้
- ระยะทาง 161 กม. / 100 ไมล์
- ผลการทดสอบบนถนนจริง รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Triumph TE-1 สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลมากกว่าจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ด้วยระยะทาง 161 กม./100 ไมล์ ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ไกลที่สุดเมื่อเทียบกับจักรยานยนต์ไฟฟ้าประเภทเดียวกันในปัจจุบัน
- กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177PS / 175bhp)
- รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Triumph TE-1 มาพร้อมอัตราเร่งพื้นฐานที่น่าทึ่ง โดยสามารถทำความเร็วได้ 0 - 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 3.6 วินาที และ ที่ 0 - 100 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 6.2 วินาที
- เวลาในการชาร์จ 20 นาที (0-80%)
- พลิกวงการความสามารถในการชาร์จไฟฟ้าได้เร็วกว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นที่เทียบเคียงกันในปัจจุบัน
- น้ำหนัก 220 กก. ด้วยอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่เหลือเชื่อ
- น้ำหนัก TE-1 เบากว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นที่เทียบเคียงกันได้ในปัจจุบันถึง 25%
- รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่พัฒนาได้ถึงขั้นสุดท้ายอย่างน่าทึ่ง แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำการจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ระดับแถวหน้าของ Triumph และส่งสัญญาณความน่าตื่นเต้นถึงแฟน ๆ ของไทรอัมพ์ทั่วโลกที่กำลังจะได้สัมผัสในอนาคต
- เสียงท่อรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์อิเล็คทริคใหม่ที่ให้เสียงดังกระหึ่มและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยความดังที่ค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นช่วยปลุกโสตประสาทให้เกิดความรู้สึกเร้าใจไปพร้อมกับการขับขี่
- หลักสรีรศาสตร์ รูปทรง และการกระจายน้ำหนักของรุ่น Speed Triple ผสานอย่างลงตัวกับขนาดและรูปลักษณ์ของรุ่น Street Triple
- ให้ความรู้สึกเร้าใจในการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของ Triumph และการควบคุมที่ได้สมดุล พร้อมระบบปรับเปลี่ยนการตั้งค่าคันเร่ง และแรงบิดเทียบเท่ากับรุ่น Speed Triple 1200 RS
- สไตล์และรูปลักษณ์ที่เป็นไทรอัมพ์แบบ 100% พร้อมดีไซน์ที่บ่งบอก DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
ความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง Triumph Motorcycles, บริษัท Williams Advanced Engineering, บริษัท Integral Powertrain และศูนย์ WMG แห่ง University of Warwick โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (The Office for Zero Emission Vehicles หรือ OZEV) ผ่าน Innovate UK ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อการสร้างการพัฒนาที่ก้าวล้ำในด้านวิศวกรรมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเฉพาะทางและการออกแบบทางเทคโนโลยีที่มีการบูรณาการเชิงนวัตกรรม
โปรแกรมการทดสอบบนถนนจริงที่ครอบคลุมทั้งการประเมินประสิทธิภาพของจักรยานยนต์บนถนนลูกรังและในสนามแข่ง ได้มีการปรับแต่งค่าสำคัญต่างๆขั้นสุดท้าย ซึ่งในวันนี้รถต้นแบบ Triumph TE-1 สามารถตอบโจทย์ของทุกเป้าหมายและวัตถุประสงค์แล้ว
โครงการ เฟส 4 เสร็จสมบูรณ์
ระยะการทดสอบบนถนนจริงของโครงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Triumph TE-1 ขณะนี้เสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการแล้ว พบว่ารถต้นแบบมีสมรรถนะเกินความคาดหมายและให้ผลลัพธ์ที่เหลือเชื่อ ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของโครงการทั้งหมด ทั้งในด้านการเร่งการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรม การกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับภาคอุตสาหกรรมนี้โดยรวม ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพในขั้นสุดท้ายของแบตเตอรี่และระยะทางวิ่ง ความเชี่ยวชาญและขีดความสามารถที่พัฒนาขึ้นทั่วทั้งโครงการได้ปูทางไปสู่อนาคตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอันน่าตื่นตาตื่นใจจาก Triumph มอเตอร์ไซเคิลส์
ก้าวขึ้นไปอยู่แถวหน้าด้วยระยะทาง 161 กม. / 100 ไมล์
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ Triumph TE-1 มีระยะทางวิ่งจริงได้ไกลกว่าระยะทางของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่เทียบเคียงกันที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งบรรลุเป้าหมายทั้งหมดของโครงการเกี่ยวกับความจุพลังงานของแบตเตอรี่ที่พัฒนาโดยโครงการ Williams TE-1 โดยวิ่งได้ระยะทาง 161 กม. / 100 ไมล์อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้อ้างอิงจากการทดสอบอย่างเป็นทางการและการคาดการณ์
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TE-1 มาพร้อมเบรกระบบใหม่ที่เหมาะสมกับจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนประสิทธิภาพที่มากขึ้นในชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบใช้มอเตอร์และเกียร์ ซึ่งสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไทรอัมพ์รุ่นต่อ ๆ ไปในอนาคต
สมรรถนะที่ใกล้เคียงกับรุ่น Speed Triple 1200 ด้วยอัตราเร่ง 0-100 ไมล์/ชม. ที่เร็วกว่าเดิม
ด้วยระดับประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับรุ่น Speed Triple 1200 ปัจจุบัน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ TE-1 ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177PS / 175bhp) รวมถึงแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร (80 lb-ft) เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว การควบคุมที่ราบรื่น ให้กำลังสูงสุดตลอดช่วงความเร็วและการขับขี่ที่เร้าใจอย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TE-1 ยังมีผลการทดสอบอัตราเร่งอันน่าทึ่ง จาก 0 - 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 3.6 วินาที และ ที่ 0 - 100 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 6.2 วินาที
และด้วยการปรับแต่งเพิ่มเติมของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึงระบบควบคุมการยึดเกาะถนนและระบบควบคุมการยกล้อหน้าทีมงานที่รับผิดชอบในการส่งมอบโครงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TE-1 คาดหวังว่าประสิทธิภาพจะดีขึ้นไปอีก โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพของแรงบิดเต็มที่เพื่อให้เร่งเครื่องได้เร็วยิ่งขึ้นเมื่อออกตัวหลังจากรถหยุดนิ่ง
นักแข่งแชมป์รายการ Daytona 200 อย่าง แบรนดอน พาชส์ (Brandon Paasch) เข้าร่วมในการทดสอบขั้นสุดท้ายนี้ด้วย ทั้งในการประเมินสมรรถนะของเครื่องยนต์และด้วยการปรับแต่งค่าขั้นสุดท้ายของรถต้นแบบขณะทดสอบในสนามแข่ง
“การตอบสนองของคันเร่งของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า TE-1 นั้นน่าทึ่ง รู้สึกได้ถึงแรงบิดที่สูงมาก เมื่อคุณสัมผัสคันเร่งครั้งแรกจะสัมผัสได้ถึงกำลังของรถในทันที ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่ผมชอบมากในฐานะนักแข่งรถจักรยานยนต์ ผมชอบที่รถมีแรงบิดสูงและเร่งได้ทันใจ สำหรับผม มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ” แบรนดอน กล่าว “ผมรู้สึกต้องตั้งใจขี่ตั้งแต่การเปิดคันเร่งจาก 0 จนถึง 100% มันเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ มันให้ความรู้สึกถึงแรงกระชากอย่างบ้าคลั่ง”
พลิกวงการด้วยเวลาชาร์จเพียง 20 นาที
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการชาร์จไฟที่ได้รับการพัฒนาโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Triumph TE-1 โดยความร่วมมือกับ วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง (WAE) ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่นับเป็นการพลิกวงการ นั่นคือ ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 20 นาที (0-80%) ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้โดย Innovate UK ได้สำเร็จ ทั้งนี้ Innovate UK เป็นหน่วยงานวิจัยและนวัตกรรมของรัฐบาลที่สนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาจากภาคธุรกิจและการเติบโตของธุรกิจในสหราชอาณาจักร
น้ำหนักรวม 220 กก.
ด้วยน้ำหนักโดยรวม 220 กิโลกรัม (485 ปอนด์) รถต้นแบบ TE-1 จึงเบากว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่เทียบเคียงกันได้ในปัจจุบันถึง 25% ทำให้มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่เหลือเชื่อ พร้อมด้วยขนาดและสัดส่วนที่เทียบได้กับรุ่น Street Triple แต่ด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ รูปทรง และการกระจายน้ำหนักของ Speed Triple ทำให้ TE-1 ช่วยให้การขับขี่น่าตื่นเต้นอย่างสมบูรณ์ไร้ที่ติ ในขณะเดียวกันก็ให้ความมั่นใจ คล่องตัว และกะทัดรัด
“ผมได้รับประสบการณ์การขับขี่แบบนี้เมื่อขี่ Daytona การเร่งความเร็วและการเข้าโค้งนั้นให้ความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อ!” แบรนดอน กล่าว “ผมคิดว่านี่เป็นรถจักรยานยนต์ที่ดีจริง ๆ ที่จะขี่บนถนน ทั้งคล่องตัว และความรู้สึกขณะขับขี่ที่เบาสบาย”
ความรู้สึกเร้าใจอันเป็นเอกลักษณ์ของ Triumph พร้อมการควบคุมรถที่สมดุลและช่วยสร้างความมั่นใจ
ด้วยการตอบสนองของคันเร่งและการส่งแรงบิดที่พัฒนาต่อยอดจาก Speed Triple 1200 RS โดยตรงและการทดสอบบนสนามแข่งและการประเมินของผู้ขับขี่แบบไดนามิก บนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ TE-1 ทำให้รถมีระดับการควบคุมที่ตรงกับรถจักรยานยนต์ที่ให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์แบบ 3 สูบของไทรอัมพ์รุ่นปัจจุบัน
ระดับประสิทธิภาพและการเร่งความเร็วที่เร้าใจของ TE-1 ผสานกับการขับขี่ที่เร้าใจ ส่งผลให้ได้จักรยานยนต์ที่มาพร้อมสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์อย่างครบครันและการควบคุมรถที่สมดุลเป็นที่ยอมรับในระดับโลก การขับขี่ที่ราบรื่น และคล่องตัว เข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยพลังที่ควบคุมได้ ช่วยปลุกเร้าความมั่นใจและรับประกันได้ว่าจะขับขี่ด้วยความสนุก
เสียงท่อรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์อิเล็คทริคที่ให้เสียงดังกระหึ่มชัดเจนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความดังที่ค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นช่วยปลุกโสตประสาทให้เกิดความรู้สึกเร้าใจไปพร้อมกับการขับขี่
เสียงท่อที่โดดเด่นและปลุกเร้าของรถต้นแบบ Triumph TE-1 ซึ่งส่งความดังที่ค่อย ๆ เพิ่มระดับขึ้น ให้เสียงที่ดังชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ น่าดึงดูดและน่าตื่นเต้นกว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ที่เทียบเคียงกันได้ในปัจจุบัน ขอบคุณเกียร์ฟันเฉียง อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ในการทดสอบระดับเสียงรบกวนที่ศูนย์ตรวจวัดเสียงรบกวนภายนอกของสนามทดสอบ Mira รถรุ่น TE-1 ผ่านมาตรฐานการทดสอบ R41 Homologationด้านเสียงทั้งหมดทั้งรูปแบบการขับขี่เปิดคันเร่งจนสุด การขับขี่แบบครุยเซอร์ และการขับขี่ในเมือง
สไตล์และความเป็น Triumph 100% พร้อมดีไซน์อันบ่งบอกถึง DNA
รูปลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งของรถต้นแบบ TE-1 ที่รับรู้ในทันทีว่าเป็น Triumph ใช้แนวคิดการออกแบบอันเป็นแบบฉบับที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของของแบรนด์รถจักรยานยนต์สมรรถนะสูง ในขณะเดียวกันก็สะท้อนความเป็นจักรยานยนต์แห่งอนาคตอย่างชัดเจน โดยล่าสุดได้ปรับปรุงแผงตัวถังและโทนสี รถต้นแบบนี้ได้นำสไตล์และตัวตนที่เป็นแบบ Triumph 100% พร้อม DNA การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตั้งแต่โครงอะลูมิเนียมไปจนถึงไฟหน้าคู่อันโดดเด่น รวมถึงท่านั่งในการขับขี่
เสร็จสิ้นโครงการ TE-1
“เราได้เห็นการตอบสนองเชิงบวกอย่างเหลือเชื่อต่อรถต้นแบบ TE-1 จากนักขี่มอเตอร์ไซค์ทั่วโลก ซึ่งหลายคนบอกเราว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขามองว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นน่าสนใจ และเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง นับเป็นก้าวแรกในการเดินทางสู่การพัฒนาแนวทางในอนาคตของเราในด้านเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฟฟ้า รถต้นแบบ TE-1 และผลลัพธ์อันน่าทึ่งที่รถรุ่นนี้ทำได้ในการทดสอบอย่างเข้มข้นได้ให้ข้อมูลที่สำคัญเชิงลึกและแสดงถึงขีดความสามารถ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาในอนาคตของเราในท้ายที่สุด แน่นอน รถจักรยานยนต์ที่ผลิตออกมาเพื่อการจำหน่ายจะไม่เป็นอย่างที่คุณเห็นในวันนี้ แต่วางใจได้เลย ทุกโมเดลที่เราพัฒนาจะครอบคลุมสิ่งที่ได้เรียนรู้มาทั้งหมด รวมถึงคุณสมบัติอันน่าหลงใหลและน่าตื่นเต้น” มร.สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ Triumph มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าว
โดยรวมแล้ว วัตถุประสงค์หลักของโครงการ TE-1 นั้นมุ่งเน้นที่การพัฒนาความสามารถของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาโดยตลอด เพื่อเป็นข้อมูลการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของ Triumph นวัตกรรมการขับเคลื่อน ขีดความสามารถ และทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ ตลอดจนการเพิ่มความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของอุตสาหกรรมและการออกแบบของอังกฤษ
ความสำเร็จในขั้นตอนการทดสอบบนถนนจริง ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐานและเป้าหมายในปัจจุบัน ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพสูงสำหรับการพัฒนาประสิทธิภาพของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
“เรารู้สึกภูมิใจอย่างมากที่สามารถแบ่งปันผลลัพธ์เชิงบวกดังกล่าวจากความสำเร็จของโครงการ Triumph TE-1 ซึ่งรถต้นแบบนี้ทำได้เกินเป้าหมายและความคาดหวังในขั้นต้นของเราหลายประการ ทุกคนในทีมต่างตื่นเต้นกับผลลัพธ์ที่เราบรรลุร่วมกับพันธมิตรของเรา และเฝ้ารอดูว่าผลสำเร็จของโครงการจะเอื้อต่ออนาคตการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าจากไทรอัมพ์ได้อย่างไร” มร. นิค บลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Triumph มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าว
วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง (WAE)
“WAE รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการอันน่าตื่นเต้นนี้เพื่อพัฒนารถต้นแบบ TE-1 นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2018 พันธมิตรทั้งหมดได้ทำงานด้วยความร่วมมือ นวัตกรรม และความหลงใหลในการนำรถต้นแบบที่ทลายขีดจำกัดต่างๆ มาพัฒนาให้ใช้งานได้ในชีวิตจริง นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ยินความคิดเห็นในเชิงบวกของผู้ขับขี่ ซึ่งยืนยันว่ากลไกของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ตรงกับ DNA ของไทรอัมพ์ซึ่งประเด็นนี้ถูกตอกย้ำด้วยแบตเตอรี่และระบบควบคุมอื่นๆ ระดับแนวหน้า ที่ WAE ได้ผลิตขึ้นให้มีน้ำหนักเบาและเชื่อมประสานกันแบบกลมกลืน เทคโนโลยีหลักของ WAE ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพและการชาร์จสำหรับแบตเตอรี่ซึ่งเราตั้งตารอที่จะได้เห็นในระบบส่งกำลังในอนาคต” มร. ดียร์ อาร์แดช หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท วิลเลียมส์ แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริง กล่าว
บริษัท Integral Powertrain
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นว่าการทดสอบรถจักรยานยนต์ TE-1 ขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้นลง และด้วยการทดสอบนี้ จะมีการตรวจสอบประสิทธิภาพและสมรรถนะของมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ที่แปรผันได้แบบ Ultra-Integrated ของเราในลำดับต่อไป”
สำหรับการใช้งาน TE-1 มอเตอร์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องที่กำลังสูงสุด 13 กิโลวัตต์/กิโลกรัม และ 9 กิโลวัตต์/กิโลกรัม ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายแผนงานด้านเทคโนโลยีของ APC ในปี 2025 ถึง 60%ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้โดยการใช้วัสดุและกระบวนการที่เข้ากันได้กับการผลิตยานยนต์ในปริมาณมากและบนแพลตฟอร์มมอเตอร์แปรผัน ทั้งนี้ แนวคิดเรื่องความสามารถในการปรับขยายมอเตอร์ที่ใช้ใน TE-1 ได้จัดเตรียมสปริงบอร์ดสำหรับมอเตอร์ที่ปรับขนาดได้ใหม่ ซึ่งจะประกาศในปลายปีนี้ ที่จะให้ระดับประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน แต่มีกำลังการผลิตที่มากกว่าเดิมมาก
แนวคิดการพัฒนาอินเวอร์เตอร์แบบ ultra-integrated นั้น สามารถปรับขนาดได้เพื่อให้จำนวนสเตจกำลังไฟฟ้าของซิลิกอนคาร์ไบด์ เพิ่มขึ้นและส่งผลให้มอเตอร์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ขึ้น ให้กำลังเพิ่มขึ้น (กำลัง >500 กิโลวัตต์) และเปิดโอกาสให้เราเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนของปริมาณการผลิตหรือตอบสนองความต้องการพลังงานที่สูงขึ้นอย่างมากได้อีกด้วย
“เราภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนสำคัญของโครงการที่น่าตื่นเต้นนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมของอังกฤษ” มร.แอนดรูว์ ครอส หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของบริษัท Integral Powertrain กล่าว
ศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริค
“เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษของเราในสหราชอาณาจักร เราจะต้องคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีการเดินทางของเรา ซึ่งไม่เพียงแต่การเปลี่ยนจากระบบสันดาปภายใน (ICE) ไปเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางโดยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวอีกด้วย”
ยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อมีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติการคมนาคมขนส่งในฐานะตัวเลือกในการลดการปล่อย ไอเสียเป็นศูนย์
“การเป็นพันธมิตรกับ Triumph ช่วยให้ WMG ได้ใช้ประสบการณ์การวิจัยของเราในด้านระบบไฟฟ้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ปล่อยมลพิษน้อยลง รวมทั้งส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะโดดเด่นและขับขี่ได้อย่างสนุกให้แก่ลูกค้า” ศาสตราจารย์ เดวิด กรีนวูด CEO ประจำศูนย์ WMG ด้านระบบขับเคลื่อนขั้นสูง มหาวิทยาลัยวอร์ริค กล่าว
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com