ฮอนด้า ยกทัพใหญ่บุกงาน Motor Expo 2018 พร้อมเปิดตัวบิ๊กไบค์ 500 Series โฉมใหม่ และ CBR650R, CB650R เอาใจสายสปอร์ต
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 28 พ.ย. 61 00:00
- 5,833 อ่าน
เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ระดมทีเด็ดบุกตลาดบิ๊กไบค์ช่วงปลายปี ยึด Motor Expo 2018 เปิดตัวรถโฉมใหม่ในตระกูล 500 Series ทั้ง CBR500R CB500F และ CB500X เสริมทัพ CBR650R และ CB650R ที่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ถอดแบบมาจากรุ่นใหญ่ CBR/CB1000R พร้อมพบกับรถจักรยานยนต์โปรเจ็คพิเศษจาก CUB House กับ Monkey และ C125 Limited Edition จำกัดรุ่นละ 100 คันเท่านั้น
นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ในเมืองไทย เปิดเผยว่า ภายใต้กลยุทธ์แบรนด์ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด” บริษัทนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป พร้อมทางเลือกหลากหลายให้ตรงกับความต้องการ หวังเพิ่มความสุขให้ทุกการเดินทาง ในงาน“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35” หรือ The 35th Thailand International Motor Expo 2018 บริษัทได้นำรถจักรยานยนต์ทั้งกลุ่ม บิ๊กไบค์ และรถรุ่นพิเศษจาก CUB House มาจัดแสดงหลายรุ่น รวมถึงไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัวรถโฉมใหม่ในตระกูล 500 (All New 500 Series) 3 รุ่น และรถใหม่ตระกูล 650 (New 650 Series) 2 รุ่น ให้คนไทยได้ใช้เป็นประเทศแรกของโลกหลังจากเปิดตัวอย่างฮือฮาที่งานจัดแสดงรถจักรยานยนต์นานาชาติชื่อก้องโลกอย่าง อิกมา (EICMA) ประเทศอิตาลี่
สำหรับโฉมใหม่ในตระกูล 500 ทั้งที่เป็นสายสปอร์ต CBR500R, สายเนคเคดไบค์ (Naked Bike) CB500F และสายเอนดูโร ( Enduro) CB500X เครื่องยนต์ 2 สูบ 500 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง รวมถึงการออกแบบและสีสันใหม่ทั้งคัน โดยรุ่น CBR500R ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสนุกสนานในการขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ต มีการปรับตำแหน่งที่นั่งและระยะมือจับใหม่ (Handle Bar) ช่วยให้ท่านั่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้คล่องแคล่วและสะดวกสบายมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเพิ่ม Feature ทันสมัยให้ทั้ง 3 รุ่น CBR500R ,CB500F และ CB500X อย่างไฟหน้า-หลังแบบ Full LED มาตรวัดดิจิตอลใหม่พร้อมแสดงตำแหน่งเกียร์ และระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหัน เหมือนที่ใช้ในกลุ่มรถซูเปอร์สปอร์ต ตลอดจนระบบ Assist & Slipper Clutch ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ เพิ่มความปลอดภัยและขับขี่ได้นุ่มนวล ขณะที่รุ่น CB500X สไตล์เอนดูโร่ สำหรับคนชอบขี่ออกทริปท่องเที่ยวยังมาพร้อมล้อขนาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย
สำหรับราคาขายปลีกช่วงแนะนำ CBR500R ราคา 217,000 บาท CB500F ราคา 212,000 บาท และ CB500X ราคา 222,000 บาท พร้อมทั้งนำเสนอรถตระกูล 500 กับชุดแต่งพิเศษ CBR500R Racing Addict Edition ในราคา 243,200 บาท และ CB500X พร้อมชุดแต่ง Bordering Edition ในราคา 243,900 บาท
นอกจากตระกูล 500 Series โฉมใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมแล้ว เอ.พี. ฮอนด้า ยังเอาใจผู้ที่ชื่นชอบเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 650 ซีซี ทั้งสปอร์ตแบบฟูลแฟริ่ง CBR650R และสไตล์ นีโอ สปอร์ต คาเฟ่ CB650R โดยในรุ่น CBR650R มาพร้อมรูปลักษณ์สปอร์ตแบบเต็มขั้น ขณะที่ CB650R เน้นความเท่แบบมีสไตล์เป็นของตนเอง แต่ทั้ง 2 รุ่น เร้าใจด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่ถอดแบบ DNA มาจากรุ่นใหญ่ CBR1000RR
ในด้านอุปกรณ์ติดรถ ฮอนด้า 650 Series 2 รุ่นนี้ ยังเท่ด้วยมาตรวัดใหม่แบบดิจิตอลพร้อมไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่แม่นยำขึ้น โดยรุ่น CBR650R ยังวางตำแหน่งมือจับ (Handle Bar) และถังน้ำมันใหม่ เพื่อความสมดุลและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม พร้อมไฟหน้าแบบ Duo Head Light ใช้หลอด LED รอบคัน ส่วนรุ่น CB650R ใช้ไฟหน้าทรงกลม ที่โดดเด่นด้วย LED แบบวงแหวน
ด้านความปลอดภัยทั้ง CBR650R และ CB650R มาพร้อมโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาดใหญ่ (Upside down) และดิสก์เบรกคาลิปเปอร์ 4 พอร์ต มั่นใจด้วย Assist & Slipper Clutch ช่วยลดอาการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ ระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) เทคโนโลยีจากสนามแข่ง ช่วยปรับกำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมตามสภาพการขับขี่ และป้องกันล้อหมุนฟรี ติดตั้งระบบ Emergency Stop Tail Light แสดงไฟฉุกเฉินเมื่อรถเบรกกะทันหันแบบที่ใช้ในรถระดับซูเปอร์สปอร์ต
สำหรับราคาขายปลีกช่วงแนะนำ CBR650R ราคา 320,000 บาท และ CB650R ราคา 305,000 บาท พร้อมทั้งนำเสนอรถตระกูล 650 กับชุดแต่งพิเศษ CBR650R Furious Edition ในราคา 350,000 บาท และ CB650R Muscular Edition ในราคา 324,500 บาท
ขณะเดียวกันทาง เอ.พี. ฮอนด้า ยังเปิดตัวโปรเจ็คพิเศษสำหรับรถจักรยานยนต์จาก CUB House ด้วยความร่วมมือระหว่าง H2C for CUB House กับสำนักแต่งระดับโปร MORIWAKI สร้างสรรค์ตำนาน C125 และ Monkey ให้ดูมีชีวิตชีวา มากขึ้น ด้วยสไตล์การตกแต่งพิเศษภายใต้แนวคิด Never Over A hundred และผลิตจำกัดรุ่นละ 100 คันเท่านั้น
โดย C125 รุ่น Exclusive Limited Edition มาในโทนขาวและฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้คอนเซปต์ VERY SERIOUS BLUE แต้มแต่งชิ้นงานสีน้ำเงินเพิ่มความโดดเด่นให้รถรอบคัน พร้อมปลายท่อไอเสีย Megaphone Black เพิ่มความเป็น Classic Sport ส่วน Monkey รุ่น Exclusive Limited Edition มาภายใต้คอนเซปต์ VERY SERIOUS SPORT จัดจ้านด้วยชุดแต่งสีน้ำเงินและเหลืองรอบคัน เพิ่มพลังแห่งความซุกซนด้วยปลายท่อไอเสีย MORIWAKI ZERO TYPE
สำหรับราคาช่วงแนะนำ C125 รุ่น Exclusive Limited Edition ราคา 114,900 บาท และ Monkey รุ่น Exclusive Limited Edition ราคา 129,900 บาท
นอกจากนี้ทาง เอ.พี. ฮอนด้า ได้จัดข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี เมื่อซื้อรถในกลุ่มบิ๊กไบค์รวมถึงรถจักรยานยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่ยกขบวนมาอวดโฉมเต็มเวที พร้อมจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ตั้งแต่วันนี้จนถึง 10 ธันวาคมนี้
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com