Toyota Hilux MY 2019 ยอดรถกระบะแห่งความปลอดภัย เริ่ม 960,000 บาท
- โดย : Autodeft
- 10 มิ.ย. 62 00:00
- 10,446 อ่าน
ทำตลาดที่ญี่ปุ่นมาสักพักสำหรับ Toyota Hliux (Toyota Hilux Revo) รถกระบะยอดนิยมที่ไปได้สวยและความแกร่งทรหดจนมีผลตอบรับเป็นอย่างดีในด้านยอดขาย
ล่าสดเปิดตัว Toyota Hilux (Toyota Hilux Revo) รุ่นปรับปรุงใหม่ (MY 2019) ออกจำหน่ายที่งานนี้เน้นความปลอดภัยมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบที่ทำงานด้วยเรดาร์ รวมถึงติดตั้งกล้องบริเวณกระจกหน้ารถ ผสานการทำงาน ทั้ง ระบบป้องกันการชนด้านหน้า Pre-crash Safety พร้อมตรวจจับคนเดินถนนและจักรยาน, ระบบควบคุมความเร็ว Radar Cruise Control, ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน Lane Daparture Alert, ระบบป้องกันการออกตัวแบบผิดวิธี Drive Start Control, ระบบอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist และระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนตัว
ความหล่อภายนอกยังคงเดิมตั้งแต่ ไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน ผสานกับกระจังหน้าโครเมี่ยมรับเข้ากับกันชนหน้าพร้อมคิ้วไฟตัดหมอกทรงกลม เข้มด้วยล้ออัลลอยขนาด17 นิ้ว ติดตั้งยาง All ขนาด 265/65R17 ติดตั้งกระจกส่องมุมด้านข้างตัวรถ เป็นทางเลือกพิเศษ ส่วนในรุ่น Z Black Rally Edition หล่อแบบเดียวกับ Toyota Hilux REVO Rocco เวอร์ชั่นไทย ติดตั้งอุปกรณ์สายลุยมากมายตกแต่งครอบกระจกมองข้าง มือจับประตู บันไดข้าง รวมไปถึงกระจังหน้าที่เป็นสีดำไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน ติดตั้งกระจกส่องมุมด้านข้างตัวรถ และ ล้ออัลลอยลาย ลายเข้มขนาด 18 นิ้ว ติดตั้งยาง All Terrain (AT) ขนาด 265/60R18
ภายในหรูเดิมทุกรายละเอียดด้วยจอสัมผัสพร้อมระบบนำทาง T-Connect พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านหุ้มหนัง หัวเกียร์หุ้มหนังพร้อมแถบสีเงิน และฐานเกียร์แถบสีเงิน มือเปิดประตูด้านในโครเมียม และแผงข้างประตูแถบสีเงิน และ ปุ่มกดเบรกมือแบบโครเมียม เข้มด้วยเบาะผ้าสีดำเข้ม กระจกไฟฟ้าแบบขึ้นลงอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบทั้ง 4 บาน มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ขนาด 4.2 นิ้ว ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจ Smart Entry พวงมาลัยสามารถปรับสูง-ต่ำและยืดหดได้ และ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ในรุ่น Z Black Rally Edition เข้มด้วยมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ดีไซน์เด่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นตกแต่งฐานด้วยสีดำ Set black metallic แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยสีดำเมทัลลิก พวงมาลัยหุ้มหนัง / แผงข้างประตู / ช่องปรับอากาศ / หัวเกียร์หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยแถบสีดำเมทัลลิก และฐานเกียร์ กรอบเสาประตูและแผงบุหลังคาสีดำช่องเก็บของด้านบน Smart Key ดีไซน์เฉพาะ และเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ
แรงเต็มพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.4 ลิตร GD High-Power (2GD-FTV) 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที แรงเร้าใจกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT ตอบสนองความต้องการในการขับขี่ด้วย Power Mode เน้นกำลังการขับขี่ และยังมี Eco Mode เน้นในเรื่องความประหยัด ลุยมั่นใจด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time แบบ Shift-On-The-Fly ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ A-TRC และระบบเฟืองท้าย Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
พร้อมออพชั่นความปลอดภัย ทั้งระบบเบรก ABS ,EBD และ BA ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบควบคุมการส่ายเมื่อต้องต่อส่วนพ่วงท้าย TSC ระบบควคุมความเร็วบนทางลาดชัน DAC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชั่น HAC กล้องมองหลัง และโครงสร้างนิรภัยแบบ GOA
กระบะตัวแกร่งค่าย Toyota มีจำหน่ายในแบบ Double Cab 4 ประตู 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 3,321,000 Yen หรือราว 960,000 บาท ในรุ่น X และ 3,756,240 yen หรือราว 1,085,000 บาทในรุ่น Z และ 3,961,440 Yen หรือราว 1,145,000 บาท ในรุ่น Z Black Rally Edition (ไม่รวมภาษีนำเข้าของเมืองไทย)
ที่มา Carwatch
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com