งามหน้า!! ประเทศไทยครองแชมป์รถติดหนักสุดของปี 2016

  • โดย : Autodeft
  • 21 ก.พ. 60 00:00
  • 8,950 อ่าน

ด้วยการจราจรปัจจุบันไม่ว่าจะทั้ง กรุงเทพหานคร ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ๆ ล้วนแต่สร้างความปวดหัวให้กับคนใช้รถ คนใช้บริการรถสาธารณะเป็นอย่างมากเนื่องจากการจราจรที่ติดขัดและติดนานมาก

Bangkok

ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข้อมูลจาก บริษัท อินริกซ์ (INRIX) บริษัทที่ให้บริการข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการจราจรและการขับรถของสหรัฐอเมริกา ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดในโลกในปี 2016 โดยเมืองหลวงของไทยย่าง กรุงเทพฯ มีสถานการณ์การจราจรที่ย่ำแย่ลงในปี 2016 อยู่ในอันดับที่ 12 ของโลก เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 30 ในปี 2015 โดยมีคะแนนด้านการจราจรแย่ลงอยู่ที่ 11 จาก 20 ในปีก่อนหน้า โดยผู้ใช้รถใช้ถนนในกรุงเทพฯ ต้องเผชิญภาวะรถติดบนท้องถนนเฉลี่ยถึง 64.1 ชั่วโมง ในปีที่แล้ว หรือคิดเป็นสัดส่วน 23% ของเวลาทั้งหมด

เท่านั้นยังไม่พอสหรัฐอเมริกา ก็มีปัญหาด้านการจราจรไม่แพ้เมืองไทยตรงที่ การจราจรเลวร้ายหนักสุดในหมู่กลุ่มประเทศร่ำรวยด้วยกัน มีปัญหาการจราจรติดขัดหนักที่สุดในโลกในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน โดยมี ลอสแองเจลิส เป็นเมืองใหญ่ที่มีปัญหา ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ในสหรัฐต้องสูญเสียทั้งเชื้อเพลิงและเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42,000 บาท) ต่อปี

นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า ผู้ขับรถในนครลอสแองเจลิสใช้เวลาในการขับรถในช่วงเวลาที่การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้าในช่วงเวลาเร่งด่วนในปี 2016 เป็นเวลาเฉลี่ยมากถึง 104 ชั่วโมง กลายเป็นเมืองใหญ่ที่ใช้เวลาในการขับรถในช่วงเวลาเร่งด่วนมากที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ถือว่าเผชิญกับสภาพปัญหาจราจรที่เลวร้ายหนักสุด โดยใช้เวลาอยู่บนท้องถนนนานที่สุดคิดเป็น 25.2 % ขณะที่คนขับรถในนครลอสแองเจลิสใช้เวลาขับรถในช่วงการจราจรติดขัด 12.7 %

Bangkok

ส่วนถนนที่มีการจราจรเลวร้ายที่สุดในสหรัฐ ได้แก่ ทางด่วนครอสบรองซ์ ในนิวยอร์ก ที่ผู้ขับขี่ต้องใช้เวลาบนถนนเส้นนี้ที่มีระยะทาง 7.5 กิโลเมตร ในการมองท้ายรถที่ติดอยู่คันข้างหน้าเฉลี่ยถึง 86 ชั่วโมงต่อปี นอกจากลอสแองเจลิส ที่มีการจราจรสาหัสที่สุดในโลกในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนแล้ว ยังมีนิวยอร์กซานฟรานซิสโก แอตแลนตา และไมอามี ยังติดอยู่ใน 10 อันดับเมืองใหญ่ที่มีการจราจรติดขัดหนักสุดในโลกจากการสำรวจครั้งนี้ด้วย

 

ที่มา Matichon Online และ Krungthep.coconuts

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

 

 

5 เรื่องน่าสนใจ