Tesla กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าแซงหน้า General Motors ไปแล้ว

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง Tesla ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการจำหน่ายรถยนต์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Model S, Model X แม้กระทั่ง Model 3 ที่รถยนต์ยังไม่ผลิตแต่ก็มียอดจองล่วงหน้าถล่มทลาย ล่าสุดหลังจากปิดตลาดหุ้น Wall Street ที่สหรัฐฯ Tesla กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุด แซงหน้า General Motors ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ตลอดกาลของสหรัฐฯไปแล้ว

ถึงแม้ว่าตลอด 13 ปีที่ผ่านมาของ Tesla บริษัทจะยังไม่สามารถทำกำไรได้เลย แต่ถ้าดูจากยอดจองที่เติบโตขึ้น, ยอดสต็อกรถยนต์แทบจะไม่มี รวมทั้งระบบต่างๆในรถยนต์ที่ทันสมัยมากขึ้นกว่าเจ้าอื่นๆ เน้นการใช้ระบบอัตโนมัติอย่าง Autopilot และ Summon ทำให้นักลงทุนมั่นใจที่จะลงทุนด้วย จนล่าสุดมีมูลค่าของบริษัทสูงถึง 51.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.78 แสนล้านบาท แซงหน้า General Motors ยักษ์ใหญ่วงการรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าล่าสุด 50.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.73 แสนล้านบาทไปแล้วเรียบร้อย จนบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนอย่าง Piper Jaffray ได้ขึ้นป้าย "Buy" กับหุ้นของ Tesla หมายความว่าเป็นหุ้นที่ต้องซื้อเก็บไว้เลยทีเดียว

ถ้ามองภาพรวมของตลาดรถยนต์ในสหรัฐฯ Tesla มีส่วนแบ่งอยู่เพียง 0.2% ในขณะที่ General Motors มีมากถึง 17.3% ซึ่งทาง Elon Musk ผู้ก่อตั้งบริษัทได้บอกว่า จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากถึง 500,000 คันภายในปี 2018 ในขณะที่ยอดขายของ General Motors เฉพาะไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ก็มากถึง 546,838 ไปแล้ว และยอดผลิตของ Tesla เมื่อปีที่แล้วคือ 76,230 คัน โดยเป็นการจำหน่ายในสหรัฐฯ 40,000 คัน ซึ่งนักวิเคราะห์ก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมมูลค่าของ Tesla ถึงได้แซงหน้า General Motors ตามมูลค่าบนหน้ากระดาษได้ ซึ่งทาง Walt Mossberg นักวิเคราะห์ด้านการลงทุนชื่อดัง ก็เคย Tweet บอกไว้ก่อนหน้านี้เช่นกันว่า "นี่เป็นตัวอย่างอันดับที่พันล้าน ที่บอกว่าทำไมมูลค่าในตลาดหุ้นไม่สามารถสะท้อนความเป็นจริงได้" อย่างไรก็ตาม การที่มูลค่าของ Tesla เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ ก็น่าจะมาจากที่นักลงทุนมั่นใจในการพัฒนารถยนต์ของ Elon Musk และเชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายและทำกำไรได้มากขึ้นในอนาคตถ้ามีทุนทรัพย์มากเพียงพอ

ข้อมูลจาก The Guardian

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com