Suzuki พร้อมต้อนรับผู้นำคนใหม่รองรับยอดขายเติบโต คว้าซิโก้ ร่วมเสริมภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์

ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวแนะนำผู้นำองค์กรคนใหม่พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 2.4 หมื่นคันในปี 2559 พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ Suzuki

 

 

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวแนะนำผู้นำองค์กรคนใหม่ มร.โยจิ มุโรซะกะ พร้อมกันนี้ ร่วมแถลงผลประกอบการประจำปี 2558 และนโยบายการดำเนินงานในปี 2559 อีกทั้งการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ Suzuki

มร. โยจิ มุโรซะกะ เข้าร่วมงานที่ Suzuki ตั้งแต่ปี 2532 ในส่วนงานการตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มต้นดูแลตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา และตลาดยุโรปในเวลาต่อมา ซึ่งนอกจากจะดูแลด้านการขายรถยนต์แล้ว มร.โยจิ มุโรซะกะ ยังได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการโครงการในการควบคุมการก่อสร้างโรงงานในประเทศฮังการี ปี 2545-2550 และประเทศรัสเซีย ปี 2550-2552 จากประสบการณ์ด้านการวางแผนองค์กรมากว่า 2 ปี จึงได้รับมอบหมายเป็นผู้จัดการดูแลตลาดเอเซียจัดทำแผนการลงทุนในรถรุ่นใหม่และก่อสร้างโรงงานเพื่อขยายธุรกิจการส่งออกและนำเข้าเพื่อประกอบรถยนต์และชิ้นส่วนระหว่างโรงงานของ Suzuki ในอาเซียนและอินเดีย

เดือนมิถุนายน 2557 ได้เข้ามาร่วมงานในประเทศไทย ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ ของ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) แถมได้รับหน้าที่ดูแลเพื่อที่จะขยายและเพิ่มมูลค่าด้านเครือข่ายการขายของผู้จำหน่าย Suzuki ซึ่งภายใต้สถานการณ์ตลาดที่ยากลำบากของประเทศไทย ผู้จำหน่ายได้แสดงถึงความตั้งใจและสามารถฟันฝ่าจนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ในปีที่ผ่านมา

ขณะนี้ มร. โยจิ มุโรซะกะ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าจะพยายาม  ฟันฝ่าเพื่อบรรลุในพันธกิจเน้นไปที่ลูกค้าเป็นสำคัญคือ

1.    พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เกิดคุณค่าสูงยิ่งขึ้นโดยมุ่งเข้าไปที่ลูกค้าเป็นสำคัญ

2.    การสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมในองค์กรผ่านการทำงานเป็นทีมร่วมกัน

3.    นำเอาความโดดเด่นเชี่ยวชาญของแต่ละบุคคลมาใช้ผ่านทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

มร. โยจิ มุโรซากะ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในปี 2558 ด้วยยอดขาย 21,285 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5.5% ส่งผลถึงภาพรวมส่วนแบ่งการตลาด เป็น 2.66% ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องที่ผ่านมาเราได้ทำการแนะนำยนตรกรรมหลากหลาย นับตั้งแต่ Suzuki Swift, Celerio นอกจากนี้ยังแนะนำ Suzuki Ciaz กับ Suzuki Ciaz RS ที่มาพร้อมชุดแต่งสไตล์โมเดิร์นสปอร์ตรอบคัน สู่ตลาดประเทศไทย เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็น Sporty Eco car สำหรับคนรุ่นใหม่

ส่งผลให้ Suzuki ก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในผู้นำรถยนต์ชนิดคอมแพคคาร์อย่างรวดเร็ว ช่วยตอบรับกระแสนิยมของลูกค้าให้เข้าถึงรถยนต์ที่มีมาตรฐานสูงทั้งด้านความปลอดภัยและประหยัดพลังงาน รูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว และในราคาเหมาะสมรวมถึงการบริการต่างๆ โดยมุ่งเน้นไปที่จิตใจของลูกค้าเป็นสำคัญวึ่งเราต้องการเป็นเพื่อนที่ดีของชีวิตลูกค้าคนไทยตลอดไป

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า ในปี 2559 นี้  ความกังวลจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวยังคงมีอยู่บ้าง คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายอุตสาหกรรมรถยนต์จะมีความใกล้เคียงกับปี 2558 แต่เรายังคงมองเห็นความสดใส     ซึ่งคาดว่าตลาดรถยนต์ไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัวอันเนื่อง  ปัจจัยบวกจากการใช้จ่ายของภาครัฐ เม็ดเงินจากโครงการต่างๆ ที่จะทยอยเข้าสู่ระบบทำให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียน และราคาน้ำมันที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม Suzuki ยังคงเร่งพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ ตลอดจนเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรให้มีความรู้และทักษะเป็นระดับสากลทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น  อีกทั้งยังคงมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ  เพื่อสร้างความต่อเนื่องให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงแบรนด์ซูซูกิมากยิ่งขึ้น

สำหรับทิศทางการสื่อสารทางการตลาดตลอดปี 2559 มุ่งชูกลยุทธ์ Sport Marketing เน้นส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาประเภทฟุตบอล และยังคงมอบความสุขให้กับคอลูกหนังโดยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการใน AFF Suzuki Cup ปี 2016

อีกทั้ง Suzuki จะเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อที่จะถ่ายทอดความเป็น Suzuki ให้ลูกค้าได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น นั่นคือ “คุณซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยที่ฮอตที่สุดในขณะนี้ ซึ่งเป็นผู้ที่นำทีมทัพนักเตะชาวไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์ AFF Suzuki Cup เป็นสมัยที่ 4 ในปี 2014 ซึ่งคุณซิโก้ได้ให้เกียรติมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เป็นปีที่ 2 ในปีที่ผ่านมาพลังของคุณซิโก้มีส่วนช่วยสื่อสารรถยนต์ Suzuki Ciaz ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และในปีนี้คุณซิโก้จะมีส่วนร่วมในแบรนด์ของเรามากขึ้นเช่นกัน

นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการบริการหลังการขาย Suzuki ยังคงยึดแผนยุทธศาสตร์เสริมสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ภายใต้แนวคิด 3S คือ Sales, Service, Spare Parts นั่นคือ การแนะนำสินค้าที่มีคุณภาพอย่างเป็นธรรมควบคู่ไปกับการบริการอย่างประทับใจ จำหน่ายอะไหล่แท้จากผู้ผลิต   อีกทั้งมุ่งเน้นพัฒนาการบริการหลังการขายพร้อมบริการจัดส่งอะไหล่ภายใต้การบริการภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อตอบรับทุกความต้องการ

ซึ่ง Suzuki ทุ่มเทมาโดยตลอดกับการฝึกอบรมบุคลากรด้านการช่างให้กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดและต่อเนื่อง ตลอดจนโปรแกรมส่งเสริมหลังการขาย ซึ่งในปีที่ผ่านมามีศูนย์บริการที่ครอบคลุมจำนวน 99 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนเพิ่มเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการเป็น 110 แห่งทั่วประเทศไทย ภายในปี 2559 ทั้งนี้เพื่อยกระดับรองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัวของประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าคนพิเศษของเราได้รับผลิตภัณฑ์และการบริการดีที่สุดจาก Suzuki

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com