ผลสำรวจบอกผู้ซื้ออยากได้รถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งได้ 468 กิโลเมตร/ครั้ง ในราคาประมาณ 1.12 ล้านบาท

โลกกำลังเปลี่ยนไปหารถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่ยังเป็นสัดส่วนการเติบโตที่ยังน้อยมากอยู่ เนื่องจากติดขัดปัญหามากมาย ทำให้ส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะยึดติดกับการใช้รถยนต์แบบเครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่ โดยผลสำรวจผู้ซื้อบอกออกมาว่า อยากได้รถยนต์ไฟฟ้า ที่สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดประมาณ 468 กิโลเมตรจากการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ในราคาประมาณ 1.12 ล้านบาท

การทำผลสำรวจครั้งนี้เป็นของผู้ผลิตน้ำมันเครื่องรายใหญ่อย่าง Castrol ได้ทำการสำรวจตัวอย่างจากผู้บริโภค 9,000 คน, ผู้จัดการฝ่ายยานยนต์ 750 คน และผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมยานยนต์อีก 30 คน ทั้งจากสหรัฐฯ, อังกฤษ, นอร์เวย์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อินเดีย, จีน และญี่ปุ่น ได้ผลสำรวจออกมาว่า ผู้ซื้อต้องการที่จะได้รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ราว 468 กิโลเมตรจากการชาร์จเต็ม 1 ครั้งในระยะเวลาแค่ 31 นาที และสามารถหาซื้อได้ในราคาประมาณ 36,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.12 ล้านบาท โดยจากการสำรวจผู้บรโภค มี 61% บอกว่า ต้องการที่จะรอและเฝ้าดูการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าไปก่อน และหวังว่าเทคโนโลยีของแบตเตอรี่จะดีมากขึ้นกว่านี้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออีกครั้ง ส่วน 54% ของผู้จัดการฝ่ายยานยนต์ บอกว่าจะรอดูคู่แข่งเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าก่อน ถึงจะตัดสินใจเปลี่ยนตาม และผลสำรวจยังบอกอีกด้วยว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่วางแผนเอาไว้ว่าจะเริ่มเปลี่ยนไปใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ได้ผลสรุปว่า ความท้าทายที่สุดในการเปลี่ยนให้ผู้บริโภคหันไปใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้ ก็คือการสร้างความเข้าใจให้ทุกคนได้รับทราบว่า สิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาอยากได้ในรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตนั้น มันอยู่ใกล้มากกว่าที่พวกเขาคิด

ข้อมูลจาก Driving