อวดโฉม Toyota e-Palette ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ ที่งาน Tokyo Motor Show 2019
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 18 ต.ค. 62 00:00
- 5,776 อ่าน
หนึ่งรถไฟฟ้าที่จะมาอวดโฉมที่งาน Tokyo Motor Show 2019 ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม ถึง 4 พฤศจิกายน 2562 จากค่ายรถยนต์ Toyota ก็คือ Toyota e-Palette ยานยนต์ไฟฟ้ าแบตเตอรี่ขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ รุ่นออกแบบพิเศษ โตเกียว 2020 ที่เตรียมจะสนับสนุนการคมนาคม สำหรับนักกีฬาระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี ค.ศ. 2020 ณ กรุงโตเกียว (โตเกียว 2020) ปีหน้านี้
สำหรับรถไฟฟ้าไร้คนขับ อี-พาเลตต์ รุ่นออกแบบพิเศษ โตเกียว 2020 จะมาพร้อมความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติและวิ่งตามเส้นทางที่กำหนดไว้เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมสำหรับบรรดานักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของงาน ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ขับเคลื่อนแบบไร้คนขับนี้ ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับการใช้งานระหว่างโตเกียว 2020 บนพื้นฐานความคิดเห็นจากนักกีฬา ที่มีต่อความต้องการด้านการสัญจรโดยรวบรวมจากประสบการณ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันที่ผ่านมา
ซึ่งโตโยต้าได้แนะนำ อี-พาเลตต์ เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2561 โดยเป็นรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้าคันแรกของโตโยต้า ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการขับขี่อัตโนมัติ (Autono-MaaS*1) โดยเฉพาะที่สื่อถึงความตั้งใจในการปรับเปลี่ยนบทบาทองค์กรจากการเป็นเพียงผู้ผลิตรถยนต์สู่การเป็นผู้พัฒนาการขับเคลื่อน ทั้งนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีเชื่อมต่อ และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ล้ำสมัยเข้ามาสนับสนุนธุรกิจพัฒนาการขับเคลื่อนแบบใหม่ในอนาคต
Toyota e-Palette อี-พาเลตต์ (รุ่นโตเกียว 2020) ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการเฉพาะสำหรับการสัญจรภายในหมู่บ้านของนักกีฬาด้วยการติดตั้งประตูที่มีขนาดใหญ่ ทางลาดระบบไฟฟ้าให้กับรถรุ่นนี้เพื่อให้สะดวกสำหรับนักกีฬาที่เดินทางเป็นหมู่คณะ รวมทั้ง นักกีฬาพาราลิมปิกในการขึ้นลงรถได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย รถจะให้บริการด้วยระบบการขับขี่อัตโนมัติด้วยความเร็วสูงสุดที่ 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยจะมีความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติระดับ SAE Level 4 ทั้งมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยประจำรถ
การออกแบบ Toyota e-Palette อี-พาเลตต์ (รุ่นโตเกียว 2020) นี้ มีสัดส่วนตัวรถด้านหน้าและด้านหลังที่มีความสมดุลกัน มีมิติตัวรถ ยาว 5,255 มม. กว้าง 2,065 มม. สูง 2,760 มม. และมีระยะฐานล้อ 4,000 มม. ล้อของรถออกแบบให้อยู่ที่บริเวณมุมของตัวรถ ทำให้พื้นที่ภายในตัวรถกว้างมากขึ้น มีการออกแบบราวจับและที่นั่งให้ใช้งานได้ง่ายสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมีส่วนสูงเท่าไรก็ตาม นอกจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่ง การออกแบบเส้นสาย รวมทั้งส่วนประกอบอื่นๆ มีองค์ประกอบความแตกต่างของสีที่ชัดเจน เอื้อต่อผู้ที่มีภาวะตาบอดสีอีกด้วย
และด้วยการติดตั้งประตูที่มีขนาดใหญ่ และระดับของพื้นรถที่ต่ำ ทางลาดระบบไฟฟ้าให้กับรถรุ่นนี้ มาพร้อมระบบควบคุมเมื่อรถเคลื่อนใกล้ถึงจุดหมาย Arrival Control4 เพื่อให้ผู้โดยสาร รวมทั้งผู้ที่ใช้รถเข็นวีลแชร์สามารถขึ้นลงรถได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และด้วยฐานล้อที่ยาวและพื้นรถที่ราบเรียบต่ำ รถสามารถให้บริการผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์มากถึง 4 คัน และผู้โดยสารยืน เดินทางร่วมกันด้วยยานพาหนะนี้ได้ในหนึ่งเที่ยว สามารถรองรับได้สูงสุด 20 คน* (รวมเจ้าหน้าที่ประจำรถ) *สำหรับผู้โดยสารที่ใช้รถเข็น : รองรับรถเข็นได้สูงสุดถึง 4 คัน + ผู้โดยสารยืน 7 คน
ด้านของการขับเคลื่อนที่ความเร็วต่ำสูงสุด 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลราว 250 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง รถไฟฟ้า อี-พาเลตต์ จะได้ให้บริการด้วยระบบการขับขี่อ้ตโนมัติที่ออกแบบเป็นพิเศษ มีการใช้กล้องและเซ็นเซอร์วัดแสงเทคโนโลยีไลดาร์ (LiDAR) ทำงานร่วมกับ ตัวการทำแผนที่สามมิติ(3D mapping) และระบบควบคุมการปฏิบัติการ เพื่อให้มีความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ SAE ระดับ 4
และเพื่อสนับสนุนระบบการทำงานที่ปลอดภัย อี-พาเลตต์จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลเพื่อแสดงให้เห็นการทำงาน และการควบคุมเครื่องจักร (human-machine interface) ช่วยสื่อสารกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวรถรวมทั้งคนเดินเท้า และเมื่อขณะรถให้บริการขับขี่อัตโนมัติ ไฟรถด้านหน้าและหลังจะเลียนแบบการทำงานของมนุษย์ด้วยการสื่อสารทางสายตาเพื่อแจ้งคนเดินเท้าให้ทราบสถานะการทำงานของรถ อีกด้วย
โดยระบบการขับขี่อ้ตโนมัติจะคอยตรวจสอบสิ่งกีดขวางด้วยมุมมองแบบ 360 องศารอบตัวรถ และจะปรับระดับความเร็วให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยเชิงรุก ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยประจำรถคอยตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรถ และพร้อมทำการควบคุมในกรณีที่มีความจำเป็นนั้นเอง
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com