ตลาดแบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV มือสอง อาจมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ภายในปี 2035

อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากำลังเตรียมพร้อมที่จะนำเอาการรีไซเคิลและการนำแบตเตอรี่ EV กลับมาใช้ใหม่มาเป็นส่วนหนึ่งของวงจรเศรษฐกิจ แต่จะต้องแก้ไขอุปสรรคใหญ่หลายอย่างก่อนที่ตลาดนี้จะเติบโตอย่างเต็มที่

อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันกำลังมุ่งเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการใช้แพลตฟอร์มร่วมกันเพื่อเพิ่มผลผลิต ตอนนี้มีโอกาสที่รถ EV จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยนำหลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) มาใช้ แทนที่จะเป็นวิธีการทำลายและทิ้งแบบเดิม ๆ อุตสาหกรรมสามารถเปลี่ยนมาทำตามหลักการลดการใช้ทรัพยากร, ใช้ทรัพยากรซ้ำ, และรีไซเคิล ซึ่งสำคัญโดยเฉพาะสำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

การตลาดของแบตเตอรี่ EV มือสองอาจมีมูลค่าถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์ ในอีกสิบปีข้างหน้า ตามการศึกษาของบริษัทวิจัย IDTechEx จากสหราชอาณาจักร เมื่อการรีไซเคิลและการนำแบตเตอรี่มาใช้ใหม่เริ่มแพร่หลาย การดึงทรัพยากรใหม่มาใช้ก็จะลดลง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นไปได้อย่างยั่งยืนและมีผลกระทบน้อยต่อสิ่งแวดล้อม

แต่ละปีจะมีรถไฟฟ้า EV ที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จำนวนมากเข้าสู่ตลาด และในอนาคตเมื่อรถเหล่านี้ถึงเวลาหมดอายุ การรีไซเคิลหรือการนำแบตเตอรี่มาใช้ใหม่ในงานอื่น เช่น การเก็บพลังงาน จะเป็นทางเลือกที่สำคัญ

การเติบโตของตลาดนี้สามารถเชื่อมโยงกับการใช้แร่ธาตุอย่างนิกเกิลและโคบอลต์ในขั้วลบของแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานและทำให้การรีไซเคิลแบตเตอรี่แบบนิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (NMC) คุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากขึ้น แบตเตอรี่ลิเธียม-เหล็กฟอสเฟต (LFP) ซึ่งไม่มีโคบอลต์และนิกเกิลจะไม่คุ้มค่าการรีไซเคิลมากนัก

แม้ว่าอุตสาหกรรมนี้จะยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะเกิดการปฏิวัติในอุตสาหกรรมนี้ การลดราคาลิเธียมก็จะช่วยให้การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใน EV มีต้นทุนต่ำกว่าการเปลี่ยนเครื่องยนต์ในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน

ในสหรัฐอเมริกา การรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV กำลังเติบโต และคาดว่าภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ความสามารถในการรีไซเคิลของประเทศจะสูงถึง 500,000 ตันต่อปี การนำแบตเตอรี่มาใช้ใหม่ก็ยังมีศักยภาพที่สูงมาก แต่สหรัฐฯ ยังมีทางอีกยาวที่ต้องพัฒนา โดยอาจจะต้องเรียนรู้จากจีนและสหภาพยุโรป ที่มีกฎระเบียบเกี่ยวกับเนื้อหาที่รีไซเคิลในแบตเตอรี่

ในขณะเดียวกัน บริษัท Rivian ได้รับเงินกู้ 6.6 พันล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการสร้างโรงงานในจอร์เจีย ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่นี้ ขณะที่ Nissan กำลังเผชิญกับการลดต้นทุนและการตัดงานในโรงงานในสหรัฐฯ เพื่อประหยัด 2.6 พันล้านดอลลาร์

ถึงแม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ EV แต่เทคโนโลยีก็พัฒนาไปไกลและแบตเตอรี่ EV สามารถใช้งานได้นานหลายแสนไมล์ โดยมีการรับประกันถึง 8 ปี ในตอนนี้มีระบบรีไซเคิลที่กำลังพัฒนาเพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่เหล่านี้จะไม่สูญเปล่าหลังจากหมดอายุ

ที่มา insideevs