ต่อลมหายใจอีกครั้ง!!! SAAB ได้พันธมิตรรายใหม่พร้อมตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ในจีน
- โดย : สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
- 29 พ.ค. 58 00:00
- 10,563 อ่าน
SAAB (NEVS) ยานยนต์จากสวีเดน ได้พันธมิตรรายใหม่ จากจีน มาช่วยต่อลมหายใจอีกครั้งพร้อมทั้งประกาศสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่จีน
ถ้าจะเอ่ยถึงรถยนต์ SAAB ในหมู่นักเลงรถทั่วโลกต่างรู้จักกันดีว่าแบรนด์นี้มาจากเทคโนโลยีอากาศยานที่ระดมทีมวิศวกรเครื่องบินรังสรรค์ผลงานดีไซน์กลายเป็นรถยนต์ที่รูปลักษณ์เด่นไม่เหมือนใครและเครื่องยนต์เทอร์โบที่เลื่องชื่อ
ปัจจุบัน SAAB ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติของสวีเดน National Electric Vehicle Sweden หรือ NEVS แต่ ณ ตอนนี้ SAAB (NEVS) ซึ่งอยู่ในสภาวะใกล้จะล้มละลายประสบปัญหาทางการเงินรวมถึงมีหนี้สินมากมาย
แต่มีข่าวดีที่จะทำให้ SAAB (NEVS) มีชีวิตโลดแล่นอยู่ในวงการรถอีกครั้งล่าสุดได้ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่พร้อมทั้งได้พันธมิตร 2 รายจากจีน นั่นคือ Tianjin Binhai Hi-tech industrial Development Area (THT) และ Beijing State Research Information Technology Co., Ltd (SRIT) เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ใน SAAB (NEVS) นอกจากนี้ยังร่วมกันที่จะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน
สำหรับโรงงานรถยนต์แห่งใหม่ที่เมืองเทียนจินนั้นจะเน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก แต่รายละเอียดเชิงลึกนั้นยังไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด แต่คร่าวๆรถไฟฟ้าคันแรกจะใช้เทคโนโลยีของ NEVS Technology ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเทคโนโลยีพัฒนารถไฟฟ้า แบตเตอรี่ และการออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ทั้งหมดที่พัฒนาโดย SAAB (NEVS)
ส่วนนาย Mattis Bergman ประธาน NEVS กล่าวว่า ทาง NEVS จะมุ่งเน้นไปที่กาผลิตรถไฟฟ้าอย่างมีคุณภาพให้กับตลาดรถเมืองจีนเป็นหลัก สำหรับความร่วมมือกับทางพันธมิตรรายใหม่ทั้ง Tianjin Binhai Hi-tech industrial Development Area (THT) และ Beijing State Research Information Technology Co., Ltd (SRIT) จะช่วยให้วิสัยทัศน์ เป้าหมายกลุยทธ์ในตลาดโลกมีความชัดเจนมากขึ้นและยังเพิ่มความสำคัญให้กับโรงงานในเมือง ทรอลล์ฮัตตัน (Trollhattan) สวีเดน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถ SAAB ด้วยเช่นกัน
นับจากนี้ SAAB (NEVS) จะกลับมาโลดแล่นในวงการรถยนต์อีกครั้ง ด้วยรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ปกติ รุ่นใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์การใช้งานอย่างสมบูรณ์และทิศทางของ SAAB (NEVS) จะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามกันในครั้งต่อไป
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY426]