Volvo เผยเตรียมทำระบบให้ข้อมูลสภาพถนน แบบเรียลไทม์

Volvo เผยการวิจัยใหม่เพื่อความปลอดภัย ชี้ทำระบบเก็บข้อมูลสภาพถนนแบบณเวลาจริง ช่วยเตืนสภาพถนนที่อาจจะเป็นอันตรายของผู้ขับขี่

 

 

ทุกวันนี้ การขับขี่รถยนต์เราจะมองเรื่องของสมรรถนะในการขับขี่เป็นสำคัญ แต่ในอีกมุมหนึ่งข้อมูลสำหรับการขับขี่ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้

Volvo  เป็นค่ายรถยนต์ชั้นนำ ซึ่งพวกเขาคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ แม้ว่าระบบความปลอดภัยใหม่ๆในโลกยุคนี้จะมีมากจนเรามั่นใจได้ แต่ Volvo   ก็ยังมองหาวิถีทางใหม่ๆในการทำรถยนต์ทุกวันนี้ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ล่าสุดแนวคิดความปลอดภัยของพวกเขาคือการลดความไม่รู้ในการขับขี่และร่วมมือกับหน่วยงานการทางของประเทศนอร์เวย์ และ สวีเดนในการพัฒนาระบบให้ข้อมูลผู้ขับขี่แบบ Real Time

[IMAGE1]

ระบบนี้อาจจะยังไม่มีชื่อ แต่ระบบจะทำงานผ่านการเชื่อต่อข้อมูลแบบ   Real Time   แบบ cloud Base System  โดยระบบนี้มองหาความเป็นไปได้ที่รถจะผ่านสภาพถนนที่ไม่ปกติ อย่างในกรณีของทางแสกนดิเนเวีย พวกเขามองหาสภาพถนนที่มีสภาพเป็นน้ำแข็ง  ซึ่งอาจจะทำให้รถเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าต้องผ่านไปยังพื้นที่ดังกล่าว

การทดสอบระบบดังกล่าวมีการเก็บข้อมูลแล้วมาสักระยะหนึ่ง โดยทำการทดสอบกับรถของทางการที่มีจำนวนกว่า 50   คัน  ก่อนที่ปัจจุบันจะมีไม่น้อยกว่า 1,000  คัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโครงการดังกล่าวมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และแม้ในตอนนี้ระบบดังกล่าวจะยังอยู่เพียงในขั้นการทดลอง แต่ท้ายที่สุด  Volvo   ก็เปิดเผยว่า ระบบดังกล่าวน่าจะพร้อมสำหรับลูกค้าทั่วไปในอีกสองสามปีข้างหน้า หรือปี 2020 พวกเขาน่าจะสามารถสามารถแนะนำออกวางจำหน่ายได้

[IMAGE2]

อีริค เอเรลสัน หัวหน้าโครงการความร่วมมือ   ITS  หรือ  Intelligent Transport System   ที่ วอลโว่ กล่าวเปิดเผยว่า ข้อมูลมากมายได้มาจากการช้านของผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้เจอสถานการณ์ประหลาด นั้นก็คือสิ่งที่คุณอยากที่จะหลีกเลี่ยงมากที่สุด

“ในทางสว่างเราได้พัฒนาระบบเตือนผิวถนนลื่นขึ้นมา ซึ่งสามารถเตือนผู้ขับขี่ให้ระวังสภาพการขับขี่ที่มีการเกาะตัวด้วยน้ำแข็ง ทำให้การดูแลถนนในหน้าหนาวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันเรายังมีระบบ เตือนการทำงานไฟฉุกเฉิน ซึ่งผู้ขับขี่จะได้รับข้อมูลว่ามีรถเปิดไฟฉุกเฉินในบริเวณใกล้ๆหรือไม่ และด้วยสองระบบดังกล่าว จะทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น”

ทั้งนี้ปัจจุบันระบบดังกล่าวมีการทดสอบในสองเมืองใหญ่ได้แก่ เมืองโกเทนเบิร์ก และกรุงออสโล ซึ่งมันจะช่วยให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นในการขับขี่ ...

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com