รายละเอียดใหม่ Toyota Yaris EU ตัวเล็กรุ่นปรับโฉมที่ดียิ่งขึ้น
- โดย : Autodeft
- 28 พ.ค. 57 00:00
- 9,178 อ่าน
Toyota เปิดตัวปรับโฉม Toyota Yaris ใหม่ ในยุโรป อย่างเป็นทากงารเน้นความโดนใจมากขึ้นในความสปอร์ต
พูดถึงรถอีโค่คาร์ที่ขายดีอีกรุ่นในประเทศไทยเราคงไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า Toyota Yaris ใหม่เป็นรถที่ให้ความลงตัวมาก แต่ในบ้านเราที่มาฐานะรุ่นเล็กตีตั๋วเด็กก็อาจจะต้องยอมพ่ายให้รุ่นทางยุโรปที่ปรับโฉมดีขึ้น
Toyota Yaris โฉมยุโรปไปฤกษ์ในการปรับลุคให้ดีขึ้น หลังจากที่เปิดตัวไปแล้วในฝั่งญี่ปุ่น โดยรุ่นใหม่ของ Toyota Yaris ในยุโรปนั้น เน้นความดูดีมากขึ้นกว่าเดิมที่สำคัญ เส้นสายใหม่นั้น ถูกวางตัวตนให้โดนใจวัยรุ่นมากขึ้นด้วย
การเปิดโฉมหน้าใหม่ที่ยุโรปถูกปรับเส้นสายภายใต้การออกแบบ “Keen Look and Under Priority” ให้ความทันสมัยในการออกแบบมาขึ้นดูมีความลงตัวมากกว่าเดิม มาพร้อมกับไฟหน้าแบบLED และ ลงตัวด้วยไฟ Day Time Running Light ที่ให้ความลงตัวในการออกแบบตัวรถที่สอดรับกัน
ล้ออัลลอยลายใหม่ขอบ 15 และ 16 นิ้ว ถูกเติมเข้ามาในการออกแบบ รวมถึงออพชั่นเสริมกระจกข้างพับไฟฟ้าได้ มีมาให้ในรุ่นนี้ รวมถึงยังได้กันชนท้ายใหม่พร้อมชุดดิฟฟิวเซอร์ให้ความลงตัวในเรื่องการออกแบบที่สมน้ำสมเนื้อในเรื่องความสปอร์ต พร้อมไฟท้ายใหม่แบบ LED
ในห้องโดยสาร Toyota Yaris ใหม่ในโฉมยุโรป เน้นความรู้สึกที่มีความกระชับยิ่งขึ้นแต่ยังให้ความรู้สึกในการโดยสารที่สะดวกสบายมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้เสียอีก คอนโซลกลางถูกยกให้สูงขึ้นอีก 23 ม.ม. ทำให้เพิ่มความสบายในการโดยสารมากขึ้น รวมถึงยังปรับตำแหน่งคันเกียร์โดยลดตำแหน่งลงไปอีก 30 ม.ม. เพื่อให้เกียร์จับถนัดมากขึ้นไปอีก
เช่นเดียวกันเรื่องตำแหน่งที่เก็บของถูกปรับขยายเล็กน้อย โดยคอนโซลกลางเพอิ่มความสูงจากเดิม 6.1 นิ้ว เป็น 7 นิ้ว เช่นเดียวกัน ยังปรับระบบเครื่องเสียงเป็นแบบทัชสกรีน รุ่นใหม่ โดยพร้อมกันนี้เบาะนั่งถูกทำให้มีความลงตัวมากขึ้น รวมถึงใช้วัสดุใหม่ที่ดีกว่าเดิม
นอกจากการปรับหน้าตาแล้ว Toyota Yaris ใหม่ในยุโรปยังได้ระบบกันสะเทือนที่มีการปรับใหม่เพื่อให้มีความสบายในการโดยสารมากขึ้นและยังขับขี่ได้ดีเยี่ยมเช่นเดิม ระบบทอร์ชั่นบีมที่เกาะถนนดีขึ้นถูกผสานเข้ากับชุดโช๊คอัพใหม่ที่นิ่มลงกว่าเดิม รวมถึงบุชยูรีเทนกันกระเด้งโช๊คใหม่ ส่วนด้านหน้าเปลี่ยนโช๊คใหม่ และยังพัฒนาเรื่องของการเก็บเสียงในห้องโดยสารด้วย
ส่วนเครื่องยนต์นั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยยังแนะนำเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 และ 1.33 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลยังมีขนาด 1.4 ลิตรให้เลือกเช่นเดิม
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY453]