ใช่แล้ว!! มันมีจริง Toyota Corolla Hybrid

Toyota ทำเรื่องประหลาดใจเปิดตัวรถยนต์ Toyota Corolla Hybrid ที่จีน ปั้นสมรรถนะจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ลุ้นขายไทยหรือไม่ ..ในเร็วๆนี้

 

 

อาจจะมีไม่กี่คนที่สนใจ แต่เมื่อเรากล่าวถึงรถยนต์ยอดนิยมทั่วโลกแล้ว  Toyota  Corolla   ถือเป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมายาวนาน และหลังจากมันมีข่าวในเวอร์ชั่นไฮบริดออกมาเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา วันนี้เราก็ได้เห็นมันในเวอร์ชั่นวางขายจริง ที่จะพร้อมลงตลาดจีนในปีนี้

การเปิดตัว Toyota Corolla Hybrid  ในจีนในช่วงบรรยากาศงานเซี่ยงไฮมอเตอร์โชว์ เป็นการยืนยันข่าวสารที่หลุดออกมาในตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมามาว่า   Toyota   กำลังซุ่มพัฒนารถยนต์นั่ง Toyota  Corolla  Hybrid ใหม่ภายในรั้วบริษัท

[IMAGE1]

Toyota Corolla  altis Hybrid - China

ตัวตนของ   Toyota Corolla  Hybrid  หลักๆ มีการเปลี่ยนแปลงตัวตนจากที่เราคุ้นเคยในความสปอร์ต มาสู่ความก้าวล้ำในตัวตนมากขึ้น โดยในจีนจะมีแนะนำสองเวอร์ชั่นได้ แก่   Toyota Corolla Hybrid   และ   Toyota Levin Hybrid  ซึ่งทั้งคู่จะได้การออกแบบใบหน้าใหม่ผ่านกระจังหน้าเส้นเดียวให้ความทันสมัยในตัวรถมากขึ้น รวมถึงไฟหน้ายังปรับให้มีความดุดันดูลุคสปอร์ตมากยิ่งขึ้นพร้อมปรับชุดกันใหม่ และแน่นอน มันยังมาพร้อมกับโลกโก้ โตโยต้าสีฟ้า

หัวใจหลักสำคัญของการเปลี่ยนเป็นการปรับการวิศวกรรมจากเครื่องยนต์เดิมที่เราคุ้นเคยแยะยำตัวมาสักระยะในจีนกับเครื่องยนต์ 1.8  ลิตร พร้อมระบบเกียร์   CVT   มาสู่ขุมพลังไฮบริดที่ดูลงตัวในการขับขี่มากกว่าด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งตรงตามรายละเอียดที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้าว่า

[IMAGE2]

Toyota Levin Hybrid

Toyota Corolla Hybrid  จะมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5  ลิตร ทำงานแบบแอทคินสันไซเคิล พร้อมระบบมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด   99  แรงม้า และตามการเคลมของ   Toyota   ในจีน มันประหยัดถึง   4.9  ลิตร /100 ก.ม. หรือ ราวๆ  20.4  ก.ม./ลิตร เลยทีเดียว

ในแง่การวางจำหน่าย จากข้อมูลที่ออกมาจากสื่อจีนเปิดเผยว่า  Toyota Corolla Hybrid  จะเริ่มวางจำหน่ายในจีนช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ....แต่คำถามที่น่าคิดต่อไป คงไม่พ้นว่า มันจะมาไทยหรือไม่ ...

 

ภาพจากงานเปิดตัว   Toyota Corolla Hybrid - AutoHome.com.cn

หมายเหตุ เนื่องจากภาพจากงานเปิดตัวจากสื่อจีน มีจำนวนจำกัด ทางทีมงาน Autodeft  จะขออนุญาตอัพเดท บทความนี้ภายหลังอีกทีครับ 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com