MG GTS มาใหม่ว่าที่อเนกประสงค์ จีนขายปีหน้า

  • โดย : Autodeft
  • 29 ธ.ค. 57 00:00
  • 6,901 อ่าน

MG เปิดร่างว่าที่อเนกประสงค์ MG GTS พร้อมขายปีหน้าในจีน พร้อมสนมรรถนะเครื่องยนต์สี่สูบแถวเรียง 2000 ซีซี ทำกำลัง 217 แรง้มา

 

 

อาจจะยังไม่ใช่รถยนต์ที่ติดตาม บางคนบอกว่าขายมาปีหนึ่งแล้ว แต่ยังเห็นน้อยอยู่ในตลาดกับรถยนต์  จากเกาะอังกฤษในนาม   MG   แต่ล่าสุดที่จีนมันก็มีอเนกประสงค์คันใหม่ที่พร้อมขายปีหน้า

ผลงานจากรถยนต์ต้นแบบ   MG CS Concept  ซึ่งมันน่าจะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ใหม่ ซึ่งมีความลงตัวมากขึ้นในการขับขี่

ภายใต้การออกแบบใหม่ล่าสุด  MG GTS  จะเข้ามาเติมเต็มรถยนต์อเนกประสงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่แบรนด์   MG  ยังขาดอยู่ โดยมันมาพร้อมความยาว   4,500  มม. กว้าง 1,855  มม.  รวมถึงยังสูง  1,675 มม. มันมาพร้อฐานล้อ  2,650  มม. ตอบโจทย์ในการโดยสารและสมรรถนะการขับขี่

เรื่องเส้นสายการออกแบบมีความลงตัวมากกว่าเดิม โดยมันมาพร้อมหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ใหม่ของค่าย MG   ได้เส้นสายที่คล้ายกับพี่น้องของมัน และมีบางส่วนที่แลดูคล้าย   MG 3 Xross โดยจากภาพเบื้องต้นเพื่อความสปอร์ตมันมาพร้อมฝาท้ายบางส่วนที่กลายเป็นสีดำ รวมถึงยังหลังคาสีดำ ให้ลุคสปอร์ต

รายงานเบื้องหลานสื่อตรงกันว่า   SAIC   เตรียมทำรถยนต์  MG GTS  ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์  4  สูบแถวเรียงขนาด  2.0  ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ ทำกำลัง 217   แรงม้า และทำกำลังแรงบิดราวๆ  350  นิวตันเมตร ส่งลงชุดเกียร์คลัทช์คู่ 6  สปีด ซึ่งจะมีทั้งรุ่นขับเคลื่อน สองล้อ และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ  โดยมันมีความสามารถมากพอในการเร่ง 0-100  ก.ม./ช.ม. ในเวลา  8  วินาที

รวมถึงยังมีรายงานว่าท้ายที่สุด  MG   อยู่ในระหว่างการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.8  ลิตร เพื่อจะมาตอบโจทย์ในการขับขี่มากขึ้น ด้วยกำลังที่คาดว่าน่าจะออกมาในกำลังสูงสุด  148  แรงม้า และทำแรงบิดราวๆ 350  นิวตันเมตร

อย่างไรก็ดี สำหรับตลาดจีนและน่าจะรวมถึงในเอเชียและตลาดเกิดใหม่อย่างประเทศไทย มีรายงานว่า   MG   กำลังง่วนอยู่กับระบบเครื่องยนต์เบนซินใหม่ GDI   ภายใต้การพัฒนาเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 1.5 ลิตร  เทอร์โบชาร์จ ซึ่งจะมีพละกำลัง 168  แรงม้า  และสามารถทำแรงบิดได้ราวๆ  250  นิวตันเมตร

ทั้งนี้   MG GTS  ใหม่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้าในประเทศจีน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าเป็นช่วงเวลาใด ในขณะที่อังกฤษ อาจจะใช้เวลาถึงปี  2016  ในการตอบโจทย์ลูกค้าทางแถบยุโรป 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

5 เรื่องน่าสนใจ