Porsche เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่น 718 Cayman and Boxster EVs และรถรุ่น 911 Hybrid

Porsche ประกาศว่ารถสปอร์ตเปิดประทุนที่ใช้ระบบเครื่องยนต์วางกลางลำ รุ่น 718 Cayman and Boxster จะมีเฉพาะรถที่ใช้ระบบไฟฟ้าเท่านั้น เมื่อมีการเปิดตัวรถเจเนอเรชั่นถัดไปภายในปี 2025 แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เนื่องจากรถ Porsche 911 รุ่นอื่นๆ จะยังคงใช้ระบบส่งกำลังด้วยการเผาไหม้เอาไว้ในตอนนี้ แต่ก็จะมีการขยับขยายไปสู่รุ่น sporty hybrid ในปี 2025

Porsche ไม่มีแผนการจะทิ้งลูกค้า ที่ยังต้องการรถที่มีระบบส่งกำลังแบบเดิม อย่างน้อยก็ในตอนนี้

รถ Hybrid 911

รถ Porsche 911 hybrid ที่กำลังจะเปิดตัว จะมีการยืมเทคโนโลยีจากพวกรถมอเตอร์สปอร์ต กล่าวคือ Porsche 911 hybrid รุ่นที่ทำให้ถูกกฎหมายสำหรับวิ่งบนท้องถนนนี้ จะมีระบบส่งกำลังแบบรถแข่ง LMP1 Le Mans แต่ช้าก่อน เพราะแม้แต่รถรุ่น 911 GT3 ก็ดูเหมือนว่าจะพร้อมสำหรับการเป็นรถไฮบริด นอกจากนี้ Blume ได้บอกอีกว่า ยังมีเรื่องน่าประหลาดใจอีกมากมายที่รออยู่

สีสันที่ทำให้เราต้องทึ่ง : Porsche 911 GT3 ได้เป็นเลือกให้เป็น MotorTrend Performance Vehicle แห่งปี 2022 ซึ่งพลังที่มากขึ้น ก็หมายถึงความยอดเยี่ยมที่มากขึ้นเช่นกัน

“เราต้องการเป็น role model และเป็นผู้บุกเบิก”  Blume กล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการประชุมโต๊ะกลมแบบเสมือนจริง ก่อนการแถลงข่าวประจำปีของ Porsche ในเมืองสตุตการ์ต ค่ายผู้ผลิตรถต้องการให้ครึ่งหนึ่งของ Porsche รุ่นใหม่ที่จะออกขาย เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เต็มรูปแบบภายในปี 2025

 

เป้าหมาย คือ ให้รถยนต์ที่ออกใหม่มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 โดย 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือนั้น จะเป็นการผสมผสานระหว่างรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาป รถ hybrids และรถแบบ plug-in hybrids พูดอีกอย่าง คือ หากฐานลูกค้ารถรุ่น 911 ยังมีผู้ที่ต้องการซื้อรถในระบบส่งกำลังแบบเดิม พวกเขาจะไม่ถูกปฏิเสธเลย

รถ Plug-In Hybrids ที่จะวิ่งได้ไกลขึ้น

รถ Porsche Cayenne และ Panamera รุ่น plug-in hybrids จะวิ่งได้ระยะทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่ออยู่ในโหมด EV โดยเพิ่มระยะทางวิ่งเป็นประมาณ 50 ไมล์ต่อการชาร์จ จากเดิมที่ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 17 ไมล์ ปัจจุบันนี้รถ Porches รุ่นใหม่เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ในทวีปยุโรป เป็นรถแบบ plug-in hybrids หรือไฟฟ้าแบบที่ใช้แบตเตอรี่เต็มรูปแบบ

หากรถรุ่น Porsche Taycan ปี 2022 จะเป็นเครื่องบ่งชี้ใดๆแล้วนั้น ก็แปลว่าผู้ซื้อรถ Porsche นั้น คงพร้อมแล้วสำหรับการที่จะขับขี่ไปด้วยกัน รถรุ่น Taycan ซึ่งเป็น EV รุ่นแรกของ Porsche มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว เป็นจำนวนกว่า 42,000 คัน ในปีที่แล้ว และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน Lutz Meschke ก็ได้กล่าวว่า EV นั้นทำกำไรได้แล้ว

ตามมาด้วยรถ SUV ไฟฟ้า รุ่น Porsche Macan compact ที่ได้ยึดตามแผนการเดิม ที่จะเปิดตัวในยุโรปในปี 2023 และย้ายไปเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือในปี 2024 โดยจะใช้รากฐานเดียวกันกับรุ่น Taycan ซึ่งก็คือ สถาปัตยกรรมแบบ PPE ที่ออกแบบโดย Porsche และ Audi ในรถไฟฟ้าระดับพรีเมียม ด้วยความสามารถในการชาร์จแบบเร็วขนาด 800 โวลต์

จากนั้นรถรุ่น 718 EV จะออกจำหน่ายในปี 2025 โดยเหล่าวิศวกรได้พัฒนาองค์ประกอบให้มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับรถรุ่น 911 เพื่อให้รถรุ่น 718 EV สามารถแชร์สายการผลิตกับรถรุ่นพี่ที่ใหญ่กว่าที่โรงงาน Zuffenhausen ในสตุตการ์ตได้ แม้รถสปอร์ตนี้อยู่บนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน แต่ก็จะแชร์ modules บางส่วนร่วมกัน Blume กล่าว รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถสปอร์ต EV รุ่นใหม่จะออกมาในภายหลัง นอกจากนี้มันยังจะเป็นรถรุ่นแรกของ Cayman and Boxster ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตามที่ Blume ได้กล่าวไว้

สถิติยอดขายทั่วโลกในปี 2021

Porsche ส่งได้มอบรถเกือบ 302,000 คันทั่วโลก ในปี 2021 ซึ่งมีจำนวนเกินกว่า 300,000 คัน เป็นครั้งแรกอีกด้วย รถ SUV ยังคงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูงสุด ได้แก่ รถรุ่น Macan (จำนวน 88,000 คัน) และรถรุ่น Cayenne (จำนวน 83,000 คัน) ขณะที่รถไฟฟ้ารุ่น Taycan ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เป็นประมาณ 42,000 คัน ส่วนรถ Porsche 911 ก็ได้สร้างสถิติใหม่ ด้วยยอดขายรถสปอร์ตที่มากกว่า 38,000 คัน

เพื่อให้การสนับสนุนสิ่งเหล่านี้ Porsche กำลังทำงานเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีเป็นหลัก เช่นเรื่องของระบบแบตเตอรี่และการผลิต module บริษัท Cellforce Group ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Porsche และ Customcells ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาและผลิตเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประสิทธิภาพสูง ในโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี ซึ่งน่าจะพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2024 โดยเซลล์เหล่านี้จะใช้ซิลิคอนแทนกราไฟท์สำหรับวัสดุไฟฟ้าขั้วบวก

Porsche กล่าวว่า พวกเขาหวังที่จะมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยังได้ลงทุนในสถานีชาร์จระดับพรีเมียมกับพันธมิตร ในขณะเดียวกัน ก็มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จของตัวเอง Porsche จะยังคงลงทุนเพื่อขยายเครือข่ายที่มีอยู่ เช่น Ionity ในทวีปยุโรป และรวมถึงความต้องการสร้างเครือข่ายที่ชาร์จแบบเร็วของตัวเอง โดยจะเริ่มในยุโรปในปี 2023 ในพื้นที่ๆมีความต้องการสูง โดยจะให้บริการสถานีสำหรับรถ Porsche โดยเฉพาะ ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่จะต้องได้รับการพิจารณาสำหรับในประเทศจีนและทวีปอเมริกาเหนือด้วย Blume ได้กล่าวไว้

 

ที่มา Mototrend

# # # #

ตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ Autodeft.com