พลิกล็อกกระจาย...Gasly ซิ่งคว้าแชมป์ F1 ที่อิตาลี ส่วน 3 ทีมใหญ่พลาดโพเดียม Ferrari และ Red Bull ไร้แต้ม
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 6 ก.ย. 63 00:00
- 5,059 อ่าน
สุดสัปดาห์นี้ เข้าสู่สนามที่ 8 ในการแข่งขันรถสูตร 1 Formula 1 กันแล้ว โดยสนามนี้เกิดเรื่องพลิกล็อกกันกระจาย เมื่อนักขับจากทีมระดับรองอย่าง Pierre Gasly นักขับฝรั่งเศสจากทีม AlphaTauri สามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ได้ คว้าแชมป์แรกในชีวิต ส่วนทีมใหญ่นั้นผลงาแย่กันระนาว โดย Mercedes ทำได้เพียงอันดับที่ 5 และ 7 ส่วน Red Bull และ Ferrari เก็บไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียว
การแข่งขันรถทางเรียบ F1 ในสัปดาห์นี้ เป็นรายการ Formula 1 Gran Premio Heineken D’italia 2020 ที่สนาม Autodromo Nazionale Monza ประเทศอิตาลี ซึ่งถือเป็นสนามสไตล์ Power Circuit ที่เน้นความเร็วเป็นหลัก และแน่นอนว่า ตัวเต็งคว้าแชมป์ ก็ตกเป็ของทีม Mercedes ที่มีขุมพลังสูงอย่างแน่นอน และผลงานรอบคัดเลือก ก็สามารถยึดอันดับ 1-2 ได้เช่นเคย โดย Lewis Hamilton ยังนำเป็นหัวหาดแถวแรก ตามมาด้วยเพื่อร่วมทีม Valtteri Bottas ส่วนอันดับที่ 3 เป็นเซอร์ไพรส์เล็กน้อย เมื่อ Carlos Sainz นักขับสเปนจากทีม McLaren สามารถคว้าอันดับที่ 3 ไปได้ ส่วนแชมป์เก่าสนามนี้เมื่อปีก่อน Ferrari กลับทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับที่ 13 จากผลงานของ Charles Leclerc ส่วน Pierre Gasly นั้น ออกตัวเป็นอันดับที่ 10
เมื่อไฟปล่อยตัวดับลง ก็เป็นไปตามฟอร์ม เมื่อ Lewis Hamilton ออกตัวได้ดี จนยึดตำแหน่งแรกได้เช่นเคย แต่เพื่อนร่วมทีมอย่าง Bottas กลับพลาด จนตัวเองอันดับร่วงลงไปอันดับที่ 6 ส่วนอันดับที่ 2 เป็น Sainz ครองอันดับที่ 2 เอาไว้ได้แทน ผ่านไปไม่กี่รอบ หายนะเริ่มมาเยือนทีมใหญ่ เริ่มจาก Sebastian Vettel ของ Ferrari เบรกมีปัญหา ต้องออกจากการแข่งขันไปในรอบที่ 5 ส่วน Alex Albon นักแข่งไทยจาก Red Bull ถูกปรับ 5 วินาที จากเหตุปะทะกับ Antonio Giovinazzi ของทีม Alfa Romeo จนมาถึงรอบที่ 16 หลายทีมเริ่มเรียกเข้าไปเปลี่ยนยาง เริ่มจาก Nicholas Latifi จาก Williams ในรอบที่ 16, Leclerc ในรอบที่ 17, Kimi Räikkönen จาก Alfa Romeo ในรอบที่ 18 และ Gasly ในรอบที่ 19 และรอบนี้เอง ที่ Kevin Magnussen ของ Haas รถมีปัญหา ต้องจอดเพื่อรอการเข็นเข้าไปเก็บใน Pit Lane ซึ่งช่วงนี้เองที่ทาง Hamilton และ Giovinazzi พลาดเข้า Pit ในช่วงที่กรรมการห้ามเข้า สุดท้ายทั้งคู่ต้องโดนลงโทษ Stop/Go (จอดใน Pit) เป็นเวลา 10 วินาที และเมื่อกรรมการเปิดประตู Pit ทุกทีมก็รีบเข้าไปเปลี่ยนยาง ยกเว้น 4 คันที่เปลี่ยนไปแล้ว ทำให้ทั้ง 4 คันสามารถขยับอันดับไปอยู่ต้น ๆ ได้แบบดวงช่วย และเมื่อกลับมาแข่งขันใหม่ Leclerc กำลังเร่งทำอันดับเพื่อไปนำให้ได้ กลับพลาดซัดเข้ากำแพงยางจนต้องออกจากการแข่งขันไปในรอบที่ 23 ทำให้สนามนี้ Ferrari ไม่สามารถแข่งจนจบได้ทั้งคู่ ไม่มีคะแนนเพิ่ม และกรรมการก็สั่งธงแดงพักการแข่งขันไปในรอบนี้นี่เอง
เมื่อเคลียสนามเรียบร้อย กรรมการก็สั่งให้กลับมาแข่งขันกันใหม่ได้ โดย Hamilton ยังคงเป็นผู้นำ แต่อันดับที่ 2 นั้นเป็น Lance Stroll จาก Racing Point และ Gasly เป็นอันดับที่ 3 และที่น่าแปลกใจสุดคือ Räikkönen นักแข่งที่มีอายุมากที่สุดในสนามนี้ มาอยู่เป็นอันดับที่ 4 แต่ Hamilton นั้น ต้องถูกลงโทษ ทำให้เขาต้องร่วงไปสู่อันดับบสุดท้าย ซึ่ง Stroll ก็กลายเป็นผู้นำไปแทน แต่ก็เป็นได้ไม่นาน ก็ถูก Gasly แซงขึ้นไปเป็นผู้นำได้แทน และเมื่อมาถึงช่วงรอบที่ 30 ทาง Red Bull Racing ก็สั่งให้ Max Verstappen เก็บรถเพราะเครื่องยนต์มีปัญหา ชวดแต้มไปอีกราย และขณะนั้น Albon ที่เข้าไปชดใช้โทษ 5 วินาที ก็อยู่ในอันดับท้ายสุด เสี่ยงที่จะไม่ได้แต้มเช่นกัน และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะ Albon ไม่สามารถแซงใครได้เลย จบเป็นอันดับที่ 15 ไม่มีแต้มไปเช่นกัน ส่วน Gasly ประคองอันดับ 1 ไปจนจบการแข่งขันได้ ถึงแม้ว่ารอบสุดท้ายจะถูก Sainz ไล่จี้มาติด ๆ ก็ตาม และ Stroll เข้าเป็นอันดับที่ 3 ทำให้สนามนี้บนโพเดียม ไม่มี 3 ทีมใหญ่ขึ้นเลยแม้แต่คันเดียว เพราะดีที่สุดของ Mercedes ทำได้เพียงอันดับที่ 5 จาก Bottas ส่วนแชมป์โลก 6 สมัย Hamilton จบเพียงอันดับที่ 7 ทำให้ Gasly สามารถคว้าแชมป์ F1 ได้เป็นครั้งแรก และทีม AlphaTauri ก็ห่างแชมป์ไปตั้งแต่ปี 2008 สมัยยังชื่อทีม Toro Rosso อยู่ โดยนักขับที่ชื่อ Sebastian Vettel นั่นเอง
สรุปผลการแข่งขันรายการ Formula 1 Gran Premio Heineken D’italia 2020
*Sebastian Vettel, Kevin Magnussen, Charles Leclerc และ Max Verstappen ไม่จบการแข่งขัน
ตารางคะแนนสะสมการแข่งขัน F1 ฤดูกาล 2020
ข้อมูลและภาพจาก F1
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com