ถอยแทบไม่ทัน!! ตำรวจอนุโลมให้นั่งในแคปและท้ายกระบะชั่วคราว

จากเหตุการณ์ที่ทางภาครัฐ ออกมาตรา 44 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก ด้วยการไม่ให้โดยสารในกระบะท้าย และ ห้ามกระบะแคปไม่ให้บรรทุกคนโดยสารได้ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (5 เมษายน 2560) ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกไปในวงกว้าง

ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก แถลงข่าวยอมอนุโลมให้โดยสารท้ายรถกระบะและโดยสารภายในแคปไปจนกว่าพ้นเทศกาลสงกรานต์ โดยให้เจ้าหน้าที่ตักเตือนละเว้นโทษปรับ ให้ทำความเข้าใจว่ายังห้ามอยู่ โดยทาง พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เรื่องการใช้รถผิดประเภท หรือการบรรทุกคนบริเวณท้ายกระบะที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในวงสังคม และประชาชนทั่วประเทศนั้น

จากคำยืนยันของ พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ว่าไม่สามารถทำได้ แต่เจ้าหน้าที่จะมีการผ่อนปรนการบรรทุกผู้โดยสารภายในแคปของรถเป็นกรณี โดยหากพิจารณาว่ามีความจำเป็นและเดินทางไม่ไกลจะใช้การตักเตือน แต่หากพบการบรรทุกในเชิงรับจ้างขนส่ง ก็จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนใช้รถขนส่งสาธารณะในการเดินทางกลับภูมิลำเนาแทนการเดินทางไปภายในแคปของกระบะเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก แถลงข่าว ภายหลังมาตการนี้ออกมาใช้เป็นวันแรก ว่า การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นการบังคับใช้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนเอง แต่เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางรัฐบาลจึงมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน โดยยอมรับว่าจะผ่อนผันชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไปก่อน จะเน้นการประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้ให้กับประชาชนก่อน จากนั้นหลังช่วงสงกรานต์ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะกลับมาหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยไม่สามารถระบุกรอบเวลาการเริ่มบังคับใช้กฎหมายได้

ส่วนข้อเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการให้ยกเลิกบังคับใช้กฎหมายห้ามนั่งท้ายกระบะนั้น ตนยืนยันรัฐบาลจะพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ยังมีความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของประชาชน จึงอยากเตือนประชาชนให้ระวังการโดยสารท้ายรถกระบะ โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงสงกรานต์นี้.  รอง ผบ.ตร.กล่าว

 

ที่มา Thairath

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com