New Lexus ES รุ่นปี 2016 สรุปแล้วมันก็คือแต่งหน้าทาปากใหม่นี่เอง

สงสัยกันมานานว่า Lexus ES จะเปลี่ยนแปลงในลักษณะไหน สุดท้ายก็เฉลยแล้วนั่นคือ การ Facelift แต่งหน้าทาปากนี่เอง ที่งาน Auto Shanghai 2015

 

 

 

ปล่อยให้เป็นปริศนาคาใจแฟนๆที่ชื่นชอบแบรนด์ Lexus รวมถึงสื่อมวลชนทั้งจีนและต่างประเทศว่า Lexus ES รุ่นปี 2016 จะเปิดตัวในรูปแบบไหนระหว่างแต่งหน้าทาปากหรือเป็นโมเดลใหม่และทาง Lexus เองยังอุบไต๋ไว้เฉลยกันที่งาน Auto Shanghai 2015 ทีเดียว

และแล้วปริศนาที่สงสัยกันก็เฉลยออกมาเสียทีเมื่อ Lexus ตัดสินใจแต่งหน้าทาปากใหม่หรือ facelift ให้กับซีดานรุ่นรองประจำค่ายนั่นคือ New Lexus ES รุ่นปี 2016 ใหม่ให้เป็นที่ชื่นชอบคนผู้ใช้รถทั่วโลกและชาวจีนที่งาน Auto Shanghai 2015 สิ่งที่ปรับเปลี่ยนไปจากรุ่นเดิม ตั้งแต่กระจังหน้าใหม่ดีไซน์ขนาดใหญ่แบบแนวนอนดีไซน์คล้ายกับ All New Lexus RX ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน New York Auto Show 2015

ผสมผสานกับไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL รูปทรงตัว L พร้อมไฟตัดหมอกทรงกลม ไฟท้ายรูปทรงตัว L ใหม่ พร้อมขอบฝากระโปรงท้ายตกแต่งด้วยโครเมี่ยมดีไซน์ใหม่ พร้อมอัลลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว

ภายในมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งโทนการตกแต่งใหม่ทั้งตัวเบาะแผงคอนโซลหน้าใหม่โดยใช้วัสดุหนังและลายไม้ที่มีคุณภาพทีทีคุณภาพกว่าเก่ารวมถึงการตกแต่งการจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆภายในรถให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายขึ้น พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังกึ่งลายไม้ พร้อมจอแสดงผลขนาด 4.2 นิ้ว

ด้านเครื่องยนต์ของ New Lexus ES รุ่นปี 2016 นี้ ได้เครื่องยนต์เบนซินใหม่ ขนาด 2.0 ลิตร แบบ D4-S ทีทาง Lexus เองยังไม่ได้ระบุเรื่องแรงม้าแรงบิดและเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้จะทำตลาดเฉพาะที่จีนกับรัสเซีย ส่วนสเปคอเมริกาจะได้เครื่องยนต์เบนนซิน V6 3.5 ลิตร และเครื่องเบนซิน Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร นอกจากนี้ยังแว่วๆมาอีกว่าอาจได้เครื่องยนต์เบนซินแบบ L4 ขนาด 2.5 ลิตร โผล่มาอยู่ในรุ่นนี้อีกด้วย

พร้อมความปลอดภัยใหม่ที่อัดแน่นเต็มคันไม่ว่าจะเป็นระบบ ล็อคความเร็วอัตโนมัติควบคุมด้วยระบบเรด้าร์ ระบบแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนเลน หรือ Lane Departure Alert ไฟหน้าปรับแสงอัตโนมัติ และอื่นๆอีกมากมาย

สำหรับการจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ New Lexus ES รุ่นปี 2016 นั้นจะเตรียมขึ้นโชว์รูม Lexus เพื่อให้ลูกค้าได้จับจองเป็นเจ้าของกันตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ แต่จะเป็นที่ไหนนั้นต้องติดตามกันในครั้งต่อไป ส่วนเมืองไทยนั้นต้องร้องเพลงรอกันอีกสักระยะ

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

 

 

 

[GALLERY1322]