ก็ยังดี…ยอดขายรถยนต์ใหม่ 2566 เดือนพฤษภาคมโตเล็กน้อย 0.5% ยอดขายรวม 65,088 คัน

ยอดขายรถใหม่ประจำเดือน พฤษภาคม 2566 กลายเป้นครั้งแรกของปีที่มียอดขายเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสามารถทำได้ รวม 65,088 คัน คิดเป็นสัดส่วน 0.5% โดยเฉพาะกลุ่ม Eco Car ที่โตมากขึ้นอย่างมาก

ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2566 มีปริมาณการขายที่ 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเป็นเซกเมนต์สำคัญที่ผลักดันการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์เดือนนี้ที่ 29.4% ด้วยยอดขาย 25,985 คัน ในขณะที่รถเพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 12.4% ด้วยยอดขาย 39,103 คัน ในส่วนของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 19.2% และยอดขาย 27,323 คัน เป็นผลมาจากการชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน เพื่อรอความชัดเจนทางด้านนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ECO Car มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเดินทางที่เป็นส่วนตัวของประชาชนภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด

ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน ยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง จากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ยังดำเนินต่อไป รวมทั้งความมั่นใจของผู้บริโภคที่ยังไม่ดีขึ้น ตลอดจนความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่มีความกังวลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อันส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการผ่อนชำระของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ที่ต้องการความคล่องตัวทางเศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย  65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5%
อันดับที่ 1 Toyota 21,296 คัน ลดลง 4.0%
อันดับที่ 2 Isuzu 13,281 คัน ลดลง 15.6%
อันดับที่ 3 Honda 6,697 คัน  เพิ่มขึ้น 33.0 %

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,985 คัน เพิ่มขึ้น 29.4%
อันดับที่ 1 Toyota 8,266 คัน เพิ่มขึ้น  43.2%
อันดับที่ 2 Honda 4,415 คัน เพิ่มขึ้น  38.4%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 1,506  คัน ลดลง 27.5 %

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,103 คัน ลดลง 12.4%
อันดับที่ 1 Isuzu 13,281  คันลด ลง 15.6.%
อันดับที่ 2 Toyota 13,030 คัน ลดลง 20.6%
อันดับที่ 3 Ford 2,993 คัน เพิ่มขึ้น 32.1%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 27,323 คัน ลดลง 19.2%
อันดับที่ 1 Isuzu 12,131 คัน ลดลง 14.5%
อันดับที่ 2 Toyota 10,205 คัน ลดลง 26.6%
อันดับที่ 3 Ford 2,993 คัน เพิ่มขึ้น  32.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,896 คัน Isuzu 2,076 คัน – Toyota 1,568 คัน -Ford 707 คัน – Mitsubishi 460 คัน – Nissan 85 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 22,427 คัน ลดลง 23.3%
อันดับที่ 1 Isuzu 10,055 คัน ลดลง 22.0%
อันดับที่ 2 Toyota 8,637 คัน ลดลง 27.2%
อันดับที่ 3 Ford 2,286 คัน เพิ่มขึ้น  24.8 %

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 341,691 คัน ลดลง 4.9%
อันดับที่ 1 Toyota 115,982 คัน ลดลง 4.2%
อันดับที่ 2 Isuzu 73,776 คัน ลดลง 17.8%
อันดับที่ 3 Honda 39,067 คัน เพิ่มขึ้น 9.2%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 123,754 คัน เพิ่มขึ้น 6.4%
อันดับที่ 1 Toyota 43,630 คัน เพิ่มขึ้น 32.2%
อันดับที่ 2 Honda 25,984 คัน ลดลง 4.0%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 8,227 คัน    ลดลง 9.7%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 217,937  คัน ลดลง 10.3%
อันดับที่ 1 Isuzu 73,776 คัน ลดลง 17.8%
อันดับที่ 2 Toyota 72,352 คัน ลดลง 17.8%
อันดับที่ 3 Ford 16,902 คัน เพิ่มขึ้น 39.2%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 155,613 คัน ลดลง 18.2%
อันดับที่ 1 Isuzu 67,533 คัน ลดลง 18.4%
อันดับที่ 2 Toyota 59,741 คัน ลดลง 22.0%
อันดับที่ 3 Ford 16,902 คัน เพิ่มขึ้น  39.2%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 28,067 คัน Toyota 10,201 คัน - Isuzu 9,946 คัน – Ford 5,106 คัน – Mitsubishi 2,290 คัน – Nissan 524 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  127,546 คัน ลดลง 22.6%
อันดับที่ 1 Isuzu 57,587 คัน ลดลง 23.5%
อันดับที่ 2 Toyota 49,540 คัน ลดลง 23.3%
อันดับที่ 3 Ford 11,796 คัน เพิ่มขึ้น 14.6%