Mercedes-Benz ประกาศชัดเจน ยอดขายรถ PHEV + EV จะมีครึ่งหนึ่งภายในปี 2030

กระแสของโลกยานยนต์กำลังวิ่งไปหารถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้ากันแบบเต็มตัว เพื่อต้องการลดมลพิษให้กับโลกใบนี้ให้มากและเร็วที่สุด และค่ายดาวสามแฉก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็เช่นกัน ที่กำลังเดินหน้ารักษ์โลก พร้อมประกาศชัดว่า ยอดขายทั้งหมดของค่าย จะเป็นแบบรถยนต์เสียบปลั๊ก ไม่ว่าจะเป็น Plug-in Hybrid และรถยนต์ไฟฟฟ้า EV จะมีรวมกันครึ่งหนึ่งภายในปี 2030

Ola Källenius นายใหญ่ของค่าย Mercedes-Benz ที่เตรียมเข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Daimler ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ได้บอกในแผนงานเพื่อสิ่งแวดล้อม Ambition 2039 ว่า "ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ มันเป็นมากกว่าภาระความผูกพัน แต่มันเป็นจิตสำนึกของพวกเรา" โดยทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีแผนว่า จะสร้างยอดขายรถยนต์แบบเสียบปลั๊ก ทั้งแบบ PHEV และรถยนต์ไฟฟ้า EV ให้ได้ 50% ภายในปี 2030 และจะช่วยให้เจ้าของรถสามารถเข้าถึงแท่นชาร์จไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากการผลิตด้วยพลังงานสะอาดได้ง่ายขึ้นผ่านทางแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน Mercedes Me นอกจากนี้ ทางค่ายดาวสามแฉก ยังมีแผนที่จะลดมลพิษในขั้นตอนการผลิต ด้วยการสร้างโรงงานที่ไร้คาร์บอนในยุโรปภายในปี 2022 เริ่มต้นด้วยการปรับปรุงโรงงานเดิมที่ Sindelfingen ในอังกฤษให้เป็นโรงงานไร้คาร์บอนเป็นจุดเริ่มต้น และจะเริ่มสร้างโรงงานใน Jawor ประเทศโปแลนด์ตามมา เพราะแถบนั้นมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ทาง Mercedes-Benz ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ในการลดมลพิษของค่ายในตอนนี้ ยังมีผลไปถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนของค่ายด้วย เพราะ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะกำหนดนโยบายเรื่องการลดมลพิษครั้งนี้ ไปกับผู้ผลิตชิ้นส่วนให้ดำเนินการลดไปพร้อมกัน ดังนั้นการเลือกซื้อชิ้นส่วนในอนาคตจากนี้ไป ขั้นตอนการผลิตชิ้นส่วนที่ช่วยลดมลพิษได้ ก็จะเป็น 1 ในเงื่อนไขในการเลือกสั่งซื้อเช่นกัน

ข้อมูลจาก Caradvice