Mazda แรงต่อ พฤษภาคมโตอีก 23% สะท้อนความเชื่อมั่น มุ่งเน้นการดูแลเอาใจใส่ในการบริการ
- โดย : Autodeft
- 13 มิ.ย. 59 00:00
- 12,940 อ่าน
มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ออกมาเปิดเผยตัวเลขยอดการจำหน่ายรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะย่างเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งถือเป็นช่วงที่ตลาดชะลอตัว แต่ Mazda มียอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง สูงถึง 3,522 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23% การันตีตลาดรถยนต์ของประเทศไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความเห็นว่า เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายอดขายรถยนต์มาสด้าสูงถึง 3,522 คัน หรือ เติบโตเพิ่มขึ้น 23% ทะลุเกิน 3,500 คัน เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ในขณะที่ยอดขายโดยรวมของตลาดก็เช่นเดียวกันเริ่มมีทิศทางที่สดใสเช่นเดียวกัน เริ่มเห็นทิศทางการเติบโตของตลาดที่เริ่มกระเตื้องขึ้น เพราะตลาดยังมีความต้องการสูงรวมทั้งความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณที่ดี
ยอดขายล่าสุดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ฤดูกาลแห่งการขายสำหรับตลาดรถยนต์ แต่ Mazda ก็ยังสามารถสร้างยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยมียอดขายสูงถึง 3,522 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากเจาะลึกลงรายละเอียดในแต่ละรุ่นจะพบว่ารถยนต์นั่งขนาดซิตี้คาร์ยังคงเป็นตัวกระตุ้นให้ยอดขายทะลุเป้า โดย Mazda 2 กระแสตอบรับนั้นยังคงแรงมาตลอดนับตั้งแต่การเปิดตัว มียอดขายถึง 1,889 คัน เพิ่มขึ้น 43% ในขณะที่ Mazda 3 ถึงแม้คู่แข่งจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมา แต่กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ยังคงมียอดขายแบบทรงตัวอยู่ที่ 337 คัน ส่วนรถครอสโอเวอร์ อย่าง Mazda CX-3 ยังคงเป็นรุ่นที่สร้างแรงดึงดูดลูกค้าเข้าโชว์รูมมียอดขายอยู่ที่ 423 คัน มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และ Mazda CX-5 มียอดขาย 353 คัน ถือเป็นรุ่นที่เติบโตสูงสุดถึง 45% ในส่วนตลาดรถปิกอัพ Mazda BT-50 PRO มียอดยอดขาย 516 คัน ปิดท้ายด้วยรถสปอร์ต Mazda MX-5 อีกจำนวน 4 คัน
ในขณะที่ยอดขาย Mazda รวม 5 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2559 มีอัตราการเติบโตสูงสุด สามารถทำยอดขายทะลุเป้าถึง 17,869 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2558 ซึ่งรุ่นที่ครองอันดับหนึ่ง คือ Mazda 2 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 9,556 คัน เติบโต 67% ตามมาด้วย Mazda 3 จำนวน 1,871 คัน Mazda CX-3 จำนวน 2,489 คัน Mazda CX-5 จำนวน 1,353 Mazda MX-5 จำนวน 18 คัน จากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นส่งผลให้ Mazda รักษาตำแหน่งอันดับ 3 ตลาดรถยนต์นั่งไว้อย่างเหนียวแน่น
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ณตอนนี้ มีปริมาณรถ Mazda วิ่งอยู่บนท้องถนนจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่ต้องเร่งวางแผนรับมือดังกล่าว คือ งานการบริการหลังการขาย และในปีนี้ Mazda ได้บรรจุแผนงานดังกล่าว คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะเดินหน้าพัฒนาอย่างเต็มกำลัง คือ การพัฒนาบริการหลังการขายทั้งโชว์รูม มุ่งมั่นในการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย ก้าวสู่การเป็นแบรนด์พรีเมียม รวมถึงการจัดกิจกรรมแคมเปญเพื่อให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของ Mazda ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com