Mazda โตสวนกระแส 26% ยอดขายทะลุ 21,000 คัน เตรียมส่งเทคโนโลยีใหม่สร้างความแข็งแกร่ง

  • โดย : Autodeft
  • 13 ก.ค. 59 00:00
  • 11,284 อ่าน

มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ด้วยปริมาณยอดขายรถ Mazda ทุกรุ่นสูงถึง 21,000 คัน เติบโตกว่า 25.7% เกินความคาดหมาย ขยับขึ้นครองอันดับ 3 ตลาดรถเก๋งอย่างถาวร เตรียมส่งรถยนต์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดลงตลาดในครึ่งปีหลังอีก 3 รุ่น มั่นใจยอดขายทั้งปีทะลุ 42,000 คันแน่นนอน

Mazda

นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดรถยนต์โดยรวมของประเทศไทยได้รับผลพวงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา  โดย 6 เดือนแรก ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นคัน เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ในครึ่งปีแรกยอดขายโดยรวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 370,000 คัน ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์จะมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น คาดว่ายอดขายรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ  410,000 คัน มาสด้ายังเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในปี 2559 จะทะลุถึง 780,000 คัน ด้วยปัจจัยด้านบวกและการส่งสัญญาณที่ดี จะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไปถึงเป้าหมาย มีปัจจัยหลักสำคัญดังต่อไปนี้

• การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนเป็นหลัก ส่วนหนึ่งเพราะกำลังซื้อของครัวเรือนเกษตรเริ่มปรับดีขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้นและปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลาย กำลังซื้อโดยรวมของครัวเรือนที่ค่อยๆ ปรับดีขึ้น

• การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์เริ่มปรับดีขึ้นดังจะเห็นได้จากยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากแผ่วลงในช่วงก่อนหน้า สอดคล้องกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่การขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายและอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดของมาสด้าและคู่แข่ง

• ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่องและเป็นแรงส่งที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวร้อยละ 7.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน

• รถยนต์คันแรกใกล้ครบกำหนดระยะ 5 ปีในการถือครอง จึงเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมองหารถยนต์ใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น

• เทรนด์ลูกค้าเปลี่ยน: ลูกค้ามองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมภายในคันเดียว และมีความทันสมัย ให้ความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ครบครันด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น

ในส่วนของเป้าการขาย Mazda ยังยืนยันว่าปีนี้จะทุละ 42,000 อย่างแน่นอน เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์ร่นใหม่เข้าสู่ตลาด พร้อมๆ กับการเน้นนโยบายหลังการขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เน้นการดูแลเอาใจใส่ลูกค้ามาเป็นอันดับ 1 เพื่อส่งเสริมแบรนด์ให้แข็งแกร่งและทำให้มาสด้า กลายเป็นแบรนด์ที่ลูกค้ารัก

Mazda

สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2559 ที่ผ่านมานั้น Mazda ยังคงความสำเร็จไว้ได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับยอดขายของมาสด้าในปี 2558 แล้ว โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ในขณะที่ตลาดหดตัวลง ประมาณการจากยอดจำหน่ายของตลาดรวมทุกยี่ห้ออยู่ที่ 370,000 คัน เป็นยอดขายของมาสด้าที่ทะลุเป้าถึง 21,160 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 5.7% สูงสุดนับตั้งแต่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ที่สำคัญมาสด้าเป็นค่ายเดียวที่ยอดขายพุ่งขึ้นได้สูงสุดในตลาดถึง 25.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่ผ่านมา ที่มียอดขายอยู่ที่ 16,837 คัน โดยยอดขายในครึ่งปีแรกแบ่งออกเป็น

• รถยนต์นั่ง จำนวน 13,500 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 จำนวน 10,986 คัน

• รถอเนกประสงค์ จำนวน 4,512 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 160% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 จำนวน 1,734 คัน

กระแสความแรงอย่างต่อเนื่องของมาสด้าหลังจากมีรถยนต์หลากหลายรุ่นใหม่ภายใต้ 6th Generation Products ส่งผลให้มาสด้าโดยรวมครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 5.7% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์รถยนต์นั่งที่มาสด้าสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 13% กลายเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และในตลาดรถอเนกประสงค์นั้น มาสด้าสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 8.0% (รวม PPV) และครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 18.6% ในกลุ่มรถอเนกประสงค์ที่ไม่รวม PPV

Mazda

อีกหนึ่งปัจจัยแห่งความความสำเร็จ คือ การเปิดตัวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดประเทศไทยมากถึง 5 รุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา รวมทั้งการปรับโฉมและเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ อีก 4 รุ่นในช่วงครึ่งปีแรก รวมทั้งการสื่อสารแบรนด์อย่างชัดเจน มาสด้าก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของการขับขี่ ทำให้เกิดเป็นความแปลกใหม่ และแตกต่าง ฉีกหนีจากกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ  ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับที่ดีอย่างคาดไม่ถึง สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของรถยนต์แต่ละเซกเมนต์ได้อย่างแท้จริง โดยรถยนต์ที่ช่วยสร้างความแรงของยอดขายมาสด้าโดยรวมในครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา

สำหรับในครึ่งปีหลังนี้ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ยังคงเน้นการเพิ่มเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสมรรถนะในการขับขี่และการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตอบสนองการใช้งานและมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต สำหรับแผนเพิ่มยอดขายในปีนี้นั้น Mazda มุ่งหวังที่จะเน้นสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นหลักเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและคุณค่าให้กับแบรนด์ ควบคู่ไปกับการออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย จากผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า Mazda เป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ซึ่งการเติบโตของมาสด้านี้เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และเน้นความเป็นพรีเมียมแบรนด์ที่ Mazda ได้บุกเบิกเมื่อปี 2558 และในครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2559 นี้ มาสด้าก็ยังคงมั่นใจว่าจะยังเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขาย 42,000 คัน ในปีนี้ได้อย่างแน่นอน พร้อมส่วนแบ่งการตลาด 5.4% โดยเรายังคงมีเป้าหมายที่จะรักษาอันดับ 3 ในกลุ่มรถยนต์นั่ง

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า นอกเหนือจาก 4 Pillars หลักของ Mazda ที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้ว ในครึ่งปีหลังนี้ มาสด้าเตรียมนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดประเสไทย พร้อมทั้งยังมุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างคุณค่าต่างๆ ที่ส่งมอบต่อลูกค้าไปตลอดการใช้งาน ส่วนในแง่ของคุณภาพผลิตภัณฑ์มาสด้ามุ่งมั่นที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ภายใต้สายการผลิตที่มีแพลตฟอร์มเดียวกันทั่วโลกและอยู่ภายใต้มาตรฐานการผลิตเดียวกันเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพรถยนต์มาสด้าเฉกเช่นเดียวกับลูกค้ามาสด้าทั่วโลก

ในปีนี้ Mazda ย้ำเน้นในเรื่องของการบริการหลังการขายเป็นนโยบายหลักสำคัญ กลยุทธ์การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าในการเป็นเจ้าของ การพัฒนาบุคลากรในฝ่ายขายและฝ่ายบริการ โดยมุ่งเน้นในการดูแลลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งในส่วนของการดูแลลูกค้านั้น ณ ปัจจุบันจากผลสำรวจความพึงพอใจลูกค้าด้านบริการหลังการขาย มาสด้าก็ทำได้ดีขึ้นกว่าปี 2557 ในด้านผู้ให้คำแนะนำในการบริการและสถานที่รับบริการ ซึ่งนับเป็นสัญญาณอันดีในการแสดงถึงความทุ่มเทในการดูแลลูกค้าหลังการขาย ในด้านคุณค่าของการเป็นเจ้าของรถ หรือ Cost of Ownership มาสด้ามีการพัฒนาปรับปรุงด้านนี้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับฐานลูกค้าปัจจุบันของ Mazda ก็เป็นสิ่งที่ทางแบรนด์ให้ความสำคัญมาตลอด เรามีการจัดกิจกรรมกับทางลูกค้าและชมรมคนรักมาสด้าต่างๆ ทุกปีเพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและสืบทอดสายสัมพันธ์อันแสนพิเศษระหว่างแบรนด์และลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น Mazda Motorsport Day และ Jinba-Ittai Academy เพื่อส่งเสริมความรักและความผูกพันต่อแบรนด์มาสด้า จนลูกค้ากลายมาเป็น brand ambassador เป็นกระบอกเสียงสำคัญให้กับแบรนด์ และยังจะมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายในปีนี้เพื่อส่งเสริมสายสัมพันธ์อันดีต่อลูกค้าหลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการเจาะกลุ่มลูกค้าสำหรับรถยนต์นั่งในทุกรุ่นในปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดเป็นภาวะลูกค้าเก่าเป็นผู้สร้างลูกค้าใหม่ในที่สุดกลายเป็นครอบครัวมาสด้าอย่างเหนียวแน่น ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากความประทับใจที่เกิดขึ้นจริงจากรุ่นสู่รุ่น

Mazda

ความสำเร็จที่ผ่านมา และความมุ่งมั่นสู่เส้นทางในอนาคต ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ ความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สู่ตลาดประเทศไทย ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้คือการขับเคลื่อนของมาสด้าที่จะเกิดขึ้นภายในครึ่งปีหลังของปี พ.ศ. 2559 นี้ เพื่อต่อยอดความสำเร็จ  และมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจตลอดไป

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ