Mazda ยืนยัน จะผลิตเป็นรถยนต์ระบบไฟฟ้าทุกรุ่นในปี 2030

หลังจากมีค่ายรถยนต์หลายค่ายที่เริ่มประกาศแผนในอนาคตว่าจะทำรถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทุกรุ่น ทั้ง Volvo, Mercedes-Benz Ford Lincoln เป็นต้น เพื่อหวังช่วยลดการปล่อยมลพิษเข้าสู่อากาศ ล่าสุดก็เป็นค่ายรถยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Mazda ที่ประกาศชัดว่าจะผลิตรถยนต์ทุกรุ่นให้เป็นระบบไฟฟ้าภายในปี 2030

การเปิดเผยครั้งนี้มาจาก Nao Nohmi โฆษกของมาสด้าที่ให้สัมภาษณ์กับทาง CNNMoney ว่า ทาง Mazda ตั้งใจที่จะผลิตรถยนต์ระบบไฟฟ้าเป็นหลัก ทั้งแบบ Hybrid หรือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนก็ตาม ซึ่งตามแผนคือ ภายในปี 2030 รถยนต์ทุกรุ่นที่ผลิตโดยมาสด้า จะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมด ถึงแม้ว่าในปัจจุบันทาง Mazda เองก็ยังไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าเลยก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการตั้งเป้าแบบนี้ไว้ จะทำให้ Mazda ทิ้งการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลไป เพราะยังเชื่อว่าเครื่องยนต์ระบบสันดาปก็ยังมีความต้องการในอนาคตอันใกล้นี้อยู่

ทั้งนี้ล่าสุดทางมาสด้าเองก็เพิ่งเปิดเผยถึงขุมพลังใหม่กับเครื่องยนต์  SKYACTIV X ที่ใช้ระบบอัดระเบิดกับน้ำมันเบนซินได้ ทำให้ได้แรงบิดเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 30% และช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิม 20-30% ซึ่งจะเริ่มนำมาใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ของ Mazda ในช่วงปีหน้า แต่ก็ยังตั้งเป้าหมายในการช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 50% ภายในปี 2030 และเป็น 90% ในปี 2050 เมื่อเทียบกับปี 2010 รวมทั้งยังมีแผนที่จะนำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (autonomous technology) มาเริ่มทดสอบใช้ในปี 2020 และเป็นระบบมาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่นของมาสด้าในปี 2025 แน่นอน

ข้อมูลจาก Express

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com