Mazda โต 15% สูงสุดในตลาด ขายกว่า 4 หมื่นคัน ปีนี้เตรียมส่งอีก 7 รุ่นลุยตลาด ตั้งเป้าเพิ่มอีก 10%
- โดย : สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
- 19 ม.ค. 59 00:00
- 14,191 อ่าน
Mazda เผยถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ที่ผ่านมา กระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า ส่งผลให้ยอดขายทะลุกว่า 40,000 คัน เติบโตสูงสุดในตลาดถึง 15%เตรียมเปิดตัวเข้าสู่ตลาดมากถึง 7 รุ่น
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เผยถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ที่ผ่านมา จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆมากที่สุดถึง 5 รุ่น พร้อมกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า ส่งผลให้ยอดขายทะลุกว่า 40,000 คัน เติบโตสูงสุดในตลาดถึง 15% ในขณะที่ปีนี้ยังคงเดินหน้าสร้างความสำเร็จด้านยอดขาย เตรียมพร้อมการเป็นพรีเมียมแบรนด์ โดยเตรียมเปิดตัวเข้าสู่ตลาดมากถึง 7 รุ่น พร้อมงัดกลยุทธ์การตลาดมาใช้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งปี
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับตลาดรถยนต์ไทยในปี 2559 นั้น ในช่วงไตรมาสแรกยังคงได้รับอิทธิพลจากภาวะเศรษฐกิจของปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่กำลังฟื้นตัว โดยจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงครึ่งปีหลัง และจะเห็นแววความสดใสชัดเจนขึ้นในตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่สอง โดยจะเป็นการเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ เนื่องจากปีที่ผ่านมาแม้ว่ากำลังซื้อจะมีน้อยก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากยอดขายของปีที่ผ่านมา Mazda ยังสามารถเดินหน้าได้ตามแผนงานอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตามยังคงเชื่อมั่นว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้จะมียอดขายทะลุถึง 8 แสนคัน อันเนื่องมาจากกำลังซื้อยังมีอยู่อีกมาก โดยเฉพาะรถยนต์นั่งและรถอเนกประสงค์เอสยูวี
ซึ่ง Mazda ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วจากยอดการขายรถเก๋งที่สามารถก้าวขึ้นมาครองอันดับ 3 ของตลาด ในขณะที่ปีนี้มองว่าเซ็กเม้นของรถอเนกประสงค์เอสยูวีจะเป็นอีกรุ่นที่สอดแทรกเข้ามา โดยมั่นใจว่าจะสามารถครองก้าวขึ้นเป็นผู้นำในเซ็กเม้นต์นี้
สำหรับปี 2558 ที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นปีแห่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Mazda จากยอดจำหน่ายรถยนต์รวมจำนวนทั้งสิ้น 797,000 คันโดยประมาณ เป็นยอดขาย Mazda ที่ทะลุเป้าถึง 39,471 คัน ซึ่ง Mazda เป็นค่ายเดียวที่ยอดขายพุ่งขึ้นได้สูงสุดถึง 15% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557 ที่ผ่านมา ที่มียอดขายอยู่ที่ 34,326 คัน และสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ตามเป้าหมาย คือ 5% โดยยอดขายในแต่ละรุ่นประจำปี 2558 มีดังนี้
All New Mazda2 จำนวน 19,091 คัน เพิ่มขึ้น 181% ส่วนแบ่งการตลาด 8.9%
New Mazda BT-50 PRO จำนวน 8,054 คัน ลดลง 38% ส่วนแบ่งการตลาด 2.5%
All New Mazda3 จำนวน 7,143 คัน ลดลง 20% ส่วนแบ่งการตลาด 17.3%
All New Mazda CX-5 จำนวน 3,832 คัน ลดลง 32% ส่วนแบ่งการตลาด 3.1%
All New Mazda CX-3 จำนวน 1,321 คัน NA ส่วนแบ่งการตลาด 1.1%
Mazda MX-5 จำนวน 28 คัน NA
Mazda CX-9 จำนวน 2 คัน NA
อีกหนึ่งที่มาของความความสำเร็จของ Mazda ในปี 2558 กับการเปิดตัวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดประเทศไทยมากถึง 5 รุ่น ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของการขับขี่ ทำให้เกิดเป็นความแปลกใหม่และแตกต่าง ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับที่ดีอย่างคาดไม่ถึง สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของรถยนต์แต่ละเซ็กเม้นต์ได้อย่างแท้จริง
ในส่วนของสายการผลิตนั้น ในปีที่ผ่านมา Mazda สามารถผลิตได้ตามเป้าทั้งการขยายสายการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งขายทั้งภายในไทยและต่างประเทศ มีการเริ่มเปิดสายการผลิตทั้งเครื่องยนต์ และเกียร์อัตโนมัติ ณ โรงงานแห่งใหม่ มาสด้า พาวเวอร์เทรน แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ได้อย่างราบรื่น
ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Mazda ที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิต และเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของทั่วโลก นอกเหนือจากที่เมืองฮิโรชิมา และเมืองโฮฟุ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับมีการลงทุนในประเทศจีน และเม็กซิโก เพื่อขยายธุรกิจ และตอบรับกับยอดขายที่มาสด้าที่คาดว่าจะโตขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา หรือประมาณ 44,000 คัน และตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 5.5% ซึ่งจะเป็นเป้าที่สูงที่สุดที่เคยมีมา สำหรับยอดรวมของตลาดรถยนต์ของไทยในปีนี้คาดว่าจะจบที่ 800,000 คัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่ทำให้ Mazda ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่และมียอดจำหน่ายทะลุเป้าในปีที่ผ่านมานั้น เกิดจากความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างมุ่งมั่น และแข็งแกร่ง ประกอบกับความเป็นแบรนด์พรีเมียมที่ลูกค้าสัมผัสและรับรู้ได้ในทุกองค์ประกอบของ Mazda ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้ในทุกความต้องการ การนำเสนอราคาที่เหมาะสม คุ้มค่า นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกระดับคุณภาพของโชว์รูมและศูนย์บริการ การพัฒนาศักยภาพของพนักงานในทุกๆหน่วยที่ได้มาตรฐานการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย
อีกหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ คือ จากนโยบายการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่เริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมาซึ่งคิดตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แทนการคิดตามความจุกระบอกสูบ ส่งผลให้ราคารถยนต์ของ Mazda ในปี 2559 มีการปรับทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง หรือบางรุ่น ยืดอกรับภาระบางส่วนแทนลูกค้า พร้อมมอบความคุ้มค่าให้ลูกค้าเพิ่มเติมด้วยการเพิ่มอุปกรณ์เสริม
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า สำหรับในปีนี้ Mazda เตรียมเปิดตัวและเผยโฉมใหม่มากถึง 7 รุ่น เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการให้มากยิ่งขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการเจาะกลุ่มลูกค้าสำหรับรถยนต์นั่งในทุกรุ่นในปีที่ผ่านมา
ในปีนี้ได้วางแผนกลยุทธ์ในการเพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยจะพุ่งเป้าไปที่ลูกค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่น มีประสบการณ์ที่ดี มุ่งเน้นการเอาใจใส่ดูแล สร้างความพึงพอใจ เพื่อให้เกิดความจงรักภักดี และก่อให้เกิดเป็นภาวะลูกค้าเก่าเป็นผู้สร้างลูกค้าใหม่ในที่สุด ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากความประทับใจที่เกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากนี้ การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความโดดเด่น แตกต่าง สร้างจุดแข็งให้กับสินค้าทุกรุ่นให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้รถก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยมุ่งสื่อสาร 4 Key Pillars อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mazda ประกอบไปด้วย เทคโนโลยี Skyactiv, Kodo Design, MZD Connect และ i-ACTIVSENSE และการสร้าง Brand Loyalty ด้วยการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ
ในส่วนของงานบริการหลังการขายนั้น Mazda ได้เปิดโครงการศูนย์กลางอะไหล่ที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน พร้อมพัฒนาบริการหลังการขายที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศ มีมาตรฐานที่ดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากเรา
สำหรับแผนเพิ่มยอดขายในปีนี้นั้น จากการสังเกตในปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ จึงมีการปรับกลยุทธ์ให้มีความชัดเจน และเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของแต่ละพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้เกิดความคล่องตัวของกระบวนการทำงาน ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมสมบูรณ์แบบ และเติบโตไปด้วยกันในอนาคต และเตรียมวางนโยบายการการบริหารของผู้จำหน่าย เพื่อสร้างมาตรฐานและควบคุมคุณภาพให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากลทั่วประเทศ เตรียมพบกับรูปแบบภาพลักษณ์โชว์รูมใหม่ ให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความทันสมัย และการเป็นพรีเมียมแบรนด์ ตอบรับกับการที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัว
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY1847]
[GALLERY1801]