Lincoln Star Concept ได้แย้มแนวทางของรถ EVs อีก 4 รุ่น ที่จะถูกปล่อยออกมา
- โดย : PR Autodeft
- 21 เม.ย. 65 00:00
- 3,836 อ่าน
นักออกแบบรถได้กล่าวไว้ว่า แนวความคิดแบบ “Clean-Sheet Concept” จะแสดงให้เห็นถึงความเป็น “สายพันธุ์ใหม่” แห่งยานพาหนะ
อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ท่ามกลางสิ่งที่เรียกว่า การเปลี่ยนแปลงที่จะมีเพียงครั้งหนึ่งในรอบศตวรรษ ขณะโลกยานยนต์กำลังมุ่งไปสู่การขับเคลื่อนเรื่องการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และในปีนี้ยังเป็นวันครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ Lincoln อีกด้วย ซึ่งจริงๆแล้ว Lincoln ได้ถือกำเนิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นประมาณ 2 – 3 ปี แต่แบรนด์ Lincoln ได้นับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 1922 เมื่อ Henry Ford ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทฯเป็นวันเกิด เช่นเดียวกับหลายๆบริษัทฯ Lincoln ต้องการสร้างสายการผลิตรถที่ใช้ไฟฟ้า และวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่รุ่นใหม่รวมทั้งหมด 4 รุ่นภายในปี 2026 วันนี้ และในวันนี้ บริษัทฯได้เปิดตัวรถที่จะบ่งบอกถึงอนาคตดังกล่าว นั่นก็คือรถรุ่น Lincoln Star Concept
“มันเป็นการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ที่จะช่วยให้เราผ่านไปสู่ความสำเร็จกับรถรุ่นถัดไปทั้ง 4 รุ่นของเรา” Earl Lucas หัวหน้านักออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก กล่าวกับเราในเบื้องต้น แต่เมื่อเขาถูกถามว่ามันจะออกมาเป็นรถครอสโอเวอร์หรือไม่? ตัวแทนของแบรนด์ Lincoln กลับยังไม่ยอมเผยว่ามันจะเป็นในแบบใด ซึ่ง Kemal Curic ผู้ออกแบบ ได้อธิบายไว้ว่ามันเป็น "รถสายพันธุ์ใหม่"
ตัวรถจะไม่ใช่เป็นแบบสองตอน ซึ่งเป็นสไตล์ของรถแบบครอสโอเวอร์และเอสยูวีที่วิ่งกันอยู่ทั่วถนนในอเมริกา แต่กลับกันรถจะมี A-Pillar ที่ลาดเอียงอย่างมาก และส่วนหลังที่ทำมุมเฉียงยิ่งกว่าเดิม ในส่วนพื้นที่ห้องโดยสารนั้นจะเรียวไปทางด้านหลัง และบอดี้หลักของรถจะมีรูปทรงที่ไม่เป็นสามเหลี่ยมทรงลิ่มอย่างชัดเจน เมื่อมองไปแล้ว มันมีสัดส่วนที่เกือบจะคล้ายรถแบบ Wagon
จุดเด่นอีกอย่างของรถรุ่น Star คือ การใช้แสง พื้นผิวที่ให้แสงสว่างสามารถพบได้ทั่วทั้งคันรถ รวมทั้งบนโลโก้ที่ปกติแล้วจะมีสัญลักษณ์ของแบรนด์ติดอยู่ หรือบนแถบเส้นบางๆที่อยู่โดยรอบบนหลังคา และบน fingernails ที่ลากตามซุ้มล้อ นอกจากนี้ มันยังมีแถบไฟที่ขาดไปไม่ได้ ซึ่งทอดยาวไปจนถึงปลายจมูกรถ ก่อนจะโค้งขึ้นไปเหนือบังโคลนและ A pillars ซึ่งชวนให้นึกถึงแถบโครเมียมบนบังโคลนที่มีรูปทรงเหมือนใบมีดของคอนติเนนตัลปี 1961 แต่นักออกแบบที่เราพูดคุยด้วยได้ปฏิเสธความคล้ายคลึงกันนั้น รถรุ่น Star ไม่นิยมการใช้โครเมียมอย่างแน่นอน และการใช้แสงก็เข้ามาแทนที่เพื่อให้ความสว่างนั้น
ตลอดการสำรวจไปรอบๆตัวรถของเรา ทำให้เห็นว่านักออกแบบได้ใช้แนวทางที่กระตุ้นมุมมองของการขนส่งในยุค jet age เข้ามา “มันคือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง” Lucas กล่าว โดย Curic ได้ใช้คำว่า "อยู่ในเที่ยวบิน" เมื่อเขาพูดถึงโหมดการขับขี่ และหัวหน้านักออกแบบภายในของรถ Robert Gelardi เรียกมันว่า "ความโรแมนติกของการเดินทาง" เหมือนกับว่า Star กำลังส่งผ่านไปสู่ช่วงเวลาที่ Lincoln เป็นอันหนึ่งเดียวกันกับ Continental Mark II ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นรถยนต์ในประเทศที่แพงที่สุดที่เคยออกขาย เป็นการผ่านมาตรฐานของอเมริกาไปทั่วโลก และก้าวเข้าไปต่อสู่แบบตาต่อตากับแบรนด์รถยนต์อย่าง Rolls-Royce
ด้วยเหตุนี้ ห้องโดยสารภายในของ Star จะเปิดเข้าไปได้โดยประตูรถที่มีด้านจับไว้ด้านหลัง ทำให้ประตูรถเปิดออกแบบแยกทิศทางกัน เป็นความพยายามที่จะให้ผู้โดยสารดื่มด่ำอยู่ในนิยามแห่งความหรูหราของ Linclon นอกจากนี้ ยังมีการใช้แสงไฟอย่างต่อเนื่องที่แผงหลังคา A pillars แผงประตู ที่เท้าแขน คอนโซล หรือแม้กระทั่งพนักพิง และหน้าจอ "coast-to-coast" ที่ให้ความสว่างและไม่ขาดตอนที่จะครอบคลุมไปทั้งแผงหน้าปัด โดยรวมเข้ากับอุปกรณ์และส่วนควบคุมเสริม แม้แต่พื้นของรถก็ยังมีแถบแสงโดยรอบ ที่จะทอดยาวจากฝาครอบไปจนถึงด้านหลังเบาะนั่งด้านหน้า และเบาะนั่งด้านหน้านั้นยังสามารถหมุนได้ 180 องศาเพื่อหันไปทางด้านหลัง แต่ Lincoln จะไม่ติดกับระบบอัตโนมัติใดๆ
แสงไฟต่างๆนั้น เป็น 1 ใน 3 สิ่งที่จะช่วยให้ Star ประโลมผู้ขับขี่ด้วย "อารมณ์แห่งการฟื้นคืนชีวิตชีวา" ซึ่งประกอบไปด้วยแสงที่มีสีสัน เสียงรอบตัว และเครื่องกระจายกลิ่นอโรมาในตัว ที่สามารถสร้างออร่าที่แตกต่างกันได้ โดยในตอนแรกนั้น หากใครที่เข้าไปในรถรุ่น Star ในช่วงเช้า รถจะแสดงอารมณ์แบบ Coastal Morning โดยการแสดงสายน้ำไหลผ่านหน้าจอ พร้อมด้วยเสียงที่สบายหูของคลื่นในมหาสมุทร ขณะที่แสงส่องประกายราวกับรุ่งอรุณก็จะแสดงขึ้น หากใครขึ้นรถในตอนกลางวัน บรรยากาศจะเปลี่ยนเป็นแบบ Mindful Vitality ขณะที่การขับขี่ในช่วงกลางค่ำจะมาพร้อมกับ Evening Chill และแน่นอน ผู้ขับขี่สามารถเลือกเวลาที่ต้องการให้แสดงอารมณ์ได้ โดยต้องไม่คำนึงถึงช่วงเวลาที่แท้จริงของวันแต่อย่างใด และในอีกแง่หนึ่งนั้น การหมุนเวียนกลิ่นตามโปรไฟล์ที่ตั้งไว้นั้น จะทำให้เรารู้สึกเหมือนเดินผ่านแผนกน้ำหอมที่ห้าง Macy's ไปอย่างรวดเร็ว
มากกว่านั้น Star ยังใช้วิธีการเปิดประตูในรูปแบบใหม่ โดยประตูท้ายของมันจะถูกเปิดออกเหมือนกับเปลือกหอย โดยครึ่งล่างของมันนั้นจะมีรูปแบบที่ Lucas เรียกว่า Love Seat มันถูกออกแบบมาสำหรับการพักผ่อน โดยมีส่วนรองรับด้านหลังยื่นออกมาจากท้ายรถ ส่วนด้านหน้านั้น พื้นที่ "กระจังหน้า" จะเลื่อนไปข้างหน้าได้เหมือนลิ้นชัก ขณะที่ "กระโปรงหน้ารถ" จะเปิดขึ้นบนบานพับแบบ 4 ลิงค์ ที่ยกขึ้นได้เหมือนจาน ฝากระโปรงหน้าจะทำด้วยกระจกอิเล็กโตรโครมิก ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถเลือกได้ว่าจะให้มองเห็นหรือไม่เห็นภายในรถได้ ประตูด้านหลังนั้นจะมีช่องที่ถูกซ่อนไว้สำหรับเคสที่สามารถใช้เก็บแล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตสำหรับการชาร์จแบบไร้สายได้ Lincoln ยังได้เผยอีกว่า "การรับเนื้อหาในแบบไร้สาย" นั้นสามารถแสดงบนหน้าจอหลักได้เช่นกัน
ผู้สร้างสรรค์รถรุ่น Star ทุกคนที่เราได้พูดคุยด้วยนั้น ต่างสะท้อนความรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในการได้มาเป็นนักออกแบบรถรุ่นนี้ แพลตฟอร์มรถไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่รุ่นนี้ ทำให้พวกเขามีความยืดหยุ่นในการออกแบบรถ limousine wagon รูปแบบใหม่ ที่ยังไม่มีอยู่ในตลาดในขณะนี้ แน่นอน นั่นทำให้เกิดคำถามว่า Lincoln บริษัทฯที่มีประวัติความเป็นรถซาลูนแบบหรูหรามาอย่างยาวนาน จะกลับไปใช้รูปแบบรถซีดานหรือไม่?
เราได้ถกกันว่า “Zephyr” ในตลาดจีนนั้น สามารถสร้างทางเลือกที่ยอดเยี่ยมให้กับ Tesla ได้ “จีนกำลังบังคับให้เรารักษารถซีดานเอาไว้” Lucas กล่าว “อย่างน้อยเราก็มีรุ่นหนึ่งใน Portfolio ของเรา” ในขณะที่ Lucas ปฏิเสธที่จะบอกว่ารถคันดังกล่าวจะมาสู่ตลาดอเมริกาหรือไม่? และดูเหมือนว่าหากสภาวะตลาดในอเมริกาเปลี่ยนแปลงไป Lincoln จะมีสินค้าพร้อมออกขายในทันที
ในท้ายที่สุด หาก Star จะเป็นเพียงแนวคิด แต่มันก็เป็นตัวแทนของปรัชญาที่ Lincoln จะใช้ เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นแบรนด์รถ EV พวกเขาคาดว่าจะมีรถรุ่นที่ปลอดการปล่อยมลพิษภายในปี 2030 เราต้องมาดูกันว่ายังจะมีพื้นที่ว่างสำหรับแนวคิดเรื่องความหรูหราของ Lincoln ในตลาดรถ EV สุดหรู ที่มีคู่แข่งในตลาดมากขึ้นๆหรือไม่
ที่มา autoblog
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com