Lexus IS Facelift สปอร์ตซีดานรุ่นปรับโฉม เปิดขายแล้วที่ญี่ปุ่น

เกือบ 20 ปีแล้วที่ Lexus IS สปอร์ตซีดานน้องเล็ก ของค่ายหรู ได้โลดแล่นบนท้องถนนทั้วโลกจนเป็นที่ยอมรับถึงสมรรถนะ ความแรง และคุณภาพที่ไม่เป็นสองรองใคร

หลังจากเปิดตัวที่ เมืองจีน ไปเมื่อช่วงต้นปี ล่าสุดญี่ปุ่นแผ่นดินเกิด ก็ได้เผยโฉมปราดเปรียว ด้วยการยกระดับดีไซน์ให้สปอร์ต ปราดเปรียวบนเรือนร่างของเจน 3 ด้วยกระจังหน้า Spindle Grille ออกแบบใหม่พร้อมกรอบโครเมี่ยมสอดรับกับกันชนหน้าใหม่ ที่ลงตัวกว่าเดิมไฟหน้าใหม่ พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED รูปทรงตัว L รวมถึงไฟท้าย L-shaped LED และกันชนหลัง และล้ออัลลอย 10 ก้าน ขนาด 17 ใหม่  บ่งบอกตัวตนความแรงให้เร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมสองสีใหม่ สีน้ำเงิน Deep Blue Mica และสีดำ Graphite Black Glass Flake

ภายในเปลี่ยนแปลงในเรื่องความบันเทิงด้วยการอัพเกรต ระบบ Infotainment ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด รวมถึงปรับปรุงหน้าจอแสดงมัลติมีเดียขนาดใหญ่ เป็น 10.3 นิ้ว  รวมถึง นวัตกรรมใหม่ๆที่จะช่วยในเรื่องความสบาย มากขึ้น และเพลินเสียงเพลงด้วยชุดเครื่องเสียง Lexus Premium Audio sound system พร้อมลำโพง 10 จุด พิเศษด้วยชุดลำโพงคุณภาพ Mark Levinson ที่เป็นออฟชั่นเสียเงินเพิ่ม

ขุมพลัง Lexus IS Facelift ยังคงใช้เครื่องเดิม ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาดเล็ก 2.0 ลิตร 4 สูบให้แรงม้าถึง 245 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,650 – 4,400 รอบ/นาที เชื่อมต่อทุกความเร็วด้วยระบบเกียร์ Sport Direct Shift แบบ 8 สปีด ในรุ่น IS200T กับ เครื่องยนต์เบนซินใหญ่สุด V6 3.5 ลิตร ในรุ่น IS350 ได้แรงม้าสูง 318แรงม้า ที่ 6,400รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ แบบ 8 สปีดพร้อมระบบ Sport Direct Shift

และถ้าอยากรักษ์โลกยังมีเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร ในรุ่น IS 300 h ให้พลังแรง 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 4,200-4,800 รอบ/นาที ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แรงม้าอยู่ที่ 143 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงถึง 220 แรงม้า และเลือกได้ทั้งรุ่นขับหลังและขับสี่ AWD

 

ระบบความปลอดภัยจัดเต็มแบบ Lexus Safety System + ไม่ว่าจะเป็นระบบ ตรวจจับคนเดินถนน  ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน Lane Departure Alert   ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam และ  ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ ด้วยระบบเรดาห์ Radar Cruise Control และเปิดตัวขายจริง แล้วที่ญี่ปุ่น ส่วนเมืองไทยจะมีโอกาสได้สัมผัสหรือไม่ ต้องติดตาม

 

ที่มา Paultan

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com