Jeep Wrangler Magneto 2.0 กับแนวคิดแห่งพลังงานที่เพิ่มขึ้น สู่การขับเคลื่อนไปในเส้นทางด้วยไฟฟ้า

  • โดย : PR Autodeft
  • 8 เม.ย. 65 00:00
  • 5,264 อ่าน

รถไฟฟ้า Easter Jeep Safari ที่ถูกจัดแสดงในปีนี้ จะเป็นรถออฟโรดที่มีความแรง 625 แรงม้า และสามารถทำความเร็วได้ 0 – 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ภายใน 2 วินาที

เมื่อปีที่แล้ว Jeep ได้สร้างความประหลาดใจให้กับรถในกลุ่ม Easter Jeep Safari ด้วยการเปิดตัวรถคอนเซ็ปต์รุ่น Wrangler Magneto ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด

 

ด้วยแนวคิดแบบออฟโรดที่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าแล้วว่า ระบบขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง สำหรับรถรุ่น Wrangler ที่เป็นมรดกทางสมรรถนะในทางวิบาก ในตอนนี้นั้น แบรนด์ Jeep ได้ยกระดับสิ่งที่ต่างๆให้ดีขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยแนวคิดของ Wrangler Magneto 2.0 ซึ่งถูกบรรยายให้เป็นรถออฟโรดที่สามารถลุยไปได้ในภูมิประเทศทุกรูปแบบ ซึ่งมันถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารอยู่ห่างไกลจากเส้นทางแห่งความพ่ายแพ้

 

ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรถรุ่นก่อน ทำให้เห็นว่า Magneto 2.0 นั้นทรงพลังกว่ามาก ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า flux ตามแนวแกนที่ติดตั้งไว้ที่ช่วงหน้า ซึ่งจะให้กำลัง 625 แรงม้า และแรงบิดที่ล้อสูงสุดถึง 850 lb-ft (1,151 Nm) ซึ่งเป็นแรงบิดที่มากกว่าคอนเซ็ปต์ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้วถึงสามเท่า

 

Jeep กล่าวว่า จำนวนแอมแปร์สูงสุดในระบบขับเคลื่อนจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 600 แอมป์ พร้อมการปรับเทียบระบบส่งกำลังไฟฟ้าแบบใหม่ ที่จะรักษาจำนวนแอมแปร์สูงสุดไว้ได้นานถึง 10 วินาที สิ่งนี้ทำให้ Magneto 2.0 สามารถทำความเร็วพุ่งจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 2 วินาที

 

และเฉกเช่นเดียวกับรถ Magneto รุ่นดั้งเดิม รถเวอร์ชั่น 2.0 ยังบรรจุไปด้วยชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 4 ชุด ที่จะถูกกระจายไปทั่วทั้งแชสซี เพื่อความสมดุลของน้ำหนักรถ โดยมันจะมีกำลังการผลิตรวมกันทั้งหมด 70 kWh และจะทำงานในระบบ 800 โวลต์

องค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งที่ถูกทำให้โดนใจจากรถรุ่นปีที่แล้ว คือ เกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด แม้ว่าอัตราการทดเกียร์หนึ่งจะเปลี่ยนจาก 5.13 เป็น 3.36 โดยเมื่อรวมเข้ากันกับเคสการถ่ายโอน Rubicon's Rock-Trac ของ Jeep Wrangler แล้ว จะทำให้ Magneto 2.0 ได้รับการกล่าวถึงในข้อพิสูจน์ความสามารถในการแล่นบนทางขรุขระที่ไม่มีใครเปรียบเทียบได้ ด้วยการส่งแรงบิดตามที่ผู้ขับขี่ต้องการได้อย่างทันที

 

นอกจากนี้รถยังมีฟังก์ชั่นการกู้คืนพลังงานในแบบสูงสุดที่ผู้ขับขี่เลือกได้ (driver-selectable maximum regeneration function) ซึ่งจะถูกเสริมไปยังระบบขับเคลื่อน เพื่อประสบการณ์การขับขี่ในแบบ "one-pedal" อย่างแท้จริง สุดท้ายนี้ ระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่รวมถึงอินเวอร์เตอร์ที่ได้มาจากรถแข่ง จะแปลงไฟกระแสตรงให้เป็นไฟกระแสสลับสำหรับมอเตอร์ไฮเทคที่ทำงานด้วยความเร็วสูงสุด 5,250 รอบต่อนาที

 

ในขณะที่ตัวถังจะใช้สไตล์ 2 ประตูในแบบของ Wrangler ซึ่งรถรุ่น Magneto 2.0 จะมีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 12 นิ้ว เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับส่วนประกอบของระบบส่งกำลังเพิ่มเติม โดยระยะฐานล้อขยายขึ้นจะทำให้รถมีสัดส่วนใกล้เคียงกับรถรุ่น "LJ" Wrangler Unlimited ที่ออกมาในปี 2004 – 06 

 

ส่วนประกอบในแบบออฟโรดนั้นจะรวมไปด้วย ชุด lift kit แบบกำหนดเองขนาด 3 นิ้ว ยางออฟโรดขนาด 40 นิ้ว ที่ติดตั้งบนล้อขนาด 20 นิ้ว เพลาหน้าแบบ Dynatrac 60 Pro-Rock และเพลาหลังแบบ Pro-Rock Dynatrac 80 ขนาดใหญ่ ที่มีอัตราส่วน 5.38 และล็อกเกอร์สำหรับทั้งระบบเพลา เพลาขับแบบกำหนดเอง และระบบกันสะเทือนแบบออฟโรด

 

การตกแต่งช่วงหน้าของ Jeep Wrangler Magneto 2.0 นั้น จะมาพร้อมกันชนน้ำหนักเบาแบบคัสตอม คิ้วขอบล้อแบบคาร์บอนไฟเบอร์ แต่งด้วยสี Surf Blue รวมทั้ง B-pillar ที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์แบบคัสตอม  หลังคา bikini top แบบคัสตอม และ hoodคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีหน้าต่างโปร่งแสงสีฟ้า ที่จะทำให้เหลือบมองเห็น power unit ที่อยู่ข้างใต้ได้

 

ที่มา insideevs

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ