เจ.ดี. พาวเวอร์เผยข้อมูลว่า ผู้ใช้งานรถยนต์ใหม่พบปัญหาจากการผลิตลดลง แต่มีปัญหาจากการออกแบบมากขึ้น
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 20 ธ.ค. 61 00:00
- 5,502 อ่าน
เจ.ดี. พาวเวอร์ บริษัทที่ให้บริการด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับความพึงพอใจและพฤติกรรมของลูกค้า, ให้บริการที่ปรึกษา และการวิเคราะห์ข้อมูล ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการใช้งานรถยนต์ใหม่จากทางผู้บริโภค พบว่าผู้ใช้งานรถยนต์พบปัญหาจากการผลิตลดลง แต่มีปัญหาจากการออกแบบมากขึ้น เมื่อเทียบกันระหว่างปี 2560 กับ 2561
ผลการศึกษาคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2561 โดย เจ.ดี. พาวเวอร์ (J.D. Power 2018 Thailand Initial Quality StudySM (IQS)) เปิดเผยว่า จำนวนปัญหาที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ 100 คัน ลดลงมาที่ 70 คันในปี 2561 จาก 83 คันในปี 2560 ซึ่งพบว่าคุณภาพรถยนต์ใหม่ถูกปรับปรุงขึ้นอย่างมาก ทั้งด้านภายนอกตัวรถ, ด้านเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ เป็นที่น่าสังเกตว่าปัญหาคุณภาพที่เกิดจากความผิดพลาดในการผลิตลดน้อยลงมาอยู่ที่ 44% จากปัญหาที่ถูกรายงานทั้งหมด ในปี 2561 เทียบกับ 61% ในปีก่อน แต่ปัญหาในเรื่องการออกแบบ เช่น คลื่นวิทยุไม่ชัด หรือไม่มีคลื่น, ที่วางแก้วใช้งานยาก, แอร์ไม่เย็น, ไม่สามารถคงระดับอุณหภูมิที่ต้องการได้ เป็นต้น กลับมีรายงานปัญหามากถึง 51% ในปี 2561 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 18% โดยศิรส สาตราภัย ผู้อำนวยการระดับภูมิภาค เจ.ดี. พาวเวอร์ ประจำประเทศไทยได้ให้ข้อมูลว่า “ระดับปัญหาคุณภาพที่เกิดจากการผลิตลดต่ำลง รวมถึงคุณภาพในการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์มีความแตกต่างกันน้อยลง เป็นผลมาจากผู้ผลิตรถยนต์มุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการผลิตรถยนต์อย่างต่อเนื่อง แม้คุณภาพในการผลิตจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแล้ว ยังมีโอกาสที่ผู้ผลิตรถยนต์จะสามารถปรับปรุงคุณภาพรถยนต์ให้ดีมากยิ่งขึ้นได้ด้วยการปรับปรุงคุณภาพในการออกแบบรถยนต์ โดยเฉพาะการออกแบบปุ่มควบคุมและอุปกรณ์แสดงผลต่าง ๆ ที่มีความล้ำสมัย ให้สามารถเข้าใจและใช้งานได้ง่ายขึ้น และพนักงานของผู้จำหน่ายมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้แก่ลูกค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการอธิบายและสาธิตการใช้งานอย่างละเอียดและครบถ้วนในระหว่างส่งมอบรถยนต์”
เจ.ดี. พาวเวอร์ ได้สรุปข้อมูลจากการสำรวจเอาไว้ดังนี้
• ปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดในการผลิตยังคงเป็นปัญหาที่พบมากที่สุด: จาก 5 อันดับแรกของปัญหาที่มีการรายงานมากที่สุด พบว่า 3 ปัญหามาจากความผิดพลาดในการผลิต และอีก 2 ปัญหามาจากการออกแบบที่ไม่เหมาะสม โดยปัญหาจากการผลิตที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด คือ ปัญหาเสียงลมดังมากเกินไปจากรอบตัวรถ , กลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้องโดยสาร, และมีเสียงผิดปกติจากช่วงล่าง ส่วนปัญหาการออกแบบที่มีการรายงานมากที่สุด คือ คลื่นวิทยุไม่ชัด หรือไม่มีคลื่น และที่วางแก้วใช้งานยาก
• เจ้าของรถยนต์ใหม่ที่ซื้อรถเป็นครั้งแรกรายงานจำนวนปัญหาน้อยกว่า: ผู้ซื้อรถยนต์ใหม่คันแรกรายงานจำนวนปัญหาที่พบน้อยกว่าผู้ที่เคยซื้อรถยนต์มาแล้ว คิดเป็น 68 กับ 74 จาก 100 คัน
• คุณภาพของรถยนต์ที่ดี จะช่วยส่งเสริมแบรนด์ให้ดีขึ้น: Net Promoter Score®(NPS) เป็นตัววัดแนวโน้มของลูกค้าที่จะแนะนำยี่ห้อและรุ่นรถที่พวกเขาใช้อยู่ให้กับผู้อื่น จากการให้คะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 10 คะแนน ในปีนี้คะแนน NPS โดยรวมอยู่ที่ 52 คะแนน โดยกลุ่มเจ้าของรถยนต์ใหม่ที่ให้คะแนน 9 หรือ 10 คะแนนในการที่พวกเขาจะแนะนำยี่ห้อรถที่ตัวเองใช้อยู่ (Promoters) รายงานปัญหาอยู่ที่ 61 จาก 100 คัน เทียบกับเจ้าของรถยนต์ที่ให้คะแนนเพียง 0 ถึง 6 คะแนน (Detractors) รายงานปัญหาถึง 121 จาก 100 คัน
นอกจากนี้ เจ.ดี. พาวเวอร์ ยังได้จัดอันดับรถยนต์ใหม่ที่มีรายงานปัญหาน้อยที่สุด โดยแบ่งเป็นแต่ละประเภทตามนี้
• โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (62 จาก 100 คัน)
• มาสด้า2 ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับต้น (53 จาก 100 คัน)
• ฮอนด้า ซีวิค ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลาง (54 จาก 100 คัน)
• มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดใหญ่ (63 จาก 100 คัน)
• เชฟโรเลต โคโลราโด เอ็กซ์-แคป ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะตอนขยาย (68 จาก 100 คัน)
• ฟอร์ด เรนเจอร์ ไฮ-ไรเดอร์ ดี-แคป และ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ดี-แคป ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะ 4 ประตู (63 จาก 100 คัน)
เจ.ดี. พาวเวอร์ ได้สรุป 3 อันดับแรกของแต่ละประเภทเอาไว้ด้วยดังนี้
การศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ 2 กลุ่มปัญหาหลักที่เจ้าของรถยนต์ใหม่ประสบในช่วง 2-6 เดือนแรกของการเป็นเจ้าของ ได้แก่ กลุ่มปัญหาด้านการออกแบบ และกลุ่มปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดในการผลิต การศึกษานี้ได้เจาะถามถึงปัญหาต่าง ๆ ซึ่งครอบคลุมทั้งหมด 8 หมวดหมู่ ได้แก่ ปัญหาภายนอกรถยนต์; ปัญหาจากประสบการณ์การขับขี่; ปัญหาจากอุปกรณ์, ปุ่มควบคุม และจอแสดงผล; ปัญหาเครื่องเสียง, ระบบสื่อสาร, ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง; ปัญหาจากเบาะที่นั่ง; ปัญหาจากระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ, ระบบความเย็น; ปัญหาภายในห้องโดยสาร และปัญหาเครื่องยนต์/ ระบบเกียร์
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com