New Jaguar XJ ที่สุดของยานยนต์ Flagship พบกันช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ที่อังกฤษ

Jaguar-Land Rover จากอังกฤษเปิดตัวมาดใหม่ของ สุดยอดยานยนนต์ Flagship Jaguar XJ รุ่นปรับโฉมพร้อมจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ที่อังกฤษ

 

 

 

ถ้าจะนึกถึงยานยนต์จากอังกฤษแบรนด์ Jaguar จะต้องเป็นแบรนด์อันดับต้นๆที่เศรษฐี ผู้บริหาร CEO ทั่วโลกต่างเชื่อมั่นและไว้ใจด้วยตัวตนที่หรูหราสง่างามดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และเครื่องยนต์ทรงพลังไม่แพ้แบรนด์อื่นๆทั้งจากเยอรมนี อิตาลี แม้กระทั่งแบรนด์รถหรูจากญี่ปุ่น

Jaguar XJR

 

ล่าสุด Jaguar-Land Rover อังกฤษหรือ JLR แนะนำตัวตนใหม่ของยานยนต์ระดับเรือธงหรือ Flagship อย่าง Jaguar XJ รุ่นปรับโฉมพร้อมปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้หรูขึ้นทันสมัยขึ้นกว่าเดิม ด้วยกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูใหม่ ปรับปรุงไฟหน้า LED ใหม่ พร้อมไฟท้าย LED แบบ J-signature ทำให้ XJ รุ่นปรับโฉมนี้มีความโดดเด่นขึ้นมาทันที ที่คราวนี้ Jaguar เพิ่มรุ่นย่อยมาอีก 2 รุ่น 2 สไตล์ทั้งรุ่น XJ Autobiography เน้นไปที่ความหรูหราและ รุ่น XJR ที่เน้นความแรงและสปอร์ตโดยเฉพาะ

Jaguar XJ Autobiography

 

Jaguar XJ รุ่น Autobiography มีออฟชั่นเด่นตั้งแต่ ล้ออัลลอยด์ Maroa ขนาด 20 นิ้ว พร้อมกรอบโครเมี่ยมที่ช่องระบายอากาศที่กันชนหน้า พร้อมเบาะนั่งหนังแท้ semi-aniline พร้อมตัดเย็บด้วยด้ายตัดกัน treadplates ทำจากสแตนเลส ลายไม้ลวดลายพิเศษ ที่นั่งแบบ individual seats พร้อมระบบนวดเพื่อผ่อนคลายตลอดการเดินทางและระบบเพื่อความบันเทิงด้วยจอ HD ขนาด 10.2 นิ้ว ติดตั้งที่หลังเบาะคนขับกับผู้โดยสาร

ส่วน Jaguar รุ่น XJR นั้น ต่างกันที่ช่องระบายอากาศที่บังโคลนหน้า ซ้ายขวา ดีไซน์เฉพาะรุ่นพร้อมสปอยเลอร์หลัง กระจังหน้า พร้อมช่องระบายอากาศด้านหน้าแบบสีดำมันวาว ล้ออัลลอยด์ Mataivia design พร้อมสีดำ glossy black ขนาด 20 นิ้ว ภายในติดตั้งเบาะหนังแท้สปอร์ต พวงมาลัยแบบ R-Sport steering wheel และ treadplates รวมถึงแผงแดชบอร์ดที่สามารถให้เลือตกแต่งแบบ เปียโนแบล็ค หรือ คาร์บอนไฟเบอร์ตามความต้องการของลูกค้าหัวใจสปอร์ต

โดยในรุ่นปรับโฉมของ Jaguar XJ นั้นนำระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้ามาติดตั้ง ระบบ cut fuel consumption รวมถึงไฟส่องสว่างเวลากลางวันหรือ double J-blade daytime running lights และ All-Surface Progress Control (ASPC) เป็นออฟชั่นมาตรฐาน

ด้านราคาจำหน่ายของ Jaguar XJ รุ่นปรับโฉมนั้น จะเริ่มจำหน่ายในอังกฤษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนนี้ เริ่มต้นที่ราคา £58,690 จนถึง £100,000 โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นฐานล้อสั้นและฐานล้อยาว ส่วนทางเมืองไทยอดใจรอนิดนึง อีกไม่นานเกินรอ

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

[GALLERY1435]