อยากให้มาไทย!! All New Hyundai Tucson เอสยูวีรุ่นใหม่หมด….หล่อกระชากใจสาวก

ถ้าจะกล่าวถึงรถยนต์เอสยูวีหนึ่งเดียวจากแดนโสมก็คงหนีไม่พ้น Hyundai ที่มียนตกรรมรประเภทนี้ส่งตลาดทั้งในบ้านเกิดและต่างประเทศจนได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้รถว่าเป็นรถยนต์ที่มีคุณภาพ

เฉกเช่นรถยนต์ เอสยูวี อย่าง Hyundai Tucson ที่งานนี้เปิดตัวเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ท้ารบท้าชนกับคู่แข่งทั้ง Honda CR-V Mazda CX-5, Toyota RAV4, Nissan X-Trail, Subaru Forester และ Peugeot 3008 งานนี้ ฮุนได ทุ่มทุนออกแบบดีไซน์แบบลบภาพเดิมๆของ Tucson อย่างชัดเจน ออกแบบสไตล์ Sensuous Sportiness ตั้งแต่กระจังหน้าทรงตัววี จิวเวอรี่ ที่มีไฟ LED DRLs ติดตั้งอยู่ด้านในเป็นชุดเดียวกัน รูปทรงของชุดส่องสว่างที่ต่างไปแบบ Parametric Hidden Lights ออกแบบให้กันชนหน้าลงตัวกับชุดกระจังหน้า ด้านข้างมีความสปอร์ตแบบเดียวกับรถยนต์เอสยูวีโซนยุโรปด้วยซุมล้อแบบเหลี่ยมพร้อมล้ออัลลอย 5 ก้านคู่ทรงสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R19 ราวหลังคาดีไซน์ Built-In พร้อมกรอบโครเมี่ยมครอบประตูตั้งแต่เสา A จนถึงเสา D ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบเขี้ยวคู่ 2 ข้าง พร้อมฝาท้ายทรงสปอร์ตกับสปอยดลอร์หลังและที่ปัดน้ำฝนซ่อนรูป และกันชนหลังติดตั้งลิ้นสปอยเลอร์เข้มๆ

ด้วยบอดี้ที่ใหญ่ขึ้นส่งผลให้ภายในใหญ่ขึ้นตามด้วย การออกแบบแผงประตูกับแผงคอนโซลหน้าเป็นหนึ่งเดียว ด้วยแผงคอนโซลหน้าที่มาตรวัดเรืองแสงดิจิทัล และจอแสดงผลอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องละสายตา โดยทั้งสองส่วนนี้มีขนาดเท่ากัน 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay and Android Auto รวมถึงดีไซน์ช่องแอร์ที่ออกแบบเป็นแนวยาวแบบลงตัว รวมถึงไฟส่องสว่างภายใน ambient light แบบ LED ที่ปรับเฉดสีได้มากสุด 64 สี พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง ระบบชาร์จมือถือ Qi wireless smartphone และห้องโดยสารที่กว้างกว่าเดิมเพลิดเพลินด้วยลำโพงคุณภาพ

ขุมพลังมาทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิด 247 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ถ้าชอบความ Hyundai ยังมีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตรทั้งแบบ Hybrid HEV และ Plug-IN Hybrid PHEV แรงม้ารวมสูงถึง 230 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร เบื่องต้น ฮุนได เปิดตัวจำหน่ายในเกาหลีบ้านเกิดในเดือนกันยายนนี้ และตลาดโลเริ่มทำตลาดตั้งแต่ต้นปี 2021 และเมืองไทยจะมีโอกาสหรือไม่ต้องติดตาม

 

ที่มา Carscoops และ Hyundai

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com