ปรับให้หล่อ!! Honda Civic MY2020 ปรับใหม่ เก๋งคอมแพคท์ยอดนิยม จ่อเผยญี่ปุ่นต้นปีหน้า

หลังจากที่เมืองไทยเปิดตัว Honda Civic Hatchback รุ่นปรับปรุงโฉมได้ไม่นาน ทำให้เกิดกระแสความสนใจกันเป็นจำนวนมากจากสาวกที่ชอบความแรง ความเร้าใจกับหน้าใหม่ออพชั่นใหม่ ค่าตัวใหม่ในราคาล้านสองต้นๆ

ทางญี่ปุ่นก็ไม้น้อยหน้า เตรียมกระตุ้นตลาดอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Honda Civic รุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2020 ทั้งแบบ Sedan และ Hatchback เริ่มที่รุ่น Sedan กับกระจังโครเมี่ยมดีไซน์เอกลักษณ์รวมทั้งไฟหน้า LED พร้อมไฟ Daytime กันชนหน้าดีไซน์เท่ เพิ่มกรอบโครเมี่ยม C Shape รอบๆไฟตัดหมอก กันชนหลังเพิ่มความหรูหราด้วยลายเส้นพาดยาวตลอดชายกันชนหลัง และกันชนหลัง เสริมความเท่อีกระดับ ด้วยไฟท้ายทรงรูปตัว C แบบ LEDและ ใหม่!! ล้ออัลลอยสีเข้มทูโทน ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R17

ส่วนรุ่น Hatchback ปรับหล่อตามเวอร์ชั่นอเมริกาและไทยด้วยภายนอกปรับดีไซน์เล็กน้อยตั้งแต่กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้า LED กับไฟ Daytime แบบ LED ชุดแต่งสไตล์สปอร์ต รอบคัน และท่อไอเสียแบบคู่ตรงกลางสไตล์สปอร์ต และ สปอร์ตล้ำหน้าด้วยไฟท้ายทรงรูปตัว C แบบ LED มีการเพิ่มหลังคาซันรูฟรูปแบบใหม่ top load sunroof ล้ออัลลอยสปอร์ตทูโทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235 / 40 R18 และเบาะนั่งใหม่ Combi seat ออกแบบให้ดอบกระชับมากขึ้นและระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษแบบอัตโนมัติ ETC 2.0 เป็นออพชั่นมาตรฐาน

ด้านขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo 1.5 ลิตร ที่ให้เลือก Mid-Power แรงสุดด้วยรหัส L15B7 173 แรงม้าที่ 5,500 แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700-5,500 รอบ/นาทีในรุ่น Sedan และ High-Power รหัส L15 C แรงสุด 182 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที โดยมีแรงบิดให้เลือกทั้ง แรงบิด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700-5,500 รอบ/นาที และ 240 นิวตันเมตร ที่ 1,900-5,000 รอบ/นาที ในรุ่น Hatchback ทกุขนาดความแรงจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT

และยังมีสีใหม่ให้เลือก 4 สี ทั้งสีขาวมุก Platinum white pearl สำหรับทุกรุ่น, สีเทา Sonic Gray Pearl สีน้ำเงินมุก Obsidan Blue Pearl ในรุ่น Hatchback และ สีน้ำเงิน Crystal Blue Metallic ในรุ่น Sdean จากเดิมที่มีทั้ง สีดำ Crystal Black Pearl สำหรับทุกรุ่น สีแดง Frame Red ในรุ่น Hatchback, สีเงิน Luna Silver Metallic สีน้ำเงิน Cosmic Blue Metalli สีแดง Premium Crystal Red Metallic ในรุ่น Sedan โดยจะขายจริงที่ญี่ปุ่งตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า

ที่มา Carwatch

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com