Ford ปรับแผนเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยรุ่นรถที่ราคาถูกลง

Ford เตรียมเพิ่มการผลิตของรถรุ่นราคาต่ำ เช่น Escape, Explorer และ F-150 เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เงินจำกัด

จากผลกระทบของเงินเฟ้อ การระบาดของโรคระบาด และปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนรถยนต์ ทำให้ราคารถยนต์ใหม่พุ่งสูงขึ้น โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ราคาขายเฉลี่ยของรถใหม่อยู่ที่ 49,740 ดอลลาร์ ซึ่งสูงขึ้นเกือบ 15,000 ดอลลาร์ จาก 10 ปีที่แล้ว

แม้ว่าจะมีการเปิดตัวรถราคาประหยัดบ้าง เช่น Buick Envista Chevrolet Trax และ Nissan Kicks แต่รุ่นเหล่านี้ถือเป็นข้อยกเว้นที่หายาก นอกจากนี้ Ford Maverick ก็เห็นการขึ้นราคาจาก 19,995 ดอลลาร์ เป็น 26,295 ดอลลาร์ภายในไม่กี่ปี

Ford เคยปรับกลยุทธ์โดยตัดรุ่นย่อยราคาถูกออก เพื่อเพิ่มกำไรและสะท้อนความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้ผู้บริโภคเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันทางการเงิน และมองหาความคุ้มค่ามากขึ้น

Ford จึงเตรียมเพิ่มการผลิตของรถรุ่นราคาต่ำ เช่น Escape, Explorer และ F-150 โดยคาดว่าในอนาคตจะมีรุ่นพื้นฐานมากขึ้น เช่นเดียวกับการกลับมาของ Ford Bronco Base ในปี 2025 หลังจากที่ถูกตัดออกเมื่อปีก่อน ซึ่งทำให้ราคาขยับจาก 34,890 ดอลลาร์เป็น 39,130 ดอลลาร์

ในขณะที่ลูกค้าต้องการรถที่มีราคาคุ้มค่า Ford จะเน้นการส่งเสริมรถที่ปรับโฉมใหม่อย่าง Bronco Sport และ Maverick ซึ่งทั้งสองรุ่นเริ่มต้นต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ แต่ผลิตในเม็กซิโก ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากภาษี 25% หากประธานาธิบดีทรัมป์ดำเนินการตามที่เคยประกาศไว้ ขณะเดียวกัน Escape ก็อาจจะถูกยกเลิกในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการตัดทิ้งอีกหนึ่งรุ่นที่มีราคาเข้าถึงง่าย

ที่มา Carscoops