สาวกเฮ!! Ford Ranger Raptor กระบะโหด 213 แรงม้า พร้อมส่งมอบสิงหาคมนี้

หลังจากประกาศราคาพร้อมเปิดรับจองอย่างเป็นทางการไป สำหรับ Ford Ranger Raptor กระบะออฟโรดสายพันธุ์โหดที่เต็มเปี่ยมทั้ง ดิบ ดุ แบบฉบับกระบะอเมริกันผสมกับความแรง DNA ในแบบ ฉบับ Ford Performance

ล่าสุด ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศออกมาแล้วว่า เปิดสายการผลิต Ford Ranger Raptor อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ณ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม จังหวัดระยอง และ พร้อมส่งมอบให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ 

Ford Ranger Raptor มาในร่างกระบะ 4 ประตู Double Cab พัฒนาใหม่ทั้งคัน ได้แรงบันดาลใจจาก Ford F-150 Raptor ผสมผสานดีเอ็นเอตามแบบฉบับ Ford Performance ภายนอกกระจังหน้าสี่เหลี่ยมคางหมูใหม่อันสะดุดตาแบบสีดำ พร้อมโลโก้ฟอร์ดสะกดด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เอกลักษณ์ ไฟหน้าสว่างไกลด้วยแบบ HID และไฟ LED Daytime ในตัว ชุดกันชนด้านหน้าซึ่งติดกับเฟรมรถออกแบบให้มีความทนทาน แผงกันชนด้านหน้ายังมาพร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED

แก้มข้างรถคู่หน้าผลิตจากวัสดุคอมโพสิท ทนต่อการบุบและรอยขีดข่วนถูกตีโป่งขยายออกเพื่อรองรับระยะยุบตัวของโช้คที่เพิ่มมากขึ้นและยางออฟโรดขนาดใหญ่ บันไดข้างผลิตจากอะลูมิเนียมอัลลอย ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เศษหินกระแทกกับตัวถังรถด้านหลัง กันชนท้ายปรับปรุงโดยเพิ่มชุดตะขอเกี่ยวจำนวน 2 ชุด ที่รองรับการลากจูงได้ถึง 3.8 ตัน พร้อมตัวเซ็นเซอร์  ยางติดรถจากโรงงาน เป็นยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17 เสริมสมรรถนะการขับขี่ ยางมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 838 มิลลิเมตร กว้าง 285 มิลลิเมตร แก้มยางมีความแข็งแรงสูงพร้อมดอกยางขนาดใหญ่พิเศษ มั่นใจและปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสภาพพื้นผิวที่เปียกลื่น โคลน พื้นทราย และหิมะ

ภายในแกร่งพร้อมความประณีตขั้นสูง เบาะนั่งได้รับการออกแบบพิเศษ เพื่อรองรับการใช้งานการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง ด้วยวัสดุหนังกลับแถมมีความหนาเป็นพิเศษ ช่วยในเรื่องการรองรับด้านข้าง คอนโซลหน้าพิเศษด้วยการเดินด้ายสีน้ำเงินและการเลือกใช้วัสดุหนัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังทรงเดิมเพิ่มเติมตำแหน่งองศาพวงมาลัย On-Centre Marker แถบสีแดงด้านบนพร้อมสลักลายโลโก้ Raptor เพื่อมอบความโดดเด่นสะดุดตาด้วย แป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ พร้อมเทคโนโลยีด้านการเชื่อมต่อ SYNC 3 ระบบสั่งงานด้วยเสียง และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ ปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถล็อก ปลดล็อก และสตาร์ทรถได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ

ขุมพลังแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่  Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 213 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2000 รอบ/นาที ตอบสนองยอดเยี่ยมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Terrain Management System (TMS) ทั้งหมด 6 รูปแบบ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจพร้อมระบบช่วงล่างออกแบบมาเพื่อรับมือกับการขับขี่ที่ความเร็วสูงโดยที่ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมรถได้อย่างสมบูรณ์แบบและได้รับความสบายอย่างเต็มที่ ด้วยโช้คแบบ Position Sensitive Damping (PSD) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดให้ดียิ่งขึ้น โช้คอัพผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษโดย Fox Racing Shox ใช้ลูกสูบขนาด 46.6 มิลลิเมตร ทั้งคู่หน้าและหลัง ช่วงล่างถูกออกแบบมาให้มีระยะการให้ตัวของล้อสูงเพื่อความสามารถในการซับแรงกระแทกขณะขับออฟโรด

ระบบเบรกอันทรงพลังเป็นแบบ ดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบควบคุมพวงมาลัยแบบไฟฟ้า EPS (Electronic Steering Program) สำหรับการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ พร้อมระบบความปลอดภัยระดับสูงตั้งแต่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP (Electronic Stability Program) ทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ มาพร้อมกับระบบควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง TSC (Trailer Sway Control) ระบบช่วยออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HDC (Hill Descent Control) และระบบควบคุมการบรรทุก LDC (Load Adaptive Control)

Ford Ranger Raptor มีสีภายนอกให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่พิเศษเฉพาะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ สีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และ สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) โดยจำหน่ายในราคา 1,699,000 บาท

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com