New Ford Ranger MY2020 ปรับครั้งใหม่…กระบะสายแกร่ง ณ แดนจิงโจ้

นับตั้งแต่การเปิดตัว All New ISUZU D-MAX ที่ผ่านมาทำให้ตลาดรถกระบะหรือที่เรียกว่ากัน UTE ที่ออสเตรเลีย สั่นสะเทือนกันเลยทีเดียวเป็นการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่พร้อมทั้งอัดเทคโนโลยีความปลอดภัยเต็มคันจนคู่แข่งต้องปรับตัว

ล่าสุด ฟอร์ด ออสเตรเลีย อยู่เฉยไม่ได้จีงจัดการแนะนำกระบะสายแกร่งอย่าง Ford Ranger รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY2020 ด้วยการแนะนำรุ่นพิเศษ XL Special Edition และกลับมาอีกครั้งกับรุ่นยอดนิยม XLT ที่งานี้มาเต็มรูปแบบทุกขนาดเครื่องยนต์ ทุกระบบขับเคลื่อน และทุกรูปแบบตัวถัง เริ่มที่รุ่น XL Special Edition นำรุ่น 3.2 XL 4 ประตู หัวกระสือ หรือที่เรียกกันว่า Cab Chassis มาตกแต่งเพิ่มเติมเอาใจคนขาลุย ด้วยกันชนหน้าดีไซน์พิเศษ พร้อมไฟ LED light bar แนวยาวติดตั้งที่กันชนหน้า รวมถึงชุดสนอร์เกิ้ล พร้อมออพชั่นเดิมๆทั้งกะทะล้อขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 255/70R16 สมรรถนะสูงพร้อมรับมือกับงานสุดหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นการลากจูง การบรรทุก และออฟโรด

ส่วนรุ่น XL XLS เปลี่ยนมาใช้ยาง Continental All-Terrain ขนาด 16 นิ้ว พร้อมล้อกะทะและอัลลอยสีดำเข้ม ขนาด 16 นิ้ว สำหรับรุ่น XLS ยังเลือกได้กับล้อใหม่กับยางขนาดใหม่ 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R17 Continental All-Terrain รวมถึงพ่นสารเคลือบ Liner ลงที่พื้นกระบะ spray-in bedliner

ในรุ่น XLT Fully Loaded มาพร้อมไฟหน้า Bi-LED พร้อมไฟ LED daytime ในโคมเดียวกัน ล้ออัลลอยลายเดียวกับรุ่น Limited เวอร์ชั่นไทย ตกแต่งด้วยสีดำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 พร้อมชุดแต่งโครเมี่ยมรอบคันตั้งแต่ กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแต่เปลี่ยนเส้นแนวนนอนให้เป็นสองเส้นโดยที่ขอบกระจังหน้าปั้มชื่อ Ranger กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตู ที่เปิดฝากระบะท้าย และกันชนหลัง

ภายในหรูด้วย กุญแจรีโมทอัจฉริยะ My Key และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ หัวเกียร์อัตโนมัติดีไซน์ บันเทิงทันสมัยด้วยระบบ Infotainment SYNC 3 หน้าจอสี Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto พร้อมลำโพง 6 ตัว พร้อม พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) ปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาเมื่อขับความเร็วต่ำและปรับเน้นความแม่นยำเมื่อขับที่ความเร็วสูง เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ และคอนโซลทำความเย็น Cool Box พร้อมระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control

และทุกรุ่นของ Ford Ranger MY2020 ตั้งแต่รุ่นถูก XL ไปจนถึงรุ่นแรงอย่าง Raptor ติดตั้งระบบ FordPass Connect ระบบตรวจสอบสถานะตัวรถ สามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อก ระบุตำแหน่งตัวรถ ตรวจสอบระดับน้ำมัน แรงดันลมยาง โดยสามารถตรวจได้จากสมารท์โฟนที่ได้ทำการเชื่อมต่อระบบ FordPass Connect ไว้แล้ว

มาพร้อมขุมพลังแรงตั้งแต่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ Duratroq TDCI 2.2 ลิตร รหัส P4AT High Power 160 แรงม้าที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 385 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที แรงเร้าใจด้วย เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ Duratorq TDCI 3.2 ลิตร รหัส P5AT 200 แรงม้าที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิด 470 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ทั้งสองขนาดจับคู่กับเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ TDCI Bi-Turbo 2.0 ลิตร รหัส YN2Q 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD

สำหรับ Ford Ranger MY2020 ทั้งรุ่น XL, XLS และ XLT มีให้เลือกทั้งแบบ Single Cab Open Cab และ Double Cab ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ มาตรฐาน ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง และขับเคลื่อน 4 ล้อ จำหน่ายทั้งหมด 25 รุ่นย่อย เริ่มต้น $29,190 - $60,490 (รวมค่า On-Road Cost) หรือราว 649,000 – 1,344,000 บาท (ไม่รวมภาษีของเมืองไทย)

ที่มา Carexpert

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com