Ford เปิดสายการผลิต Ford Ranger อย่างเป็นทางการ ณ โรงงานเอฟทีเอ็ม ระยอง
- โดย : Autodeft
- 7 ต.ค. 59 00:00
- 24,836 อ่าน
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศเปิดสายการผลิตรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง Ford Ranger ซึ่งเป็นกระบะที่โดดเด่นที่สุดในเซ็กเมนต์อย่างเป็นทางการ ณ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีอยู่สูงมากทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
ทั้งนี้ Ford ยังคงมีการผลิต Ford Ranger ที่โรงงานร่วมทุนออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย หรือ เอเอที ซึ่งจะยังคงเป็นโรงงานหลักในการผลิตรถฟอร์ด เรนเจอร์เพื่อส่งออกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกจากที่มีการคาดการณ์ว่าโรงงานเอเอทีจะดำเนินการผลิตใกล้เต็มกำลังการผลิตในอนาคตอันใกล้นี้ Ford จึงได้ลงทุนจำนวน 186 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6,269 ล้านบาทที่โรงงานเอฟทีเอ็มเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตรถกระบะเพิ่มเติม
Ford Ranger เป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดของฟอร์ดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก รวมถึงเป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ เวียดนาม ไต้หวัน กัมพูชา และเมียนมาร์ และเป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศออสเตรเลีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
โดย ครองอันดับรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในเซ็กเมนต์รถกระบะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการเปิดตัวไปเมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยฟอร์ดมีส่วนแบ่งการตลาดรถกระบะในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดที่เคยมีมา
การเพิ่มกำลังการผลิตรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง Ford Ranger จะช่วยให้สามารถตอบรับความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่มากทั่วทั้งภูมิภาคได้” มร. มาร์ค คอฟแมน ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว “การลงทุนเพิ่มที่โรงงานเอฟทีเอ็มยังช่วยเน้นย้ำความมั่นใจที่เรามีต่อประเทศไทยในระยะยาว รวมถึงความมั่นใจในคุณภาพรถยนต์ระดับโลกจากพนักงานของเรา
ในประเทศไทย Ford เป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่มีการลงทุนมากที่สุด โดยได้ลงทุนกว่า 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9.45 หมื่นล้านบาท ทั้งในโรงงานที่ Ford เป็นเจ้าของทั้งหมดและแบบร่วมทุน นอกจากนี้ ยังได้สร้างงานให้แก่พนักงานกว่า 10,000 คนในประเทศไทย
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวว่า “ ในนามของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ขอแสดงความยินดีกับ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ในโอกาสสำคัญครั้งนี้
Ford นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดิฉันเชื่อมั่นว่าก้าวย่างที่สำคัญในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการผลิตและการส่งออกรถยนต์ของภูมิภาค”
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com