Ford เปิดตัวแบตเตอรี่ LMR – จุดเปลี่ยนใหม่ของ EV ประสิทธิภาพสูง ราคาต่ำกว่าเดิม

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 27 เม.ย. 68 21:02
  • 1,015 อ่าน

Ford เตรียมปฏิวัติวงการยานยนต์ไฟฟ้าด้วยเคมีแบตเตอรี่สูตรใหม่ Lithium Manganese Rich (LMR) ซึ่งให้พลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่ NMC เดิม และมีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่า พร้อมเป้าหมายสำคัญคือการทำให้รถ EV มีราคาทัดเทียมกับรถน้ำมัน

พัฒนาโดย Ford เอง – เคมีใหม่ที่เหนือกว่า NMC และปลอดภัยเทียบเท่า LFP แบตเตอรี่ LMR ได้รับการพัฒนาโดยทีมงานของ Ford ณ Battery Center of Excellence ในรัฐมิชิแกน โดยมีจุดเด่นหลักคือ:
* ความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่ High-Nickel (NMC/NCM)
* ให้ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จมากขึ้น
* ความปลอดภัยใกล้เคียงกับแบตเตอรี่ LFP
* ต้นทุนการผลิตต่ำกว่ากลุ่มแบตเตอรี่ Nickel ระดับกลางอย่างมีนัยสำคัญ
“นี่ไม่ใช่แค่การทดลองในแล็บ... เรากำลังผลิตเซลล์ LMR รุ่นที่ 2 แล้วในไลน์ต้นแบบของเรา” — Charles Poon, ผู้อำนวยการฝ่ายระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของ Ford

พร้อมใช้งานจริงภายในทศวรรษนี้
แม้ Ford ยังไม่ได้ระบุว่าได้ร่วมมือกับบริษัทแบตเตอรี่รายใดในการพัฒนาเคมีใหม่นี้ เช่น CATL, LG หรือ SK On แต่ยืนยันว่าเกิดจากความร่วมมือของทีมนักเคมีและวิศวกรภายในมากกว่า 135 คน
* กำลังทดสอบเซลล์แบตเตอรี่รุ่นที่สองในสายการผลิตต้นแบบ
* ตั้งเป้าใช้งานจริงกับรถรุ่นใหม่ภายในปี 2030
* รองรับเป้าหมายลดต้นทุน EV ให้ใกล้เคียงกับรถ ICE (เครื่องยนต์สันดาป)

จะถูกนำไปใช้กับ EV รุ่นใดบ้าง?
แม้ Ford จะชะลอแผนเปิดตัว EV บางรุ่นในปีที่ผ่านมา เช่น การยกเลิก SUV 3 แถวไฟฟ้า และการเลื่อนการเปิดตัว F-150 รุ่น EV แต่ยังมีแผนสำหรับ:
* รถแวนไฟฟ้ารุ่นใหม่
* รถกระบะขนาดกลางไฟฟ้า
* รถ EV สำหรับผู้บริโภคทั่วไป ที่จะใช้แบตเตอรี่ LMR เป็นมาตรฐาน

สรุปจุดเด่นของแบตเตอรี่ LMR
เคมีแบตเตอรี่ใหม่ Lithium Manganese Rich (LMR)
พัฒนาโดย Ford Battery Center, Michigan
ความจุพลังงาน สูงกว่าแบตเตอรี่ High-Nickel NMC
ความปลอดภัย ใกล้เคียงแบตเตอรี่ LFP
ต้นทุนการผลิต ต่ำกว่าแบตเตอรี่ Nickel ระดับกลาง
สถานะการพัฒนา อยู่ในขั้นตอนสายการผลิตต้นแบบ
การใช้งานจริง ภายในสิ้นทศวรรษนี้ (ก่อนปี 2030)

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ