All New Ford Bronco การกลับมาตำนานขาลุยแห่งมะกัน พร้อมเปิดตัวจริง 13 กรกฎาคม นี้
- โดย : Autodeft
- 7 ก.ค. 63 00:00
- 6,099 อ่าน
นับตั้งแต่ Ford ปลุกตำนานรถลุยในตำนานให้กลับมาลุกโชนอีกครั้งกับ All New Ford Bronco ที่อยู่คู่กับชาวมะกันมากว่า 50 ปี และเป็นหนึ่งรุ่นสำคัญที่สร้างชื่อมายาวนาน
ล่าสุด ฟอร์ด ปล่อยทีเซอร์แบบวีดีโอความยาวกว่า 1 นาที ที่งานนี้อุ่นเครื่องเผยตัวจริงในบางส่วนและคราวนี้มาถึง 3 ตัวถัง ทั้ง All New Ford Bronco แบบ 2 ประตู 5 ประตู และรุ่นเล็ก All New Ford Bronco Sport คร่าวๆสำหรับ SUV รุ่นเดอะ ในร่างเจนใหม่ (เจเนอเรชั่นที่ 6) ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นด้วยกระจังหน้ากระจังหน้าสีเข้ม พร้อมตราสัญลักษณ์ Bronco แบบตัวหนังสือขนาดใหญ่ขนาบข้างด้วยไฟหน้าทรงกลมแบบ LED และไฟเลี้ยวแบบ LED รวมถึงตัวรถที่ใหญ่ ดุดิบด้วยล้ออัลลอยลายเข้มและคิ้วขอบล้อ ตามสไตล์ออฟโรดพันธุ์แท้
ส่วนรุ่นเล็ก All New Ford Bronco Sport มีกลิ่นไอความดุดิบสืบทอดตำนานมาตั้งแต่ กระจังหน้าสีเข้ม พร้อมตราสัญลักษณ์ Bronco แบบตัวหนังสือขนาดใหญ่ขนาบข้างด้วยไฟหน้าทรงกลมแบบ LED และไฟเลี้ยวแบบ LED ด้านข้างดูๆไปแล้วยังมีความเป็น Land Rover อยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นหลังคารถที่เล่นระดับ ติดตั้งแร็คหลังคาดีไซน์เท่บาดใจ พร้อมคิ้วขอบล้อสีดำ กับล้ออลัลอย 5 ก้านคู่สีเข้มๆ ตอบโจทย์ความโหดได้อย่างแยบยลและบั้นท้ายที่ยังมีความคลาสิกอยู่ รวมถึงไฟท้ายแนวตั้งสีขาว-แดง และตราสัญลักษณ์ Bronco Sport แบบตัวหนังสือ
ขุมพลังสำหรับ All New Ford Bronco มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ สร้างขึ้นจากพื้นฐานของกระบะ Ford Ranger มาพร้อม 2 ขุมพลังแรงจากตระกูล EcoBoost ด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 274 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบ/นาที กับใหญ่สุดเบนซินเทอร์โบ 2.7 ลิตร V6 330 แรงม้าแรงบิด 542 นิวตันเมตร ใช้งานอย่างมั่นใจด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
สำหรับผู้ที่มองหาความตื่นเต้นในการผจญภัยนอกเมืองในขนาดย่อม All New Ford Bronco นำเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ EcoBoost ขนาด 1.5 ลิตร 3 สูบ ให้กำลังถึง 182 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตรและอาจมีขุมพลังใหญ่สุด 2.0 ลิตร EcoBoost 4 สูบ 253 แรงม้า แรงบิด 372 นิวตันเมตร เสริมทัพทางเลือก พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
เบื้องต้นการเปิดตัว All New Ford Bronco Series ทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเล็ก เปิดตัวที่สหรัฐอเมริกาในวันที่ 13 กรกฎาคม นี้ และมีแผนที่จะทำตลาดโลกอีก งานนี้ใครที่คิดจะซื้อ Land Rover Defender หรือเพื่อนร่วมชาติอย่าง Jeep Wrangler โปรดอดใจรอ
ที่มา carscoops
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com