ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเติบโตมากขึ้น

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 20 ก.พ. 68 19:31
  • 1,899 อ่าน

ในปี 2024 จำนวนผู้ซื้อรถยนต์ที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยผลสำรวจของ CDK Global บริษัทที่ให้บริการซอฟต์แวร์แก่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์พบว่า ผู้ซื้อรถยนต์ที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตเพิ่มขึ้นจาก 18% ในปี 2023 เป็น 31% ในปี 2024 

Tesla

และสำหรับผู้ที่สนใจรถยนต์ไฮบริด ความสนใจใน EV สูงขึ้นอีก โดย 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาจะเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 38% ในปี 2023

ความต้องการ EV อาจไม่เติบโตเร็วเหมือนในอดีต หรือไม่เร็วเท่าที่อุตสาหกรรมรถยนต์คาดหวัง แต่ตลาด EV ยังเติบโตต่อเนื่อง

หรือในคำพูดของ CDK Global: "กระแสความนิยมไม่ได้หวนกลับไปที่รถยนต์ใช้น้ำมัน แม้จะมีอุปสรรคมากมายที่ส่งผลต่อความต้องการ EV"

ในปี 2024 ผู้ผลิตรถยนต์ได้ลดแผนการผลิต EV และการลงทุนลง เนื่องจากความต้องการที่ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ แต่ยังคงมีการทำลายสถิติยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมาถึง 1.3 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 7.3% จากปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Cox Automotive ซึ่งหมายความว่าแม้จะมีปัญหากับการส่งมอบของ Tesla แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ อย่าง General Motors และ Hyundai ก็ยังทำยอดขายรถไฟฟ้าได้ดี

อย่างไรก็ตามยังมีอุปสรรคที่ต้องเผชิญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เคยรู้จักกันมาแล้วหลายปี ผู้ซื้อรถยนต์ที่ลังเลในการเปลี่ยนไปใช้ EV ต้องการระยะทางในการขับขี่ที่ยาวนานขึ้นและเวลาชาร์จที่สั้นลง นอกจากนี้ยังต้องการเครือข่ายชาร์จที่เชื่อถือได้ ตัวเลือกจากแบรนด์ที่ชื่นชอบ และการันตีว่าแบตเตอรี่ EV จะไม่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป (งานวิจัยล่าสุดชี้ว่าไม่ควรกังวลเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ใน EV รุ่นใหม่ ๆ)

หนึ่งในผลลัพธ์ที่น่าสนใจจากการสำรวจคือ ผู้ซื้อรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันในปี 2024 มีความเข้าใจเกี่ยวกับการชาร์จมากขึ้น โดย 60% เข้าใจถึงค่าใช้จ่ายในการชาร์จ EV, 48% รู้ว่า EV ต้องใช้เวลาชาร์จประมาณ 30 นาที และ 49% รู้จักสถานีชาร์จในท้องถิ่น ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2023

อย่างไรก็ตามยังมีความเข้าใจผิดที่สำคัญที่ CDK ระบุ ซึ่งอาจส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ซื้อรถยนต์ส่วนใหญ่คิดว่า EV มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ซึ่งจริงๆ แล้ว งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากระบบขับเคลื่อนของ EV มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า

“ผู้ซื้อรถทุกประเภทที่เราสำรวจสามารถระบุข้อเสียของ EV ได้อย่างถูกต้อง แต่ส่วนใหญ่ยังคิดว่า EV ต้องการการบำรุงรักษามากกว่า ซึ่งเป็นการมองข้ามข้อดีหลักของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นอกจากประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม” ข้อความจากการศึกษาระบุ “ข้อความเกี่ยวกับผลกระทบทางการเงินจากการใช้ EV ยังไม่สามารถทำลายความเข้าใจผิดเหล่านี้ได้”

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ