เผยแล้ว Lexus LM ใหม่ เจนสอง สุดหรูหราและสง่างาม ที่งาน Shanghai Auto Show 2023

เผยโฉมแล้วเป็นที่เรียบร้อยกับอีกหนึ่งรถตู้ยอดนิยมเพื่อการเดินทางแสนพิเศษ กับ Lexus LM ใหม่ เป็นช่วงเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น นับตั้งแต่ Lexus LM เจนเนอเรชั่นแรกเปิดตัว ล่าสุดพร้อมลุยรุ่นใหม่เจนสองแล้ว

โดยรถใหม่ Lexus LM ใหม่ เจนสองนี้ เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Shanghai Auto Show 2023 ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว รูปลักษณ์ดีไซน์ต้องยอมเลยว่าหล่อหรูขึ้นไปอีกขั้นและดูมีความสปอร์ตไม่น้อย ไฟหน้าสุดเฉี่ยวสไตล์ Lexus เข้ากันกับกันชนหน้าและกระจังหน้าดีไซน์ขนาดใหญ่ราวกับหุ่นยนต์สุดเท่

แนวกระจกบานหน้าลาดเอียงขนาดใหญ่ พร้อมช่องกระจกบริเวณเสา A ขนาดใหญ่ที่จะช่วยเพิ่มมุมมองในการขับขี่ และด้านท้ายรถที่เด่นมาด้วยไฟท้ายคาดยาวเด่น ๆ ด้วยสีแดง พร้อมโลโก้ Lexus ที่ทำให้รถดูแพงขึ้นไปอีก

ตัวรถมีการปรับปรุงความแข็งแรงแกนกลางของ LM มีความทนทานต่อแรงบิดเพิ่มขึ้น 50% จากการติดตั้งโครงยึดใหม่บนส่วนรองรับหม้อน้ำและพื้นด้านหลัง ตลอดจนโครงสร้างแบบโยกตรงและการปรับปรุงเสาหลัก

ยังมีการติดตั้งระบบช่วงล่าง 'AVS Suspension with Frequency-Sensitive Piston Valve' ขั้นสูง โดยระบบนี้รวมแอคชูเอเตอร์ Adaptive DVariable Suspension กับวาล์วลูกสูบที่ไวต่อความถี่ในโช้คอัพ ส่งผลให้คุณภาพการขับขี่ดีขึ้นและการสั่นสะเทือนน้อยลง

ใส่ใจทุกรายละเอียดโดยเฉพาะการโดยสารกับเบาะนั่งลดการเคลื่อนไหวของศีรษะและทำให้แนวสายตาของผู้โดยสารคงที่ เบาะนั่งด้านหน้าที่โอบรับร่างกายได้ดีกว่า ในขณะที่เบาะนั่งแถวที่สองมีวัสดุดูดซับแรงกระแทก 2 ประเภทเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนเมื่อจอดอยู่กับที่และเมื่อรถเคลื่อนที่

และสำหรับ Lexus LM ใหม่ จะมีตัวเลือกรูปแบบที่นั่งหลากหลาย ทั้งแบบ 4, 6 และ 7 ที่นั่ง แน่นอนว่ารุ่น 4 ที่นั่งเป็นรุ่นที่หรูหราที่สุด มีฉากกั้นระหว่างที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง หน้าจอไวด์สกรีนขนาด 48 นิ้ว ตู้เย็น ช่องเก็บของ ที่วางแขนและที่วางแขนแบบปรับความร้อนได้ มีระบบทำความร้อนและความเย็นขั้นสูงที่ตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารที่ใบหน้า หน้าอก ต้นขา และขาท่อนล่าง และควบคุม HVAC เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณมีอุณหภูมิที่สมบูรณ์แบบ

ติดตั้งระบบความปลอดภัย Lexus Safety System+ ประกอบด้วยระบบความปลอดภัยก่อนการชน ซึ่งรวมถึงระบบเตือนก่อนการชน ระบบช่วยเบรกก่อนการชน และเบรกก่อนการชน นอกจากนี้ยังมี Dynamic Radar Cruise Control, Lane Departure Alert และแม้แต่ Abnormal Driver Response System ที่จะตรวจสอบท่าทางของคนขับเมื่อเปิดใช้งานระบบช่วยติดตามเลน และหากพบว่าคนขับไม่สามารถขับต่อไปได้ ระบบจะส่งสัญญาณอันตรายและชะลอความเร็วลงอย่างนุ่มนวล

ส่วนรายละเอียดของขุมกำลังยังเผยออกมาไม่มากนักในตอนนี้ เพียงแต่ยืนยันว่าจะมากับระบบไฮบริด 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบ และระบบไฮบริด 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร

ที่มา carscoops