BMW Motorrad เผย BMW F 850 GS Adventure ใหม่ พร้อมยกทัพมอเตอร์ไซค์ใหม่หลากรุ่น บุกงาน Motor Show 2019

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย นำโดย มร. คริสเตียน แซมลาวสกี้ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ได้เผยโฉม บีเอ็มดับเบิลยู BMW F 850 GS Adventure ใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ เอาใจเหล่านักผจญภัย พร้อมยกทัพมอเตอร์ไซค์รุ่นล่าสุดอย่างบีเอ็มดับเบิลยู C 400 X Exclusive Style รวมถึงบีเอ็มดับเบิลยู R nineT บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scrambler บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America ที่มาพร้อมสีใ

หลังจากที่ได้เปิดตัว BMW F 750 GS และ F 850 GS มอเตอร์ไซค์ตระกูล GS ในดวงใจของแฟนๆ ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ครั้งนี้บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดกลับมาเอาใจอีกครั้งกับบีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure ใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ

ซึ่งนอกจากนี้ ยังได้นำบีเอ็มดับเบิลยู C 400 X พร้อมฟีเจอร์และสีใหม่ รวมทั้งบีเอ็มดับเบิลยู C 400 X Exclusive Style มาเปิดตัวแก่แฟนๆ ใน หลังจากที่ได้เปิดตัวในรุ่นจำนวนจำกัดไปเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับเสียงตอบรับล้นหลามจากแฟนๆ และได้ขายหมดทุกคัน จึงกลับมาตอบรับเสียงเรียกร้องอีกครั้งด้วยฟีเจอร์ใหม่ สีใหม่ และสไตล์ใหม่

และข่าวที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากสำหรับสาวก GS สายเลือดผจญภัยที่พร้อมรับความท้าทายในการแข่งขันออฟโรดระดับตำนานกับการแข่งขัน International GS Trophy โดยในการแข่งขันครั้งที่ผ่าน ๆ มา เราได้เฟ้นหานักบิดไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อร่วมการแข่งขันดังกล่าว แต่ในปีนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เราจะส่งทีมประเทศไทยเข้าร่วมสุดยอดการผจญภัยออฟโรดระดับโลก โดยสามนักบิดแถวหน้าของประเทศไทยผู้คว้าชัยจากการแข่งขันรอบคัดเลือก GS Trophy Thailand Qualifier 2019 ณ คีรีมายา รีสอร์ท เขาใหญ่ ในวันที่ 2-3 สิงหาคมนี้ จะได้เป็นตัวแทนของนักบิดทั้งประเทศ ร่วมนำทีมประเทศไทยเข้าชิงแชมป์ในการแข่งขัน International GS Trophy 2020 ในประเทศนิวซีแลนด์ สำหรับสิงห์มอเตอร์ไซค์ที่มีจิตวิญญาณของนักสู้ และครอบครองมอเตอร์ไซค์ในตระกูล GS ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ครั้งนี้จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญให้คุณได้ทดสอบขีดจำกัดของตัวเองและร่วมสร้างความทรงจำในการผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิต

สำหรับรถจักรยานยนต์ใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure ใหม่ มากับราคาจำหน่าย 675,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) อีกหนึ่งตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักผจญภัยที่มองหาเพื่อนสองล้อคู่ใจในการออกสำรวจโลกด้วยมุมมองที่แปลกใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 853 ซีซี ส่งกำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ / 95 แรงม้า ที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 92 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ได้รับการตั้งค่าแกนข้อเหวี่ยงแบบ 90 องศา และองศาการจุดระเบิดที่ 270/450 องศาเพื่อเสียงของเครื่องยนต์อันทรงพลังและเร้าใจยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาให้ลดแรงสั่นสะเทือนด้วยเพลาคู่พร้อมระบบ counterbalance ทำงานคู่กับเกียร์ 6 สปีดที่อยู่ด้านซ้ายมือของผู้ขับขี่

บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure ใหม่ ตอบโจทย์การขับขี่ที่หลากหลายของนักบิดด้วยโหมดการขับขี่ ‘Rain’ และ ‘Road’ พร้อม Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่ ‘Dynamic’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Dynamic ESA, Dynamic Traction Control (DTC) และ Keyless Ride ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบเบรก ABS มาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และระบบ ASC (Automatic Stability Control) พร้อมไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Dynamic Brake Light) เพื่อเตือนผู้ที่ขับขี่ตามหลังเมื่อมีการเบรกกะทันหัน ให้สามารถหยุดได้ทันท่วงที นอกจากนี้ โครงสร้างเฟรมเหล็กกล้ายังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการต้านทานแรงบิดและการขับขี่ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

ดีไซน์ที่ดุดันของบีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure ใหม่ ตอกย้ำคาแร็กเตอร์อันเด็ดเดี่ยวของนักสำรวจโลก มาพร้อมกระจกกันลมขนาดใหญ่ขึ้น สามารถปรับได้ 2 ระดับ รวมถึงการ์ดแฮนด์ เพิ่มการป้องกันจากสภาพลมและฝนให้แก่ผู้ขับขี่ อุปกรณ์พื้นฐานยังมีไฟหน้า LED ที่วางเท้าแบบเอนดูโร่ คันคลัทช์และเบรกปรับได้ โครงป้องกันเครื่องยนต์ และที่วางสัมภาระด้านท้ายในวัสดุสแตนเลสสตีล โดยสำหรับ Rallye Style จะมาพร้อมกระจกกันลมแบบสปอร์ตที่มีขนาดต่ำกว่าและที่นั่งแบบแรลลี่ นอกจากนี้ เบาะนั่งของทั้ง Rallye Style และ Exclusive Style ยังได้รับการพัฒนาตามหลักการยศาสตร์มากยิ่งขึ้น ให้ขับขี่บนเส้นทางออฟโรดได้อย่างสะดวกสบายเพื่อที่สุดแห่งความเพลิดเพลินจากการขับขี่

บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure ใหม่ มาให้เลือกในสองสีสองสไตล์ ได้แก่ Rallye Style ในสีฟ้า Lupin Blue Metallic และ Exclusive Style ในสีเทา Granite Grey Metallic

สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู C 400 X มาพร้อมฟีเจอร์และสีใหม่ กับราคาจำหน่าย 349,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และบีเอ็มดับเบิลยู C 400 X Exclusive Style ราคาจำหน่าย 379,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดย BMW C 400 X กลับมาตามเสียงเรียกร้องของแฟนๆ อีกครั้งในสีใหม่ Black Storm Metallic มอบความโฉบเฉี่ยวสะดุดสายตายิ่งขึ้น พร้อมเจอร์ใหม่อย่างไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Control Brake Light) และยังเพิ่มตัวเลือกที่สนุกสนานยิ่งขึ้นกับบีเอ็มดับเบิลยู C 400 X Exclusive Style ในสี Zeneith Metallic ให้ความรู้สึกล้ำสมัยมากยิ่งขึ้นทั้งจากดีไซน์และเทคโนโลยีอย่างไฟหน้า LED ไฟ LED ส่องสว่างตอนกลางวัน (daytime running light) และระบบ Keyless Ride

บีเอ็มดับเบิลยู C 400 X ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หนึ่งสูบที่พัฒนาขึ้นเพื่อมุ่งเน้นความประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะ มอบพละกำลังสูงสุด 25 กิโลวัตต์ / 34 แรงม้า ลงสู่ล้อหลังด้วยระบบเกียร์ CVT และสวิงอาร์มที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนและมอบความนุ่มสบายในขณะขับขี่ ส่วนระบบ Automatic Stability Control (ASC) รวมถึงระบบ ABS ก็ช่วยให้ตัวรถมั่นคง ปลอดภัยด้วยแรงเบรกแบบเต็มประสิทธิภาพ แม้บนพื้นถนนที่เปียกและลื่น

ดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยู C 400 X เปี่ยมด้วยความล้ำสมัยในแบบของมอเตอร์ไซค์ตระกูล Urban Mobility จากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และผสมผสานทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดดเด่นจากด้านหน้าด้วยไฟ LED ในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ และแผงกันลมในขนาดที่พอดี เข้ากับตัวถังที่มีให้เลือกใน 3 สี Zenith Blue metallic, Alpine White และ Black Storm Metallic ส่วนช่องเก็บของแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสองส่วนเพื่อความสะดวกสบายและเป็นระเบียบ พร้อมด้วยช่องเก็บหมวกกันน็อก Flexcase ที่พับเก็บอยู่ใต้เบาะแบบตอนเดียว ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู C 400 X ตอบได้ทุกโจทย์ในชีวิตประจำวัน และยังพร้อมรับมือกับการเดินทางไกลได้อีกด้วย ยังมาพร้อม Connectivity ด้วยหน้าจอ TFT Screen ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อม BMW ConnectedRide ที่สามารถเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนและหมวกกันน็อกผ่านบลูทูธได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย

และสายหล่อเท่กับ บีเอ็มดับเบิลยู R nineT ราคาจำหน่าย 1,170,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scrambler ราคาจำหน่าย 975,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เรียกได้ว่าหลังจากที่ได้เปิดตัวดีไซน์ล่าสุดไปเมื่อปี พ.ศ. 2560 บิ๊กไบค์ในเซกเมนต์ Heritage อย่างบีเอ็มดับเบิลยู R nineT มาอวดโฉมอีกครั้งในสีใหม่โดดเด่นยิ่งขึ้นกับ Option 719 Mars red metallic matt / Cosmic blue metallic matt ประกาศเอกลักษณ์ความคลาสสิกด้วยถังน้ำมัน ที่หุ้มเบาะหนั่งหลังแบบโค้ง และบังโคลนในสไตล์สะดุดตา ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scrambler ก็มาโลดแล่นในสีใหม่เช่นกัน กับสี  Stereo Metallic Matt และพร้อมลุยได้มากขึ้นด้วยล้อซี่ลวดที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

มาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ในตำนาน 2 สูบเรียง เพลาราวลิ้นคู่ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1,170 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 81 กิโลวัตต์ / 110 แรงม้า ที่ 7,550 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 119 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคลัทช์แบบ Single dry plate สั่งงานด้วยไฮดรอลิค เกียร์ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยเพลาขับ โดยเป็นเครื่องยนต์เดียวกับที่ขับเคลื่อนบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scrambler ส่งพละกำลัง 110 แรงม้า และแรงบิด 116 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับการวางตำแหน่งที่นั่งแบบหลังตรงและแฮนด์ ที่ยกสูงขึ้นเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ ทั้งยังเสริมสมรรถนะและความโดดเด่นด้วยยางออฟโรดและท่อไอเสียแบบยกสูง

และยังพบกับ บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America กับราคาจำหน่าย 1,695,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ที่สุดของการเดินทางเหนือระดับจากมอเตอร์ไซค์ทัวริ่ง บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America พร้อมมอบความหรูหรานุ่มลึกในสีใหม่ สีน้ำเงิน Imperial blue metallic ด้วยการสืบทอดเอกลักษณ์จากบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B จึงทำให้บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America ใหม่ มาพร้อมสมรรถนะเหนือชั้นจากเครื่องยนต์ 6 สูบ และอุปกรณ์หรูอีกมากมายที่ทำให้การเดินทางระยะไกล เปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายและความราบรื่น

ดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America ใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์ของไบค์เกอร์ชาวอเมริกันที่รักในการท่องเที่ยวอันหรูหราและผ่อนคลาย เส้นสายอันปราดเปรียวตลอดแนวตัวรถ รับกับกระจกหน้าแบบสูงและกระเป๋าสัมภาระทั้งสองข้างอย่างลงตัว เสริมลุคด้วยกล่องสัมภาระท้ายรถและพนักพิงของผู้โดยสาร รวมทั้งไฟเบรกและไฟเลี้ยว LED

ขุมพลังของบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America ใหม่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ ส่งกำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ / 160 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตรที่ 5,250 รอบต่อนาที 

และเพื่อเสริมความสะดวกสบายไปอีกขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America ใหม่ ยังมาพร้อมที่พักเท้าทำให้การวางเท้าในการขับขี่สบายยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกที่พักเท้าสำหรับผู้โดยสารเป็นอุปกรณ์เสริม อุปกรณ์พื้นฐานอื่น ๆ รวมถึง โครงกันกระแทก ระบบทำความร้อนที่แฮนด์ (Heated Grips) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) และกระจกหน้าเฉพาะของรุ่นใหม่นี้ที่ได้รับการออกแบบมาให้สูงเป็นพิเศษ รวมทั้งระบบเครื่องเสียง และระบบนำทาง

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com