BMW และ MINI นำขบวนยานยนต์พรีเมียมหลากรุ่น อวดโฉมคันจริง ที่งาน Motor Show 2022

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 23 มี.ค. 65 00:00
  • 4,558 อ่าน

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย หวนคืนสู่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ อีกครั้ง กับทัพรถยนต์และมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นที่ล้วนตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไปอีกขั้น สอดคล้องกับแนวคิด “ก้าวด้วยกัน ไปด้วยใจ ไปได้ไกล” ของงานในปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทอง ธานี ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2565

สำหรับ BMW โดดเด่นด้วยบีเอ็มดับเบิลยู M440i xDrive Coupé ใหม่ รุ่นท็อปตัวแรงของซีรีส์ 4 คูเป้ นำขบวนรถยนต์ใหม่ที่ประกอบไปด้วยสีสันอีกมากมายสำหรับนักผจญภัยที่ชื่นชอบรถยนต์ตระกูล X ไม่ว่าจะเป็นบีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d ในชุดแต่ง M Sport พร้อมด้วยรุ่นใหญ่ที่แรงระดับรถแข่งอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ที่ผสมผสานเทคโนโลยี Mild Hybrid ขนาด 48 โวลต์เข้ากับเครื่องยนต์ดีเซลอย่างลงตัว

BMW

ส่วนมินิก็ขนสไตล์ที่แตกต่างและไม่เหมือนใครมาให้ได้สัมผัสกันเต็ม ๆ กับรุ่นพิเศษแบบจำกัดจำนวนถึงสองรุ่น ได้แก่ มินิ Electric Collection Edition รถยนต์ไฟฟ้าที่ขับสนุกสไตล์มินิ พร้อมเติมคาแรกเตอร์ไม่ซ้ำใครด้วยหลังคาไล่เฉดสีแบบ multitone ที่มาในจำนวนจำกัด 40 คัน และ มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Brick Lane Edition ที่ออกแบบด้วยแนวคิดจากงานสตรีทอาร์ทขึ้นชื่อบนถนน Brick Lane ของกรุงลอนดอน มาให้ลูกค้าชาวไทยได้เป็นเจ้าของในจำนวนสุดพิเศษ 22 คัน

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากที่เราได้สร้างความสำเร็จมากมายในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียมตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงในปีที่แล้ว ซึ่งเราได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าในด้านการขายและการบริการ ในปีนี้ เรายังคงสานต่อความมุ่งมั่นในการสร้างความพึงพอใจและความสุนทรีย์ขั้นสูงสุดให้แก่ลูกค้าในทุกขั้นตอน และเรายังยึดมั่นในแนวคิด “Power of Choice” หรือพลังแห่งทางเลือกอยู่เช่นเคย ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ เราได้จัดแสดงรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่มีความโดดเด่นอย่างรอบด้าน ตอบสนองได้ในทุกโจทย์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงเร็วแรงเต็มพิกัด ตลอดจนรถยนต์อเนกประสงค์ที่พร้อมลุยในทุกสภาพถนนและพกพาเทคโนโลยีการขับขี่ล้ำสมัยมาอย่างเต็มเปี่ยม หรือแม้แต่รถยนต์ที่ตกแต่งพิเศษในรูปแบบลิมิเต็ดอิดิชั่น”

BMW

ลูกค้าที่สนใจในข้อเสนอพิเศษมากมายจากงานมอเตอร์โชว์ จะได้พบกับทางเลือกและสิทธิพิเศษอีกมากมายจากทั้งสามแบรนด์ โดยเฉพาะกับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่เลือกจองรถยนต์ภายใต้โปรแกรม Freedom Choice ของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย พร้อมด้วยของขวัญพิเศษสำหรับแฟน ๆ มินิที่การันตีได้ว่าจะมอบความสนุกได้ในทุกที่ ทุกเวลา ในขณะที่นักบิดสายบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จะได้ต้อนรับการกลับมาของข้อเสนอทางการเงินสุดเร้าใจจากโปรโมชั่นพิเศษ “SET ZERO”

ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43
BMW M440i xDrive Coupé ใหม่
ราคาจำหน่าย: ราคาโดยประมาณ 5,300,000 - 5,500,000 บาท 
(รอประกาศราคาอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้)

BMW

บีเอ็มดับเบิลยู M440i xDrive Coupé ใหม่ เป็นรถสปอร์ตรุ่นท็อปของตระกูลซีรีส์ 4 คูเป้ ที่ผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ด้านวิศวกรรมจาก BMW M เข้ากับความโฉบเฉี่ยวและสง่างาม จนเกิดเป็นยานยนต์สมรรถนะสูงที่พร้อมมอบที่สุดแห่งความแม่นยำและเฉียบคมบนท้องถนน

บีเอ็มดับเบิลยู M440i xDrive Coupé ใหม่ ยังคงรักษาทรวดทรงเฉพาะตัวในสไตล์คูเป้ เช่นเดียวกับซีรีส์ 4 รุ่นอื่น ๆ โดยส่วนหน้ารถเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้งขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากจะเป็นเอกลักษณ์ของรถคูเป้ระดับตำนานจากบีเอ็มดับเบิลยูแล้ว ยังช่วยตอบโจทย์ด้านการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ พร้อมประกบทั้งสองข้างด้วยไฟหน้าเทคโนโลยี BMW Laserlight ที่ติดตั้งระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติมาด้วย ส่วนหน้าต่างทั้งสองข้าง เสริมความเนี้ยบด้วยกรอบดำวาวสะดุดตาจากชุดแต่ง BMW Individual high-gloss Shadow Line เข้ากับเส้นสายด้านข้างที่สะท้อนถึงสมรรถนะและความคล่องตัว เช่นเดียวกับอุปกรณ์เสริมสไตล์ M ที่จัดมาให้ครบชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่ง M Aerodynamics สปอยเลอร์แบบ M ล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้วในแบบ Double-spoke และเบรก M Sport พร้อมคาลิเปอร์สีแดงแบบ high-gloss

ในด้านสมรรถนะ บีเอ็มดับเบิลยู M440i xDrive Coupé ใหม่ มอบพลังแบบเต็มพิกัดจากเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบขนาด 2,998 ซีซี พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งพละกำลังสูงสุดถึง 285 กิโลวัตต์ / 387 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,900 ถึง 5,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์นี้ทำงานควบคู่กับระบบเกียร์ 8 จังหวะแบบ Steptronic Sport เพื่อให้ตัวรถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 4.5 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ BMW xDrive ก็ทำงานผสานกับช่วงล่างระบบ adaptive M เฟืองท้ายแบบ M Sport และระบบบังคับเลี้ยวแบบแปรผันตามการหมุนของพวงมาลัย (variable sport steering) เพื่อให้บีเอ็มดับเบิลยู M440i xDrive Coupé ใหม่ ตอบสนองกับทุกการควบคุมอย่างรวดเร็วฉับไว มอบความคล่องตัวและแม่นยำสูงสุด ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับทุกเส้นทาง

ความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยูที่จะมอบที่สุดแห่งประสบการณ์การขับขี่ ยังสะท้อนออกมาผ่านการออกแบบห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู M440i xDrive Coupé ใหม่ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่เป็นหลัก พร้อมมอบบรรยากาศความแรงในสไตล์ M ในทุกอณูด้วยพวงมาลัยหนังและเข็มขัดนิรภัยแบบ M พร้อมตกแต่งพื้นผิวภายในแบบ Aluminium Tetragon ตัดกับเพดานหลังคาภายในแบบ BMW Individual สีดำ anthracite ได้อย่างลงตัว ส่วนแผงคอนโซลด้านหน้า เต็มตากับแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว ที่เปิดให้ใช้งานทุกคุณสมบัติสุดล้ำจากระบบ BMW Live Cockpit Professional และ BMW ConnectedDrive ได้อย่างเต็มความสามารถ รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟน และความบันเทิงจากระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์ Harman Kardon นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเพ่งสมาธิไปที่ท้องถนนได้แบบไม่ต้องละสายตา ด้วยระบบ BMW Head-Up Display รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีพื้นที่การแสดงข้อมูลใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 70%

บีเอ็มดับเบิลยู M440i xDrive Coupé ใหม่ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยอีกมากมาย ทั้งระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus), ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go (Active Cruise Control with Stop & Go) รวมถึงระบบกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) ที่ล้วนมอบความมั่นใจและอุ่นใจบนท้องถนน ส่วนฟังก์ชันอย่างระบบปลดล็อกประตููอัจฉริยะ (Comfort Access) และฝากระโปรงท้ายแบบอัตโนมัติก็ช่วยให้ทุกการเดินทางเริ่มต้นขึ้นได้อย่างสะดวกสบายที่สุด

จะเริ่มเปิดจองภายในไตรมาสที่สองของปี 2565 ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีให้เลือก 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีแดง Aventurin Red (ภายในบุหนัง ‘Vernasca’ สีดำ พร้อมแต่งตะเข็บสีดำ), สีดำ Black Sapphire, สีเทา M Brooklyn Grey และสีขาว Mineral White (ภายในบุหนัง ‘Vernasca’ สีดำ พร้อมแต่งตะเข็บสีแดง Tacora Red)

บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 4,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW

บีเอ็มดับเบิลยู X4 รถยนต์ที่นิยามความเป็น Sport Activity Coupé กลับมาอีกครั้งกับความสดใหม่ในรุ่นบีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่ ที่เสริมความเฉียบของรุ่นก่อนหน้าด้วยคุณสมบัติและการตกแต่งแบบรอบด้าน มาพร้อมกับโฉมใหม่ที่เตะตากว่าเคย นับจากกระจังหน้าไตคู่สไตล์ M ด้านหน้า จับคู่กับไฟหน้าแบบ adaptive LED และชุดแต่ง BMW Individual High-Gloss Shadow Line ที่เติมความเข้มด้วยกรอบและซี่กระจังหน้าสีดำ ส่วนท้ายรถก็เท่สไตล์สปอร์ตไม่แพ้กัน กับไฟท้าย LED ทรงสามมิติที่เข้าคู่กับกันชนดีไซน์ใหม่และปากท่อไอเสียทรงกว้าง ส่วนล้อแม็กอัลลอยใหม่สไตล์ M ขนาด 20 นิ้วแบบ Double-spoke ก็ยกระดับความดุดันแข็งแกร่งของบีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่ แมทช์กันกับความมั่นใจบนท้องถนนจากช่วงล่างแบบ adaptive พร้อมระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus)

ส่วนภายในห้องโดยสาร ให้ความรู้สึกโปร่งสบายในทุกการเดินทางด้วยหลังคาซันรูฟ โดยไม่คลายบรรยากาศความสปอร์ต กับพื้นผิวที่ตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ต และระบบ BMW Head-Up Display ขณะที่ระบบ BMW Live Cockpit Professional ก็พร้อมมอบความสะดวกสบายในการใช้งานระบบต่าง ๆ ขณะเดินทาง

เปี่ยมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1,995 ซีซีพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo เช่นเคย ให้พละกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที ทำงานผสานกับระบบเกียร์ Steptronic 8 จังหวะ พร้อมส่งให้ตัวรถทะยานสู่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 8.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่ พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้วใน 5 สี 5 สไตล์ ได้แก่ สีขาว Alpine White, สีดำ Black Sapphire, สีเทา Brooklyn Grey (ภายในแต่งด้วยตะเข็บสีแดง Tacora Red), สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีแดง Piemont Red (ภายในแต่งด้วยตะเข็บสีดำ)

บีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition ใหม่
ราคาจำหน่าย: 8,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW

สำหรับนักขับที่มองหาความแรงที่เหนือกว่าไปอีกขั้น รับรองได้ว่าจะต้องประทับใจไปกับที่สุดแห่งสมรรถนะจากบีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition ใหม่ ที่เติมพลังให้เหนือกว่า X4 M รุ่นเดิมด้วยชุดแต่ง Competition เสริมให้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ M TwinPower Turbo ขนาด 2,993 ซีซี มอบความแรงได้ถึง 375 กิโลวัตต์ / 510 แรงม้า ขณะที่การเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ทำได้ในเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น ประสิทธิภาพเต็มพิกัดของบีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition ใหม่นี้ เป็นผลพวงจากการผนึกรวมนวัตกรรมที่อยู่เบื้องหลังความแรงสไตล์รถแข่งของบีเอ็มดับเบิลยู M3 และ M4 เช่น เพลาข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบาที่ช่วยส่งแรงบิดและพละกำลังรอบเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น และระบบทำความเย็นเครื่องยนต์ที่ผ่านการทดสอบบนสนามแข่งมาแล้ว

ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition ใหม่ มีความคล่องตัวสูง ผสมผสานข้อได้เปรียบจากการส่งพลังลงสู่ทั้งสี่ล้อที่ช่วยให้รถเกาะถนนมากขึ้น เข้ากับความสนุกและคล่องตัวในแบบรถขับเคลื่อนล้อหลัง โดย M xDrive จะทำงานร่วมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) เพื่อส่งแรงบิดไปยังเพลาหน้าเฉพาะในกรณีที่ได้ส่งกำลังเต็มพิกัดไปที่ล้อหลังผ่านระบบเกียร์ 8 จังหวะแบบ M Steptronic พร้อมเทคโนโลยี Drivelogic ขณะที่ระบบเบรกประสิทธิภาพสูง BMW M Compound Brake ก็ชะลอและหยุดรถได้อย่างมั่นใจ พร้อมเติมมาดเข้มด้วยคาลิเปอร์สีดำขลับ

รูปลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition ใหม่ เปี่ยมด้วยความสปอร์ตไม่ต่างจากสมรรถนะของตัวรถ ด้วยรูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตคูเป้ กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ที่เสริมด้วยชุดแต่ง BMW Individual High-Gloss Shadow Line with Extended Contents ส่วนไฟหน้า LED มาในทรงที่แบนราบกว่ารุ่นเดิม พร้อมเติมความเข้มด้วยโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำแบบ BMW M Light Shadow Line ขณะที่ด้านท้ายรถก็โดดเด่นด้วยการออกแบบช่องทรงสี่เหลี่ยมคางหมูบริเวณป้ายทะเบียนที่กันชนท้าย พร้อมด้วยท่อไอเสีย 4 ท่อ 2 คู่ ในสีดำโครเมียม ติดตั้งประกบอยู่ทั้งสองข้างของดิฟฟิวเซอร์ สอดรับกับความดุดันในโทนสีดำที่ล้อแม็ก 21 นิ้วแบบ M light alloy ในดีไซน์ Double-spoke แบบสลับสี

บีเอ็มดับเบิลยู X4 M Competition ใหม่ คงความสปอร์ตภายในห้องโดยสารด้วยเบาะหนังสปอร์ตแบบ M เข็มขัดนิรภัยแบบ M และพื้นผิวภายในที่ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมหลังคากระจก Panorama นอกจากฟังก์ชันมากมายในระบบ BMW Live Cockpit Professional แล้ว X4 M Competition รุ่นนี้ยังมีระบบช่วยการขับขี่ Driving Assistant รุ่น Professional ติดตั้งมาให้ มอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าผ่านระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (Active Cruise Control with Stop & Go) นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงฟังก์ชันบางอย่างของตัวรถได้จากระยะไกล ผ่านกุญแจ BMW Display Key

บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 4,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW

บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ใหม่ รถยนต์ในตระกูล Sports Activity Vehicle รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ยังคงขึ้นชื่อในด้านสไตล์การขับขี่ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะปราดเปรียวที่เหนือชั้น พร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยรอบด้านในทุกช่วงเวลา แต่ยังยกระดับทั้งสมรรถนะ ความประหยัด และความแม่นยำบนท้องถนนให้เหนือกว่าที่เคย

นับเป็นครั้งแรกที่บีเอ็มดับเบิลยู X5 ในประเทศไทยมาพร้อมเทคโนโลยี mild hybrid ด้วยการเพิ่มแบตเตอรี่แรงดัน 48 โวลต์ เสริมพละกำลังขึ้นมาอีก 8 กิโลวัตต์ / 11 แรงม้าในขณะสตาร์ทรถและเร่งความเร็ว ส่วนตัวเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 2,993 ซีซี พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ก็แรงกว่าเดิมด้วยพลังสูงสุดที่ 210 กิโลวัตต์ / 286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที จึงทำให้การเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงรวดเร็วขึ้น เหลือเวลาเพียง 6.1 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากสมรรถนะที่สูงขึ้นแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ใหม่ ยังยกระดับให้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าที่เคยด้วยการใช้ AdBlue สารพิเศษที่ช่วยลดปริมาณไนโตรเจนออกไซด์ในไอเสีย โดยทำปฏิกิริยาเคมีเพื่อแตกสารดังกล่าวให้กลายเป็นไนโตรเจนและน้ำ ซึ่งล้วนไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม

มาในมาดขรึมสง่างามยิ่งกว่าเดิม ด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics พร้อมด้วย M High-Gloss Shadow Line และ M Roof Rails High-Gloss Shadow Line ส่วนห้องโดยสารที่กว้างขวางก็เสริมกลิ่นอายความสปอร์ตด้วยพื้นผิวที่แต่งสไตล์ M ด้วยลาย Aluminium Tetragon เพดานภายในสีดำ anthracite แบบ M และพวงมาลัยหนัง M Sport ขณะที่ในด้านความสะดวกสบายก็ครบครันสำหรับทุกระยะทาง ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน หลังคาซันรูฟ และระบบเสียงเซอร์ราวด์จาก Harman Kardon

มีให้เลือกทั้งสีเทา Arctic Grey Brilliant Effect, สีน้ำเงิน Phytonic Blue (ภายในบุหนัง ‘Vernasca’ สีดำแบบ perforated), สีดำ Black Sapphire และสีขาว Mineral White (ภายในบุหนัง ‘Vernasca’ สีน้ำตาลแบบ perforated)

มินิ Electric Collection Edition ใหม่ พร้อมหลังคา Multitone Roof
ราคาจำหน่าย: 2,459,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard)

BMW

หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวสู่สายตาแฟน ๆ มินิในไทยไปเมื่อไม่นานมานี้ มินิ Electric Collection Edition ใหม่ ได้ออกมาโลดแล่นให้แฟนมินิได้ยลโฉมและตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของกันอย่างต่อเนื่องในงานมอเตอร์โชว์ โดยในประเทศไทย มีรุ่นพิเศษนี้จำหน่ายเพียงแค่ 40 คันเท่านั้น

มินิ Electric Collection Edition แต่ละคันล้วนมีเอกลักษณ์ที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ด้วยโทนสีหลากเฉดของ Multitone Roof ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากเทคนิคการพ่นสีแบบใหม่ของมินิที่โรงงานในอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ โดยในกระบวนการนี้ จะเริ่มลงสีหลังคาด้วยสีฟ้าอ่อน Pearly Blue เป็นสีแรก ต่อด้วยสีน้ำเงินเข้ม San Marino Blue ด้านหน้า และสีดำ Jet Black ที่ด้านหลัง ทำให้เกิดการไล่สีที่สวยสะดุดตา นอกจากนี้ การไล่โทนสีในแต่ละคันอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยจากขั้นตอนการลงสีในกระบวนการผลิต จึงเป็นที่มาของเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใครในแต่ละคันของมินิรุ่นพิเศษนี้นั่นเอง

ด้านการขับขี่ มินิ Electric Collection Edition ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับสนุกที่แฟน ๆ มินิต่างให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นตลอดมา ด้วยเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ปราศจากมลภาวะ ส่งกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 7.3 วินาที ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัยก็จัดมาอย่างรอบด้าน ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ดื่มด่ำไปกับทุกการเดินทางอย่างมีสไตล์ด้วยลูกเล่นพิเศษอย่างวิทยุ มินิ Visual Boost ผิวภายในห้องโดยสารที่ตกแต่งแบบ มินิ Yours ชุดลำโพง 12 ตัวจาก Harman Kardon และอื่น ๆ

มินิ Electric Collection Edition รุ่นจำนวนจำกัด 40 คัน พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้ โดยมีให้เลือกในสีน้ำเงิน Island Blue และสีเทา Rooftop Grey

มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Brick Lane Edition ใหม่
ราคาจำหน่าย: 2,899,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard)

BMW

เท่ไม่เหมือนใครไปอีกขั้นกับโฉมใหม่สไตล์สตรีทของมินิรุ่นพิเศษตัวล่าสุดกับ มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Brick Lane Edition ใหม่ ที่ได้แนวคิดในการออกแบบมาจากผลงานสตรีทอาร์ทบนถนน Brick Lane ของลอนดอน โดยมินิรุ่นพิเศษนี้มีจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 22 คันเท่านั้น

สำหรับ Brick Lane Edition นี้ ได้นำมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู รุ่นมาตรฐาน มาแต่งแต้มลวดลายแบบสตรีทรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นแถบลายบนฝากระโปรงหน้าและด้านข้างตัวรถ ที่ได้ไอเดียมาจากอาคารอิฐที่เรียงรายกันอยู่บนถนน Brick Lane ของจริง ตัดกับหลังคาสีน้ำเงินเข้ม San Marino Blue และสปอยเลอร์สีดำได้อย่างพอดี แถบลายที่ว่านี้ยังถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของดีไซน์ในจุดอื่นอีกหลายแห่ง นับตั้งแต่ป้ายชื่อรุ่นด้านข้างและบันไดรถ ที่สลักคำว่า “Brick Lane” ชัดเจน ลายอักษร “B” บนเสาซี พื้นผิวภายในห้องโดยสารที่แต่งด้วยสีดำ Piano Black และอุปกรณ์เสริมเฉพาะตัวอย่างแผ่นยางปูพื้นและกุญแจรถ

แน่นอนว่ามินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Brick Lane Edition ใหม่ ยังขับสนุกและคล่องแคล่วบนท้องถนนเหมือนเดิม ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,998 ซีซี ที่ส่งพละกำลังได้สูงสุด 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า ทำเวลา 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ที่ 6.7 วินาที และด้วยระบบเกียร์ 7 จังหวะ Steptronic แบบคลัตช์คู่ ช่วงล่างแบบ adaptive และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมาย จึงรับรองได้ว่ามินิรุ่นพิเศษคันนี้เป็นตัวแรงครบรสทั้งในด้านความเร็วและสไตล์

แฟน ๆ มินิสามารถเลือกเป็นเจ้าของ มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Brick Lane Edition ใหม่ ทั้ง 22 คันได้แล้ววันนี้ โดยมีสีขาว White Silver และสีเทา Moonwalk Grey ให้เลือก

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ