บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดศักราช 2563 เผยโฉม 2 Series Gran Coupe เสริมแกร่งตระกูล 3 Series CKD
- โดย : Autodeft
- 26 ก.พ. 63 00:00
- 6,855 อ่าน
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เริ่มต้นเส้นทางแห่งความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในปี 2563 ด้วยการเปิดตัวทัพยนตรกรรมใหม่ครบทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ครั้งแรกของการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Coupe M Sport ใหม่ เสริมทัพซีรี่ส์ 3 ด้วยรุ่นประกอบในประเทศ พร้อม มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม (ระบบเกียร์ส่งกำลังใหม่)
ตลอดปี 2563 นี้ แฟนๆ ชาวไทยจะได้ยลโฉมขบวนรถยนต์ใหม่จาก บีเอ็มดับเบิลยู นำโดย BMW 2 Series Gran Coupe ใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับความแปลกใหม่เฉพาะตัวและสุนทรียะเหนือชั้นที่มอบทุกอารมณ์การขับขี่ รวมไปถึงBMW 330e M Sport รุ่นประกอบในประเทศที่เสริมขุมพลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และBMW 320d M Sport ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเคย ทั้ง 2 รุ่นนี้ พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นเลิศและศักยภาพแห่งการประกอบรถยนต์ในประเทศของโรงงานที่ระยองโดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
BMW 320d M Sport ใหม่ และ BMW 330e M Sport ใหม่ สืบทอดรูปโฉมที่ทันสมัยและปราดเปรียวของบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ซีดาน ใหม่ ด้วยเส้นสายที่แข็งแกร่งและคมชัด ด้านหน้าของตัวรถคือกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ในกรอบที่เชื่อมกับไฟหน้าคู่ LED ทรงเรียวยาว ส่งเสริมรูปลักษณ์ ความสง่าแบบรถสปอร์ตให้โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ Hofmeister Kink อันเป็นเอกลักษณ์ด้วยกรอบหน้าต่างที่ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar พร้อมด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่เรียวยิ่งขึ้นในรูปทรง L แนวนอนสีหม่นแบบสามมิติ และท่อไอเสียแบบคู่ให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ตกว่าเดิม
BMW 330e M Sport ใหม่ ได้ยกระดับการขับเคลื่อนอันน่าประทับใจ ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วย XtraBoost ฟังก์ชั่นใหม่ที่จะเผยสมรรถนะสูงสุดของรถยนต์ออกมา ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพละกำลังสูงสุด 292 แรงม้า และสามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นในโหมด SPORT เพียงเหยียบคันเร่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของ XtraBoost และปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ต่อเนื่องไปจนถึงความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
ในโหมดการขับขี่แบบ HYBRID สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กม./ชม. โดยใช้เพียงพลังงานไฟฟ้าก่อนสลับไปเป็นการใช้พลังงานเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันในโหมด ELECTRIC ซึ่งเป็นโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กม./ชม. มากกว่ารุ่นเดิมที่ทำได้ 120 กม./ชม. ขับขี่สูงสุดที่ 55-68 กิโลเมตร ในขณะเดียวกันยังลดการใช้อัตราการสิ้นเปลืองและการปล่อยมลพิษในโหมดขับขี่อื่น ๆ ได้มากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ระบบสร้างเสียงจำลองเพื่อให้ผู้ใช้ทางเท้าได้ยินจะถูกเปิดใช้ในขณะขับขี่ด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าเพื่อส่งเสียงเตือนผู้ใช้ทางเท้าผ่านระบบลำโพงติดตั้งภายนอก
ส่วน BMW 320d M Sport ใหม่ ที่ประกอบภายในประเทศ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ซึ่งสามารถเร่งความเร็วสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การออกแบบสไตล์ M Sport ซึ่งประกอบขึ้นภายในประเทศทั้งสองรุ่นย่อยนี้ เสริมความโดดเด่นคล่องแคล่วบนท้องถนนด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics ทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังของรถยนต์ กระจังหน้าทรงไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ถูกออกแบบเป็นพิเศษบริเวณซี่กระจังหน้าไตคู่สีดำเงาและขอบช่องดักอากาศแบบสี Chrome เพิ่มความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยช่วงล่าง M Sport ในรุ่น BMW 320d M Sport และช่วงล่าง Adaptive M ในรุ่น BMW 330e M Sport มาพร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็วแบบ Servotronic และคาลิเปอร์เบรกแบบ M Sport เพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยความสะดวกสะบายและความหรูหราในห้องโดยสารที่ประกอบด้วยพวงมาลัยหนังแท้ M กาบบันไดและชุดแป้นวางเท้า เพดานหลังคาภายในสี Anthracite และอีกมากมาย ในราคาพร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ดังนี้
-รุ่น 320d M Sport ใหม่ (ประกอบภายในประเทศ) ราคาจำหน่าย: 2,549,000 บาท
- รุ่น 330e M Sport ใหม่ (ประกอบภายในประเทศ) ราคาจำหน่าย: 2,799,000 บาท
BMW 218i Gran Coupe M Sport ใหม่ รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ มาพร้อมกับคอนเซปต์คูเป้ 4 ประตู ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในรุ่นรถที่สูงกว่า พร้อมให้ได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกในเซกเมนต์รถยนต์ พรีเมียมคอมแพคต์ มอบอีกหนึ่งทางเลือกที่โก้หรูยิ่งขึ้นให้กับรถยนต์ซีดานรุ่นคลาสสิคนี้ พร้อมเติมเต็ม อัตลักษณ์และสุนทรียะให้เพลิดเพลินไปกับทุกอารมณ์การขับขี่ด้วยดีไซน์พรีเมียมหรูหราที่อวดโฉมมาแล้วในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 6, ซีรี่ส์ 4, และ ซีรี่ส์ 8 กับรายละเอียดเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
แตกต่างไม่เหมือนใครด้วยเค้าโครงที่โฉบเฉี่ยวกว่าเคยด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถยนต์คูเป้รุ่นคลาสสิค เช่น กระจกประตูข้างแบบไร้กรอบทั้ง 4 ประตู ด้านรูปลักษณ์สปอร์ตโหลดเตี้ยทรงกว้างส่งให้บุคลิกบนถนน เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เส้นสายอันเฉียบคมด้านข้างตัวรถ เน้นย้ำสัดส่วนอันปราดเปรียวและความเรียบหรูอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู คูเป้ รุ่นหลัง เส้นโค้งของหลังคาที่ทอดตัวอย่างสง่างาม พร้อมทรงหน้าต่างและเส้นข้างตัวรถที่ยาวขึ้น ส่งให้ตัวรถดูโฉบเฉี่ยวเปรียวยาว ในขณะที่ตัวรถด้านข้างบริเวณเสา C โดดเด่นชัดเจน
ผู้โดยสารยังคงสามารถเพลิดเพลินไปกับพื้นที่ใช้สอยอันยืดหยุ่น ด้วยที่เก็บของท้ายรถซึ่งรองรับปริมาตรการบรรจุได้ถึง 430 ลิตร ทั้งยังสามารถปรับขยายได้หลากหลายรูปแบบ บีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Coupe M Sport ยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 18 นิ้ว และหลังคาพาโนรามิคขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดออกด้านนอกได้ไม่จำกัดระดับ พร้อมโหมดระบายอากาศไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู 218i Gran Coupe M Sport ผสมผสานความหรูหราด้วยวัสดุชั้นเยี่ยมและพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทั้งไลฟ์สไตล์ครอบครัวและการเดินทางระยะยาว ส่วนภายในห้องโดยสารฝั่งคนขับ ส่งมอบข้อมูลสำคัญในการขับขี่ให้ผู้ขับได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้อง ละสายตาจากถนนด้วยหน้าจอ และแผงหน้าปัด Instrument Cluster ขนาด 5.1 นิ้ว รวมไปถึงจอสัมผัส Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ตั้งอยู่กลางคอนโซลทำมุมเข้าหาคนขับเล็กน้อยตามแบบฉบับของบีเอ็มดับเบิลยู
ส่งตรงขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร และเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานควบคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ Steptronic แบบคลัทช์คู่ ด้านเครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า มอบแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ ส่งพลังให้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในราคาจำหน่าย: 2,399,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
MINI Cooper S Countryman Hightrim (ระบบเกียร์ส่งกำลังใหม่) มาในรูปลักษณ์ปราดเปรียวและคลาสสิกในสไตล์คันทรีแมน ภายนอกและภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วย Chrome Line ตัดขอบด้วยเส้นสายโครเมียมสีเงิน เพิ่มความหรูหรา ภายในรถมาพร้อมกล้องมองหลังและระบบ Parking Assistant ช่วยให้จอดรถได้ง่ายดาย และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที เช่นเดียวกับในรุ่นมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ Steptronic 7 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อม Paddle Shift พวงมาลัยหนังแท้สไตล์ MINI Yours แบบสปอร์ตพร้อมระบบ มัลติฟังก์ชั่น และล้ออัลลอยสีดำลาย Pin Spoke ขนาด 18 นิ้ว ขับขี่ได้สนุกทันใจแบบมีสไตล์
ห้องโดยสารตกแต่งในสไตล์ MINI Yours Piano Black Illuminated สีดำมันวาว มาพร้อมไฟสีที่แต่งแต้มห้องโดยสารเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศยามค่ำคืน พร้อมด้วยเครื่องเสียงชั้นเลิศจาก Harman Kardon ที่พร้อมมอบความเพลิดเพลินให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อการเดินทางที่สุนทรีย์ยิ่งขึ้น ราคาจำหน่าย: 2,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com