BMW 3 Series Gran Turismo Sport Liftback มาดใหม่ จากค่ายชั้นนำ

ถ้าจะกล่าวถึง BMW 3 Series แฟนๆสาวกจะนึกถึงยานยนต์ซีดาน กับแวก้อน 5 ประตู ที่คุณภาพคับคั่งทั้งดีไซน์ สมรรถนะไม่เป็นสองรองใคร จนกวาดความนิยมไปอย่างมหาศาล จากยุคสู่ยุค จากรุ่นสู่รุ่น

แต่หารู้ไม่ว่า BMW 3 Series ก็มีหนึ่งรูปแบบ สามารถตอบโจทย์สาวกที่ไม่อยากจำเจ ด้วย BMW 3 Series Gran Turismo Sport Liftback 5 ประตู โดดเด่นด้วยประตูไม่มีกรอบ ล่าสุด ปรับโฉมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการปรับโฉมครั้งนี้ แทบไม่แตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อน เปลี่ยนเป็นบางจุดเช่น ไฟหน้า-ไฟหลัง LED ดีไซน์ใหม่ กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่ ส่วนเวอร์ชั่นแรง M Sport เพิ่มสีใหม่ สีน้ำเงิน Estoril Blue พร้อมล้ออัลลอยลายสปอร์ตใหม่

ภายในอัพเกรตวัสดุให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงเพิ่มสีสันด้วยสวิตช์ควบคุมการทำงานเครื่องปรับอากาศรวมถึงช่องแอร์เป็นแบบโครเมี่ยมและปุ่ม D-Drive ดีไซน์ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ระบบ อินโฟเทนเมนต์ใหม่ และจอ LCD แสดงการทำงานของเครื่องปรับอากาศสีใหม่

ขุมพลัง BMW 3 Series Gran Turismo รุ่นปรับโฉม มีให้เลือกมากมาย ทั้ง เครื่องเบนซิน TwinPower Turbo 3 ความแรง เริ่มจากรุ่น 320 I GT ใช้เครื่องขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 184 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร รุ่น 330 I GT ใช้เครื่องขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 252 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตรและรุ่นแรง 340 I GT ใหม่ ที่ใช้เครื่องเบนซิน 6 สูบแถวเรียงขนาด 3.0 ลิตร 326 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร

ส่วนเครื่องดีเซล TwinPower Turbo มี 5 ความแรง เริ่มจาก รุ่น 318 d GT ใช้เครื่องขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 150 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร รุ่น 320 d GT ใช้เครื่องขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร รุ่น 325 d GT ใช้เครื่องขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 218 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร รุ่น 330 d GT ใช้เครื่องขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง 258 แรงม้า แรงบิด 560 นิวตันเมตร และ รุ่น 335 d ใช้เครื่องขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง 313 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตันเมตร

ระบบส่งกำลังปรับปรุงใหม่ เพื่อส่งต่อกำลังอย่างกระฉับกระเฉงขึ้น ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 8 สปีด ในรุ่น 320 I GT,318 d GT และ 320 d GT และฟังก์ชั่น เด่นไม่ว่าจะเป็นระบบ Auto Start Stop function กับ Brake Energy Regeneration  เบื้องต้น ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะขายจริงในช่วงเวลาไหน ส่วนเมืองไทยจะมีโอกาสเห็นรุ่นปรับโฉม หรือไม่ต้องติดตามกัน

 

 

 

ที่มา Carscoops

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com