ฝนถล่มกรุง จราจรวินาศ สาหัสหลายพื้นที่

นับตั้งแต่เหตุการณ์ ฝนตกหนัก ถล่มทั้งกรุงเทพ และปริมณฑล โดยเริ่มตกตั้งแต่เมื่อคืน จนทำให้เช้าวันที่ 21 มิถุนายน นี้ เป็นวันที่คนเมืองต้องผจญกับรถติดอีกครั้ง

แต่คราวนี้ สาหัสถึงขั้นรถติดหนักไม่สามารถขยับได้ จนทำให้คนทำงานชาวกรุง รวมถึงนักเรียน นักศึกษา มีอันมาทำงานสายเข้าเรียนสาย จนถึงต้องหยุดงาน 1 วัน ไปโดยปริยาย งานนี้ทีมงาน Autodeft ได้รับข้อมูลจากทางเวปไซต์ Thairath  กับการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงตอนนี้ ว่ามีจุดไหนบ้าง

02.15 น. วันที่ 21 มิถุนายน สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงาน ฝนเล็กน้อยถึงปานกลางตกกระจายโดยทั่วไป ฝนหนักเขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน บางแค ภาษีเจริญ หนองแขม บางบอน เคลื่อนตัวทิศตะวันตก เข้า อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่เขตห้วยขวาง 85.0 มม.

02.10 น. มีรายงานอุบัติเหตุ บน ถ.วิภาวดีขาเข้า เชิงทางขึ้นสะพานลอยข้ามแยกสุทธิสาร รถพ่วง 18 ล้อ เสียหลักชนราวสะพาน และมีเสาไฟล้มขวางทุกช่อง

03.10 น. ที่หน้าบีทีเอส สถานีหมอชิต ฝั่งลานจอดรถ น้ำท่วมขังถึงขอบฟุตปาท รถเล็กผ่านไม่ได้ เวลา 03.30 น. สำนักการระบายน้ำ รายงาน กทม.มีฝนเล็กน้อย ปกคลุ

03.30 น. สำนักการระบายน้ำ รายงาน กทม.มีฝนเล็กน้อย ปกคลุมโดยทั่วไป เคลื่อนตัวทิศตะวันตก ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่ เขตห้วยขวาง 91.5 มม.

บริเวณหน้าศาลอาญา ถ.รัชดา ขาออก มีน้ำท่วมสูง และมีรถเสียจำนวนมาก บริเวณสะพานข้ามแยกมีรถกีดขวางอยู่ ไม่สามารถผ่านไปได้ แนะเลี่ยงการจราจร  ถนนวิภาวดี-รังสิต ขาเข้า ก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าว เล็กน้อย ในช่องคู่ขนาน ขณะที่ฝั่งขาออก หน้า ปตท น้ำท่วมสูง วิ่งเลนขวาสุดได้เลนเดียว ขณะที่ บริเวณ ถ.พรขณะที่ บริเวณ ถ.พระราม 2 ขาเข้า ช่องคู่ขนาน ระหว่างซอย 16 - 18 น้ำท่วมขัง ถึงขอบฟุตปาท ทั้ง 3 ช่องทาง ขณะที่ช่องทางด่วนมีน้ำท่วมขังเลนซ้าย

04.20 น. ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก ตั้งแต่แยกสุทธิสาร ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เกิดน้ำท่วมขังทางคู่ขนาน เป็นระยะทางประมาณ 50- เมตร รถเล็กวิ่งได้ทางช่องรถเล็กวิ่งได้ทางช่องทางขวางสุด แนะเลี่ยงวิ่งในช่องทางด่วน 

04.30 น. สำนักการระบายน้ำ รายงาน กทม. มีฝนเล็กน้อยปกคลุมโดยทั่วไป เคลื่อนตัวทิศตะวันตก แนวโน้มใกล้หยุดตก ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่เขตห้วยขวาง 96.0 มม.

05.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายรถพ่วง ที่ประสบอุบัติเหตุ ชนแบริเออร์ สะพานข้ามแยกสุทธิสาร ถ.วิภาวดีฯ ขาเข้า ช่องด่วน เรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดการจราจรเป็นปกติ

07.21 น. การจราจรบริเวณถนนลาดพร้าวฝั่งขาเข้า หน้าปากซอย 58 (โชคชัย4) รถติดนิ่งสนิท อีกฝั่งโล่งไม่มีรถวิ่ง ปชช.ทยอยลงเดิน ขณะที่หน้าปากซอยลาดพร้าว 41 (ภาวนา) น้ำท่วมถึงฟุตปาธทั้ง 2 ฝั่ง

07.25 น.ถนนพหลโยธิน ทั้งขาเข้าและขาออกบริเวณหน้าสวนจตุจักร และตรงข้ามกับกรมการขนส่งทางบก มีน้ำท่วมทั้ง 2 ฝั่ง ส่วน ถนนสุทธิสารจากแยกสะพานควายถึงถนนวิภาวดี ในซอยมีน้ำท่วมรถหนาแน่น การจราจรติดขัด

07.30 น.ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก จาก 4 แยกสุทธิสาร มุ่งหน้าไป 5 แยกลาดพร้าว ติดขัดหนักบริเวณหน้าซอยโชคชัยร่วมมิตร และ อาคาร บ.อีสท์วอเตอร์ เนื่องจากน้ำท่วมขังสูง เลยจากจุดนี้ไปรถน้อยคล่องตัว

08.05น.ถนนลาดพร้าวและถนนรัชดาภิเษก ช่วงแยกรัชดาลาดพร้าวมีน้ำท่วมรอการระบายรถติดขัด

08.30 น.ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์​ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เดินทางไปตรวจสภาพน้ำท่วมขัง ที่บริเวณหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ขณะที่ เจ้าหน้าที่ สาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมบริเวณถนนรัชดาภิเษกด้วยเช่นกัน

08.45 น.จนท.ตำรวจ ต้องปิดการจราจรรถจากถนนลาดพร้าว เลี้ยวไปหน้าศาลอาญาชั่วคราว เนื่องจากน้ำท่วมสูงมากรถเล็กผ่านไม่ได้ นอกจากนี้ โรงเรียสตรีวิทยา 2 และ รร.สตรีวรนาถบางเขน รวมทั้ง โรงเรียนถนนถนอมพิศวิทยา หยุด 1 วัน เนื่องจากเหตุน้ำท่วม

นอกจากนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อ 00.15 น. ของคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้มีน้ำรอระบาย 36 จุด เร่งระบายเรียบร้อย 25 จุด ยังคงเหลืออีก 11 จุด โดยกรุงเทพมหานคร ได้เร่งระบายน้ำตลอดทั้งคืน จนถึงเช้านี้ ต้องขออภัยในความไม่สะดวก และขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังนี้

1. ถนนรัชดาภิเษก บริเวณซอยรัชดา 32 ธ.กรุงเทพ

2. ถนนรัชดาภิเษก บริเวณ หน้าศาลอาญา

3. ถนนงามวงศ์วาน บริเวณตลาดอมรพันธ์

 4. ถนนนวมินทร์ บริเวณซอยนวมินทร์ 113

5. ถนนลาดพร้าว บริเวณซอยลาดพร้าว 100 ถึงซอยลาดพร้าว 112

6. ถนนลาดพร้าว บริเวณซอยมหาดไทย ถึงคลองเจ้าคุณสิงห์

7. ถนนพหลโยธิน บริเวณหน้ากรมยุทธฯ ถึงตลาดอมรพันธ์

8. ถนนเพชรเกษม บริเวณคลองยายเพียร ถึงคลองราชมนตรี

9. ถนนประชาสุข บริเวณตลอดสาย

10. ถนนพหลโยธิน บริเวณหน้าสวนจตุจักร

11. ถนนพหลโยธิน บริเวณหน้ากรมการขนส่งทางบก

และล่าสุด เมื่อ 12.00 น้ำท่วม หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ขณะนี้ เกือบจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ยังเหลือน้ำขังช่องทางซ้าย การจราจรติดขัด

 

ที่มา Thairath

ที่มาภาพ สวพ.FM 91

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com