Alpine กำลังค้นคว้าวิจัยเรื่องของระบบการเผาไหม้ด้วยไฮโดรเจน สำหรับรถสปอร์ตในอนาคตของทางแบรนด์
- โดย : PR Autodeft
- 4 ก.ค. 65 00:00
- 3,945 อ่าน
CEO ของแบรนด์ที่เป็นตำนานแห่งรถสปอร์ตอย่าง Alpine ได้เปิดเผยว่า ไลน์อัพผลิตภัณฑ์ในอนาคตของทางแบรนด์ มีโอกาสที่จะรวมเอารถรุ่นที่ใช้ระบบเครื่องยนต์ที่ใช้การเผาไหม้จากพลังงานไฮโดนเจน V6 ที่มีศักยภาพสูงมากไว้ในไลน์ด้วย
แบรนด์รถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงจากประเทศฝรั่งเศสอย่าง Alpine กำลังมุ่งมั่นด้วย "ความกระตือรือร้นอย่างสูง" ในการค้นคว้าวิจัยในเรื่องการใช้ก๊าซไฮโดรเจน เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงอนาคตของเครื่องยนต์แบบสันดาป ทั้งในยานยนต์ประเภทรถแข่งและรถสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
บริษัทฯเพิ่งได้ทำความร่วมมือกับเหล่าบรรดานักศึกษาแห่งสถาบัน European Institute of Design ในเมืองตูริน เพื่อสร้างรถคอนเซ็ปต์ของรุ่น A4810 ที่มีความต่างไปจากรถรุ่นเดิมๆอย่างสิ้นเชิง สิ่งนี้นับเป็นวิสัยทัศน์ที่แปลกใหม่ในการให้มุมมองในเรื่องรูปร่างหน้าตาของรถไฮเปอร์คาร์จากทางแบรนด์ที่จะออกมาในปี 2035 และจากสมมุติฐานที่ว่ามามันจะใช้ระบบการขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน
และถึงแม้ว่าเรื่องของแนวคิดที่จะมีการใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปด้วยไฮโดรเจน หรือการใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนแบบที่เคยพูดถึงกันนั้น อาจจะยังไม่มีอะไรที่ออกมาอย่างชัดเจน แต่ ณ ตอนนี้ Laurent Rossi ผู้เป็น CEO ของทางแบรนด์ Alpine ก็ได้ให้ข้อชี้แนะในประการแรกว่า บริษัทฯมุ่งมั่นที่จะคงการใช้เทคโนโลยีแบบระบบการเผาไหม้ไว้ในพอร์ตโฟลิโอของทางแบรนด์ และการใช้ก๊าซไฮโดรเจนก็อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในเรื่องนี้
Rossi ได้กล่าวไว้ที่สนาม Silverstone ก่อนการแข่งขัน British Grand Prix 2022 ที่ผ่านมาว่า "มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะมองเส้นทางไปแบบคู่ขนาน และผมอยากจะบอกว่าเราจงใจจะทำมันในแนวทางที่คู่ขนานกัน แนวคิดของเราก็คือ เราต้องการที่จะหาทางเลือกอื่น โดยไม่จำเป็นว่ามันอาจจะไม่ได้เข้ากันกับการใช้ระบบพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบในเรื่องการใช้ระบบพลังงานไฟฟ้าก็ตาม แต่ในอนาคตยานยนต์อย่างน้อย 60 – 70% ของทั้งหมดที่ได้รับการอนุญาตให้ผลิตออกมา ก็จะต้องเป็นรถที่ใช้ระบบไฟฟ้า”
“และระบบที่จะใช้ในยานยนต์ส่วนที่เหลือนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งาน รวมทั้งคุณลักษณะเฉพาะด้าน และคุณสมบัติที่คุณต้องการ เช่นผมคิดว่ารถบรรทุกขนาดเล็ก ที่มีน้ำหนักบรรทุกสูงและมีการเดินทางแบบเดิมๆตลอดนั้น ก็สามารถที่จะใช้โซลูชั่นที่แตกต่างกัน หรือ high-output cars ได้"
โดยก่อนหน้านี้ทางแบรนด์ Alpine ได้มีการวางแผนสำหรับการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ในฐานะแบรนด์ที่จะผลิตรถยนต์ที่ใช้สมรรถนะในระบบไฟฟ้าทั้งหมดตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป ซึ่งคำกล่าวนี้ยืนยันได้จากแผนการในการผลิตรถแฮทช์แบ็กสุดฮ็อต ที่อิงจากรถซุปเปอร์มินิไฟฟ้าอย่าง Renault 5 รวมถึงรถรุ่นที่ใหญ่กว่าอย่าง Alpine GT X-Over รุ่นปี 2025 และรถรุ่นทายาทของรถสปอร์ตอย่าง Alpine A110 แต่จากความคิดเห็นล่าสุดของ Rossi ก็ชี้ให้เห็นว่ารถสปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยระบบการเผาไหม้ ยังคงมีบทบาทในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ในอนาคตอยู่
เขากล่าวว่า ในแง่ของการทำให้อนาคตของรถสปอร์ตที่มี 'กำลังสูง' ซึ่งมียอดขายไม่มากนัก สามารถเดินต่อไปได้ การใช้ "ระบบเชื้อเพลิงที่ยั่งยืนนั้น อาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด" ของมันก็เป็นได้
“ในกรณีของเรานั้น เราเชื่อว่าไฮโดรเจนจะสามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงที่ดีได้ โดยไฮโดรเจนนั้นมีข้อดีแบบพิเศษเฉพาะด้าน ที่มันสามารถจะเข้ากันได้กับระบบไฟฟ้าเป็นอย่างดี เนื่องจากในทางคู่ขนานของการใช้ไฮโดรเจนในฐานะเชื้อเพลิงนั้น ก็คือการใช้ไฮโดรเจนในฐานะการเป็นเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า”
"และนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะในเส้นทางอุตสาหกรรมแบบครบวงจรสำหรับไฮโดรเจนนั้น จะสามารถเข้ากันได้ดีกับระบบการใช้พลังงานไฟฟ้า ดังนั้น เราจึงเชื่อว่านี่อาจเป็นหนทางหนึ่งในการก้าวไปข้างหน้า"
Rossi เปิดเผยว่า ทางแบรนด์ Alpine ตั้งเป้าที่จะนำเสนอเทคโนโลยีการเผาไหม้แบบที่ใช้ไฮโดรเจนในรถแข่งแห่งอนาคตของพวกเขา ไม่ว่าจะในการแข่งขันรายการ Le Mans หรือในรูปแบบการแข่งขันอื่นๆ และสามารถที่จะผลิตรถต้นแบบตามที่ต้องการได้ อย่างเช่นรถในสายเลือดเดียวกันแบบรถแข่งที่ใช้ระบบไฟฟ้ารุ่น ID R ของทางค่าย Volkswagen ซึ่งสามารถที่จะทำสถิติของสนาม Nurburgring ได้ หรืออะไรทำนองนั้น
“เราเชื่อว่าน่าจะมีการพิสูจน์แนวความคิดที่สามารถทำให้เป็นจริงขึ้นมาได้ ในการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาให้เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงได้ในภายหลัง และทำไมมันจะไม่ใช่รถแบบ Road Car ของทางค่าย Alpine เราหล่ะ?”
“เรารู้ดีว่าการแข่งขันในรายการ Le Mans นั้น มีการส่งเสริมให้ใช้รถในระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งเป็นการก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว แต่เราก็ต้องการที่จะก้าวนำไปข้างหน้าอีกหนึ่งขั้นเช่นกัน และการนำเอาไฮโดรเจนมาใช้เป็นเชื้อเพลิงก็เพื่อให้เราสามารถใช้เครื่องยนต์ V6 ซึ่งเป็นระบบไฮบริด และใช้การขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจนได้” Rossi กล่าว
ในเรื่องนี้บริษัทแม่ของ Alpine อย่าง Renault ได้ทำการสำรวจประสิทธิภาพของไฮโดรเจนสำหรับใช้ในรถยนต์ที่ใช้งานบนท้องถนน ด้วยแนวคิด Scenic Vision ซึ่งใช้ระบบส่งกำลังที่เป็นนวัตกรรมใหม่ อันประกอบด้วยมอเตอร์ EV 215bhp และแบตเตอรี่ 40kWh ซึ่งสามารถท็อปอัพในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวด้วยเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนขนาด 15kW
แต่ในเวลานี้นั้น ก็ยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์รายใดที่ใช้ระบบการเผาไหม้ด้วยไฮโดรเจนในซีรีส์รถยนต์รุ่นต่างๆที่กำลังผลิตออกมา โดยบริษัทฯที่มีการนำเสนอเทคโนโลยีด้านนี้ที่มีเสียงมากที่สุดก็คือ Toyota ซึ่งได้ชื่นชอบในความคุ้มค่าของการใช้เทคโนโลยีการเผาไหม้ที่มีอยู่ ในเรื่องของรถที่มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และได้แสดงให้เห็นว่าทั้งเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร ของ Toyota GR Yaris และเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ของ Lexus RC F ต่างต้องการการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเพื่อให้สามารถทำงานกับก๊าซไฮโดรเจนได้
ข้อมูลและภาพจาก autocar
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com