เอาหละสิ!! รัฐบาลเตรียมยกเครื่อง กฎหมายการขับรถ เพื่อลดการสูญเสียในช่วงเทศกาล

เทศกาลสงกรานต์ ปี 2559 ได้สิ้นลง พร้อมกับอุบัติเหตุที่มากขึ้นกว่าปีก่อนๆ ตลอด 7 วัน (11-17 เมษายน) รวม 3,447 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 442 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 3,656 ราย เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เกิดอุบัติเหตุรวม 3,373 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 364 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,559 ราย

โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดอันดับหนึ่งคือเมาสุรา รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกำหนด ซึ่งรถจักรยานยนต์ยังคงเป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ทำให้ รัฐบาลเตรียมหาแนวทางแก้ไขอุบัติเหตุทางท้องถนน โดยเฉพาะกฎหมายควบคุมเมาแล้วขับ และการขับรถเร็ว หลังจากตัวเลขผู้เสียชีวิตช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์พุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี 

[IMAGE1]

โดย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เตรียมศึกษาแก้กฎหมายหลายฉบับ เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน อาทิ ลดค่าตรวจวัดปริมาณแอลกฮอล์ จากเดิมไม่เกิน 50 เหลือ 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์, ลดการควบคุมความเร็วในเขตเมือง จากเดิมไม่เกิน 80 เหลือ 30–40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกเขตเมืองจาก ไม่เกิน 90 เหลือ 30-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงนำคำสั่ง คสช.ในเรื่องมาตรการยึดรถและใบขับขี่ มาใช้เป็นกฎหมายถาวร

โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณาในเดือนหน้าและแก้ไขกฎหมายให้แล้วเสร็จใน 5 เดือน เพื่อให้ทันใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.วันนี้ ขอให้มีการกำหนดโทษที่รุนแรงขึ้นแตกต่างกัน ในกรณีการกระทำผิดซ้ำในข้อหาเดียวกันด้วย

นอกจากนี้ทาง เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ แนะรัฐบาลนำ เจแปน เซฟตี้ โมเดล เป็นต้นแบบปรับใช้กับสังคมไทย ยกระดับฐานความผิดเมาแล้วขับ ไม่ใช่แค่ประมาท แต่ให้ถือเป็นอาชญากรรมทางสังคมอย่างหนึ่ง รวมทั้งเอาผิดกับผู้นั่งมาด้วย เพราะถือว่าสนับสนุนให้กระทำผิด ขณะที่สังคมไทยกลัวโซเชียลมีเดีย มากกว่ากฎหมาย จึงควรรณรงค์ให้ติดกล้องรถยนต์ เพิ่มหลักฐานเอาผิดผู้ฝ่าฝืนวินัยจราจร

 

ที่มา Dailynews และ Krobkruakao

ที่มาภาพ Prachachat

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com