Tesla เร่งแผนการเปิดบริการ Robotaxi ในสหรัฐฯ พร้อมยื่นขอใบอนุญาตให้บริการฟลีตในแคลิฟอร์เนีย

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 3 มี.ค. 68 21:39
  • 1,652 อ่าน

บริการเรียกรถจะเริ่มต้นด้วยคนขับก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดย Tesla กำลังเร่งดำเนินการเข้าสู่ธุรกิจบริการเรียกรถ (Ride-Hailing) อย่างจริงจัง และไม่ใช่แค่การพูดถึงอีกต่อไป บริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตการขนส่งจากคณะกรรมการสาธารณูปโภคของรัฐแคลิฟอร์เนีย (CPUC) ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการดำเนินการฟลีตของรถยนต์สำหรับบริการโดยคิดค่าบริการ ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า Tesla กำลังเดินหน้าไปสู่การเปิดตัวบริการ Robotaxi ที่หลายคนคาดหวังมานาน

Tesla Robotaxi

ตามรายงานจาก Reuters และ Bloomberg บริการเรียกรถของ Tesla คาดว่าจะเริ่มต้นด้วยคนขับรถมนุษย์ในเบื้องต้น ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้การขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างเต็มตัว แม้ว่าที่ผ่านมา Elon Musk จะเคยสัญญาว่าจะมีการเปิดตัวฟลีตแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติในสหรัฐฯ ในปี 2025 แต่ปัญหาด้านกฎระเบียบและข้อจำกัดของซอฟต์แวร์ Full Self-Driving (FSD) ของ Tesla ทำให้การเปิดตัวแท็กซี่ไร้คนขับยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

กลยุทธ์ของ Musk คล้ายกับบริษัทอื่น ๆ เช่น Waymo ที่เริ่มต้นด้วยการให้บริการโดยมีคนขับ ก่อนที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปใช้การขับเคลื่อนอัตโนมัติ Tesla ยังวางแผนที่จะเปิดบริการเรียกรถในรัฐเท็กซัสในปีนี้ อาจเริ่มได้เร็วที่สุดในเดือนมิถุนายน และแคลิฟอร์เนียอาจตามมาหลังจากนั้น นอกจากใบอนุญาตการขนส่งแล้ว Tesla ยังต้องการใบอนุญาตการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่แยกต่างหากเพื่อให้สามารถเปิดบริการแท็กซี่ไร้คนขับได้

Tesla Robotaxi

Cybercab ของ Tesla ที่เป็นรถยนต์สำหรับบริการเรียกรถไร้คนขับกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2024 ซึ่งไม่มีพวงมาลัยและปีกเหยียบ แต่การผลิตคาดว่าจะเริ่มไม่ก่อนปี 2027 ในระหว่างนี้ Tesla จะใช้ฟลีตของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่ พร้อมคนขับ

Musk ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการที่ Tesla ใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยพึ่งพาแค่กล้องและเครือข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) แทนการใช้ LiDAR ซึ่งได้รับความนิยมจากคู่แข่งเช่น Waymo และ Cruise วิธีการนี้ได้สร้างความสงสัยในวงการว่าระบบที่ใช้แค่การมองภาพจะสามารถบรรลุการขับเคลื่อนอัตโนมัติได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

Tesla Robotaxi

ในขณะเดียวกัน Waymo ก็กำลังขยายการดำเนินงานของแท็กซี่ไร้คนขับ และปัจจุบันสามารถให้บริการได้กว่า 200,000 ครั้งต่อสัปดาห์ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น ซานฟรานซิสโก, ฟีนิกซ์ และลอสแองเจลิส ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ Tesla ต้องพิสูจน์ว่ามันสามารถแข่งขันได้ แต่แผนการของ Tesla ยังไม่จำกัดแค่ในสหรัฐฯ เพราะยังมีเป้าหมายที่จะเปิดบริการเรียกรถในประเทศจีนอีกด้วย

ที่มา Carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ