Tesla เผชิญแรงกดดันหนัก รายได้ไตรมาสแรกปี 2025 ดิ่ง 66% ท่ามกลางยอดขายทั่วโลกลดลง

Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 ด้วยรายได้จากการดำเนินงานที่ลดลงถึง 66% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จากผลกระทบของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกลดลงถึง 13%

ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2025 Tesla มีรายได้จากการดำเนินงานเพียง 399 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 13,765 ล้านบาท ลดลงจาก 1.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 40,365 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 2024

รายได้จากรถยนต์ลดลง 20% แม้ธุรกิจพลังงานจะยังเติบโต

รายได้จากธุรกิจรถยนต์ลดลงจาก 17.4 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 600,300 ล้านบาท) เหลือเพียง 14 พันล้านดอลลาร์ฯ (ประมาณ 483,000 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ธุรกิจด้านพลังงานและบริการเติบโตสวนทาง โดยรายได้จากพลังงานเพิ่มขึ้น 67% และบริการเพิ่มขึ้น 15%

รวมแล้ว Tesla มีรายได้รวมในไตรมาสแรกอยู่ที่ 19.3 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 666,850 ล้านบาท ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ที่ 21.45 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 740,025 ล้านบาท) คิดเป็นการลดลงประมาณ 9% ส่วนกำไรขั้นต้นรวมลดลง 15% อยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 110,400 ล้านบาท

ปฏิเสธคาดการณ์รายได้ตลอดปี 2025 ชี้ปัจจัยไม่แน่นอนหลายด้าน

“เป็นเรื่องยากที่จะประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศต่อห่วงโซ่อุปทานของยานยนต์และพลังงาน โครงสร้างต้นทุนของเรา รวมถึงความต้องการสินค้าและบริการ”

Tesla จะพิจารณาคำแนะนำใหม่อีกครั้งในรายงานไตรมาส 2 ของปีนี้

แรงกระแทกจากการเมืองและบทบาทของ Elon Musk

ยอดขายที่ตกต่ำยังถูกโยงไปถึงบทบาททางการเมืองของ Elon Musk ที่เข้าร่วมในฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump โดยจะหมดวาระในวันที่ 30 พฤษภาคม 2025 มีรายงานว่ามีกระแสกดดันให้ Musk ออกจากตำแหน่งเร็วกว่านั้น

แม้มีรถใหม่ แต่ยอดขายยังไม่ฟื้น

แม้ Tesla จะเปิดตัว Model 3 รุ่นปรับปรุง และเตรียมส่ง Model Y รุ่นใหม่ ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในออสเตรเลียเดือนพฤษภาคม 2025 แต่ยอดขายก็ยังไม่ฟื้น รถ Cybertruck เองก็ยังไม่แน่นอนว่าจะวางขายในออสเตรเลีย และเผชิญปัญหาเรียกคืนจำนวนมาก

ยกเลิกโครงการรถ EV ราคาถูก เดินหน้า Model Y เวอร์ชันประหยัดแทน

Tesla ยกเลิกโครงการรถ EV ราคาประหยัดราว 862,500 บาท และมุ่งไปที่การพัฒนา Model Y เวอร์ชันราคาประหยัดแทน แต่โครงการนี้ก็ล่าช้า

คู่แข่งจีน BYD ยอดขายพุ่ง 60% – รถไฮบริดครองตลาด

BYD มียอดขายรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 60% ในไตรมาสแรกของปี 2025 แซงหน้า Tesla ได้สำเร็จ ขณะเดียวกันยอดขายรถไฟฟ้าในออสเตรเลียลดลง 20.5% ขณะที่รถไฮบริดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคิดเป็น 15% ของยอดขายรถใหม่ทั้งหมด

ข้อมูลจาก Drive