เปิดตัวรถตู้ปรับใหม่ Renault Master ครั้งใหญ่ หลากขุมพลังไฟฟ้า EV, ดีเซล และไฮโดรเจน
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 27 พ.ย. 66 11:41
- 2,276 อ่าน
Renault เปิดตัวรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก รถตู้ Master (LCV) ที่มาพร้อมการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 13 ปีดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น เป็นรถตู้เจเนอเรชั่นใหม่ที่มีหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีกว่า และมีตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล ระบบไฟฟ้า และระบบส่งกำลังไฮโดรเจน
รถตู้ปรับใหม่ Renault Master นี้ มาพร้อมไฟหน้า LED รูปตัว C สไตล์ Megane สัญลักษณ์ใหม่บนกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้น และช่องรับอากาศที่ทันสมัย และส่วนท้ายที่ออกแบบใหม่ ฝากระโปรงหน้าสั้นลง มุมบังลมลดลง และส่วนท้ายด้านหลังแคบลง
และแพลตฟอร์มใหม่นี้รองรับหลากขุมพลังทั้งระบบส่งกำลังดีเซล ไฟฟ้า และไฮโดรเจน เครื่องยนต์ดีเซล Blue dCi มีให้เลือกกำลัง 4 แบบ โดยให้กำลัง 105 แรงม้า, 130 แรงม้า, 150 แรงม้า หรือ 170 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
ส่วนเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่ให้กำลัง 129 แรงม้า (96 kW / 130 PS) หรือ 141 แรงม้า (105 kW / 143 PS) พร้อมแรงบิด 300 นิวตันเมตร มีชุดแบตเตอรี่ 40 kWh ซึ่งให้ระยะทาง WLTP 180 กม. (112 ไมล์) และรุ่นที่แรงกว่ามีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า ที่ 87 kWh ซึ่งขยายระยะการขับขี่เป็น 410 กม. (255 ไมล์) และยังรองรับการชาร์จเร็ว DC 130 kW เพิ่มระยะการเดินทาง 229 กม. (142 ไมล์) ใน 30 นาที
และทางเลือกเครื่องยนต์เทคโนโลยีไฮโดรเจน H2 และระบบส่งกำลังเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) ในอนาคต ซึ่งทาง Renault ยังไม่เปิดเผยข้อกำหนดเฉพาะสำหรับรุ่นนี้
ภายในห้องโดยสารแดชบอร์ดหน้าออกแบบให้มีความโค้งเหมือนตัว S มีหน้าจอสัมผัสมาตรฐานขนาด 10 นิ้วสำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์ OpelR Link ที่มี Google ในตัว แผงหน้าปัดดิจิทัล แป้นหมุนสำหรับควบคุมสภาพอากาศ และพวงมาลัยที่ยืมมาจากรถ Renault
พื้นที่เก็บของในห้องโดยสารเพิ่มขึ้น 25% เป็น 135 ลิตร (4.8 ลูกบาศก์ฟุต) เนื่องจากมีช่องต่างๆ มากมาย ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงพอร์ต USB-C, ที่ชาร์จไร้สาย, ที่วางแก้ว, ลิ้นชัก, ชั้นเก็บของแบบติดประตู และช่องบนเพดานห้องโดยสาร
และยังมีให้เลือกมากกว่า 40 รุ่น โดยมีความยาว ความสูง และรูปแบบพื้นที่บรรทุกสินค้าแตกต่างกัน ความจุอยู่ระหว่าง 11-22 ลูกบาศก์เมตร (388-777 ลูกบาศก์ฟุต) ในขณะที่น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 4 ตัน และจะถูกผลิตในเมือง Batily ประเทศฝรั่งเศส โดยทุกรุ่นจะถูกสร้างขึ้นบนสายการประกอบเดียวกัน ส่วนราคาจะประกาศช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2024
ที่มา carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com